กระทรวงพาณิชย์ ขยายช่องทางอี-คอมเมิร์ช ใช้เว็บไซต์ ThaiCommerceStore.com เป็นศูนย์รวมผลิตภัณฑ์ชุมชนออนไลน์ (e-Market Place) ปัจจุบันมีร้านค้าที่เข้าร่วมแล้วจำนวน 1,324 ราย ช่วยผลักดันผลิตภัณฑ์ชุมชนไทยสู่ตลาดสากล ลดต้นทุนการตลาด สร้างรายได้ให้มากขึ้นและขยายตลาดให้ผู้ประกอบธุรกิจ SMEs พร้อมเน้นอำนวยความสะดวกในการซื้อขายสินค้าให้คนไทยทุกระดับ
นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์มอบหมายให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ดำเนินการส่งเสริมและให้ความสำคัญกับธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ หรือ e-Commerce เนื่องจากเป็นธุรกิจที่อยู่ในความนิยมของผู้บริโภคและวงการการค้าโลก มีอัตราการขยายตัวและการเจริญเติบโตแบบก้าวกระโดด จากผลสำรวจในปี 2558 ของสำนักงานพัฒนาธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ (ETDA) พบว่า ประเทศไทยมีร้านค้าออนไลน์อยู่ 502,676 ราย สร้างมูลค่าทางการตลาดกว่า 2.1 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2557 ถึง 3.7 % กระทรวงฯ จึงได้กำหนดนโยบายนำธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ซึ่งเป็นการค้าแบบไร้พรมแดนเข้ามาช่วยในการเพิ่มศักยภาพด้านการตลาดและส่งเสริมการขายผลิตภัณฑ์ชุมชนของไทย เพื่อสร้างโอกาสทางการตลาดให้แก่สินค้าภูมิปัญญาท้องถิ่นของคนไทยให้เป็นที่รู้จักทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยเฉพาะการทำการตลาดผ่านช่องทางการค้าออนไลน์ ซึ่งเป็นรูปแบบการค้าที่สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจ/สังคม และพฤติกรรมการบริโภคของผู้คนในยุคปัจจุบันที่ต้องการความสะดวก รวดเร็ว สามารถเข้าถึงสินค้าได้ทุกที่ทุกเวลา
ThaiCommerceStore.com ตลาดกลางผลิตภัณฑ์ชุมชนออนไลน์ จัดทำขึ้นโดยกรมพัฒนาธุรกิจการค้าตั้งแต่ปี 2557 เพื่อเป็นศูนย์กลางในการรวบรวมผู้ประกอบธุรกิจผลิตภัณฑ์ชุมชนของไทยประกอบด้วย ผลิตภัณฑ์จากศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ สินค้า OTOP, Organic, Halal, GI (สินค้าที่เป็นสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์) และ Fairtrade (การค้าที่ให้ความเป็นธรรมแก่ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่าย) ปัจจุบันมีร้านค้าออนไลน์ที่เข้าร่วมแล้วจำนวน 1,324 ร้านค้า ผู้บริโภคโดยสามารถเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ชุมชนได้อย่างสะดวกสบายหลากหลายช่องทางตอบสนองไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคยุคดิจิตอล ได้แก่ เว็บไซต์ www.thaicommercestore.com และ Application: Thai Commerce Store สามารถเข้าระบบได้ทั้งคอมพิวเตอร์ และ Smart Phone
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ยังกล่าวเพิ่มเติมด้วยว่า การสร้างตลาดกลางผลิตภัณฑ์ชุมชนออนไลน์ ThaiCommerceStore.com นี้ ไม่เพียงแต่สอดคล้องกับนโยบาย "เศรษฐกิจดิจิตอล (Digital Economy)” ของรัฐบาล ที่ต้องการให้ผู้ประกอบธุรกิจหรือธุรกิจ SMEsได้นำเทคโนโลยีสมัยใหม่ไปใช้ในการดำเนินธุรกิจมากขึ้น ยังรวมถึงการนำ e-Commerce ไปใช้ เพื่อขยายโอกาสทางการตลาด เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และสร้างความเข้มแข็งให้แก่ผลิตภัณฑ์ชุมชนของไทยในระยะยาว โดยในที่สุดมูลค่าทางการค้าก็คือ รายได้ที่กลับคืนสู่ชุมชนส่งผลต่อความอยู่ดีกินดี อันจะเป็นการสร้างความแข็งแกร่งให้แก่ท้องถิ่นและเศรษฐกิจของประเทศต่อไป
กระทรวงพาณิชย์จึงขอเชิญชวนผู้ที่สนใจในผลิตภัณฑ์ชุมชนหันมาเลือกซื้อสินค้าของผู้ประกอบธุรกิจผลิตภัณฑ์ชุมชนทั่วประเทศได้ที่ www.ThaiCommerceStore.com ทั้งนี้ กระทรวงฯ จะเดินหน้าพัฒนาระบบเชื่อมต่อ Payment Gateway กับธนาคารชั้นนำ เพื่อให้ผู้ประกอบธุรกิจที่เป็นบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลได้มีระบบชำระเงินใน Thai Commerce Store และก้าวไปสู่การค้าออนไลน์แบบสมบูรณ์ รวมถึงการขยายจำนวนร้านค้าอย่างต่อเนื่องให้ครอบคลุมผลิตภัณฑ์ชุมชนทั่วประเทศเพื่อให้ทั้งผู้ซื้อและผู้ขายสามารถเข้าถึงและเลือกซื้อขายผลิตภัณฑ์ชุมชนได้สะดวก รวดเร็ว ทุกที่ ทุกเวลา
ข่าวเด่น