บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศแต่งตั้ง 2 ผู้บริหารคนไทยให้ดำรงตำแหน่ง “กรรมการรองผู้จัดการใหญ่” โดยมีนายอัสนีย์ กุลโกวิท กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ สายงานวิศวกรรมการผลิต และนายเอกอธิ รัตนอารี กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ สายงานนวัตกรรมการปฏิบัติงาน เพื่อเสริมทีมบริหารให้มีความแข็งแกร่งยิ่งขึ้นและร่วมขับเคลื่อนบริษัทให้เติบโตอย่างยั่งยืนและมีประสิทธิภาพสูงสุด มีผลตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2559 เป็นต้นไป
นายอัสนีย์ มีหน้าที่ดูแลและรับผิดชอบการเตรียมงานโครงการในส่วนต่างๆ ทั้งด้านเทคนิค การเตรียมความพร้อมของเครื่องจักร รวมถึงกฎระเบียบต่างๆ เพื่อการผลิตและสนับสนุนการผลิตให้กับโรงงานผลิตรถยนต์ทั้ง 3 แห่งและโรงงานผลิตเครื่องยนต์ 1 แห่งของมิตซูบิชิที่นิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี เพื่อจำหน่ายภายในประเทศและส่งออกไปกว่า 150 ประเทศทั่วโลก ด้วยฝีมือการผลิตของคนไทยอย่างแท้จริง ซึ่งโรงงานทั้ง 4 แห่งนี้ถือได้ว่าเป็นฐานการผลิตที่ใหญ่ที่สุดของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น และมีฐานะเป็นโรงงานต้นแบบของประเทศในอาเซียน ที่มีคุณภาพสูงและมาตรฐานระดับโลก
“เป้าหมายในการทำงานต่อจากนี้ไป เรามุ่งส่งเสริมให้โรงงานผลิตในประเทศไทยเป็นฐานการผลิตที่สำคัญในการทำตลาดส่งออกไปยังประเทศต่างๆ ทั่วโลกได้อย่างครอบคลุมมากยิ่งขึ้น โดยเน้นคุณภาพที่สูงขึ้นของรถทุกคันที่ผลิตออกจากโรงงาน รวมถึงสนับสนุนและพัฒนาศักยภาพของพนักงานให้มีความสามารถมากขึ้น ภายใต้ กลยุทธ์ ‘BE COMPETITIVE’ ที่สามารถแข่งขันได้ในทุกๆ ด้าน เช่น ด้านเทคโนโลยี ด้านการลงทุน ด้านคุณภาพ และด้านบุคลากร” นายอัสนีย์กล่าว
ทั้งนี้ นายอัสนีย์มีประสบการณ์การทำงานและเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมการผลิตในโรงงานมิตซูบิชิ มอเตอร์สฯ มาอย่างยาวนานเกือบ 4 ทศวรรษ โดยก่อนหน้านี้ดำรงตำแหน่งกรรมการและผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ก่อนที่จะก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งใหม่ล่าสุด กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ สายงานวิศวกรรมการผลิต
นายเอกอธิ ดูแลสายงานนวัตกรรมการปฏิบัติงาน โดยมีขอบข่ายความรับผิดชอบด้านการพัฒนาธุรกิจในประเทศ (Domestic Operation Improvement) ด้านพัฒนาทรัพยากรบุคคล รวมถึงด้านการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงกระบวนการทำงานให้มีประสิทธิภาพสูงสุด
“เราต้องสร้างความแข็งแกร่งของการปฏิบัติงานของผู้จำหน่ายทั่วประเทศ เพื่อยกระดับแบรนด์มิตซูบิชิ จึงได้มีการกำหนดมาตรฐานการปฏิบัติงาน (Dealer Operation Standard) ของผู้จำหน่ายทั่วประเทศ เราเชื่อว่า ทรัพยากรบุคคลนั้นสำคัญมาก (HR is the Key) ซึ่งต้องพัฒนาความสามารถของบุคลากรของเราตลอดเวลา เพื่อให้บริษัทมีการเจริญเติบโตอย่างยั่งยืน” นายเอกอธิกล่าว
นายเอกอธิได้ผ่านการทำงานด้านการเงินและการวางแผนเชิงกลยุทธ์หลายปีในธุรกิจการเงินการธนาคาร ก่อนที่จะมาร่วมงานกับมิตซูบิชิ มอเตอร์สฯ ในปี 2546 และในปี 2551 ได้ร่วมงานกับบริษัท มิตซูบิชิ ฟูโซ่ ทรัค (ประเทศไทย) จำกัด ในตำแหน่งกรรมการรองผู้จัดการใหญ่ สายการเงิน (Chief Finance Officer) และในปี 2554 กลับเข้ามาทำงานที่มิตซูบิชิ มอเตอร์สฯ ในตำแหน่งผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการเงินและได้ดูแลสำนักพัฒนาธุรกิจในประเทศ ซึ่งเป็นหน่วยงานที่จัดตั้งขึ้นใหม่ เพื่อพัฒนาเครือข่ายของผู้จำหน่ายมิตซูบิชิ ทั่วประเทศ ในเดือนมกราคม 2558
ข่าวเด่น