กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ จับมือ แม็คโคร ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ “โครงการหนูณิชย์พาชิม” สนับสนุนวัตถุดิบครบครัน คุณภาพดี ในราคาขายส่งเพื่อช่วยลดต้นทุนให้กับผู้ประกอบการร้านอาหารในโครงการ มุ่งรณรงค์ลดต้นทุนเพื่อร้านสมาชิกหนูณิชย์ และลดค่าครองชีพเพื่อผู้บริโภค โดยมี นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์, นางสาววิบูลย์ลักษณ์ ร่วมรักษ์ อธิบดีกรมการค้าภายใน พร้อมด้วย นางเสาวลักษณ์ ถิฐาพันธ์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานบริหารการเงิน และหน่วยงานสนับสนุน ร่วมลงนาม
นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้ลงนามข้อตกลงความร่วมมือสนับสนุนโครงการร้านจำหน่ายอาหารปรุงสำเร็จ "หนูณิชย์ พาชิม" ระหว่างกรมการค้าภายในกับบริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) เพื่อสนับสนุนร้านอาหารหนูณิชย์ โดยจำหน่ายวัตถุดิบราคาถูกกว่าที่จำหน่ายให้คนทั่วไป เพื่อช่วยลดต้นทุน และทำให้ร้านสามารถจำหน่ายอาหารปรุงสำเร็จได้ในราคาจาน/ชามละ 25-35 บาท ซึ่งช่วยลดค่าครองชีพให้กับประชาชน และยังอยู่ระหว่างประสานห้างค้าปลีกสมัยใหม่อื่นๆ ให้ร่วมสนับสนุนด้วย คาดจะมีความชัดเจนในเร็วๆ นี้
ทั้งนี้ กระทรวงฯ ได้ขยายจำนวนร้านอาหารหนูณิชย์ พาชิม ทั่วประเทศได้เร็วกว่าเป้าที่ตั้งไว้ภายในสิ้นเดือน ก.ย.59 ซึ่งปัจจุบันมีร้านค้าดังกล่าวเปิดให้บริการแล้ว 10,681 ร้าน แบ่งเป็นในกรุงเทพฯ 3,698 ร้าน ภาคกลาง 2,296 ร้าน ภาคเหนือ 1,679 ร้าน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 2,204 ร้าน และ ภาคใต้ 804 ร้าน และยังเปิดรับสมัครร้านอาหารเพื่อเข้าร่วมโครงการเพิ่มเติมต่อไป
นางอภิรดีกล่าวว่า กระทรวงฯ กำลังขยายร้านหนูณิชย์ เข้าไปยังโรงงานและนิคมอุตสาห กรรม ซึ่งเป็นแหล่งที่มีผู้มีรายได้น้อยทำงานอยู่เป็นจำนวนมาก โดยจะประสานให้ร้านหนูณิชย์นำอาหารบรรจุถุงราคาถูกไปจำหน่ายหน้าโรงงาน เพื่อเป็นทางเลือกในการบริโภคอาหารราคาถูก
ด้าน น.ส.วิบูลย์ลักษณ์ ร่วมรักษ์ อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า กรมฯ ได้ช่วยเหลือร้านอาหารปรุงสำเร็จที่เข้าร่วมโครงการหนูณิชย์ โดยได้ประสานให้ธนาคารออมสินและกรุงไทย ช่วยเหลือด้านเงินทุน ประสานบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ช่วยจำหน่ายก๊าซหุงต้มในราคาถูก ซึ่งปัจจุบันซื้อได้เดือนละ 10 ถัง และกำลังเจรจาขอเพิ่มให้อยู่ ส่วนวัตถุดิบได้ประสานห้างค้าส่งค้าปลีกสมัยใหม่จำหน่ายให้ในราคาถูก รวมถึงประสานสมาชิกหอการค้าจังหวัด ให้จำหน่ายวัตถุดิบต่างๆ ให้ในราคาถูกด้วย
นางเสาวลักษณ์ ถิฐาพันธ์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานบริหารการเงิน และหน่วยงานสนับสนุน บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) กล่าวถึง ความร่วมมือ ‘โครงการหนูณิชย์พาชิม’ กับกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ ในครั้งนี้ว่า แม็คโครในฐานะที่เป็น “คู่คิดธุรกิจ ตัวจริงด้านอาหาร” รู้สึกยินดีที่ได้มีส่วนช่วยสนับสนุนผู้ประกอบการร้านอาหาร ภัตตาคาร โรงแรม เพราะเราเป็นศูนย์จำหน่ายวัตถุดิบ และอุปกรณ์ เพื่อการประกอบธุรกิจอาหารที่หลากหลาย ครบครันและมีคุณภาพดี ในราคาขายส่ง กว่า 20,000 รายการ เพื่อให้ผู้ประกอบการได้เลือกสรรเพื่อนำไปปรุงจำหน่ายแก่ผู้บริโภคในราคาลดต้นทุนทุกวัน ปัจจุบันแม็คโครมีสาขาเกือบ 100 สาขาทั่วประเทศ ที่พร้อมให้ผู้ประกอบการร้านอาหาร มาเลือกซื้อสินค้าได้สะดวก ประหยัดเวลา และประหยัดเงินเพราะครบครัน ในราคาขายส่ง และตั้งแต่เดือนมิถุนายนนี้ พิเศษเพื่อสมาชิกโครงการหนูณิชย์ แม็คโครขอมอบคูปองส่วนลดมูลค่ารวมกว่า 4,000 บาทตั้งแต่วันนี้ จนถึงสิ้นปี ซึ่งโครงการนี้จะเป็นการช่วยลดภาระค่าครองชีพของประชาชนอย่างเป็นรูปธรรม เปิดโอกาสให้ผู้บริโภคมีทางเลือกในการอิ่มอร่อยกับอาหารที่สะอาด ถูกหลักอนามัย ปรุงด้วยวัตถุดิบคุณภาพ ในราคาถูก 25 – 35 บาท ต่อจาน นอกจากนี้ แม็คโครยังให้ความสำคัญ ในการพัฒนาองค์ความรู้เพื่อให้ผู้ประกอบการร้านอาหาร สามารถต่อยอดธุรกิจได้โดยการจัดอบรม เสริมทักษะ และพัฒนาเมนูอาหารใหม่ ซึ่งในปีที่ผ่านมาได้เปิดอบรมให้ความรู้การประกอบอาหาร ไปแล้วกว่า 35ครั้ง ใน 23จังหวัด มีผู้เข้าร่วมการอบรมกว่า 40,000 ราย ซึ่งสมาชิก โครงการ ‘หนูณิชย์พาชิม’ สามารถเข้าร่วมการอบรมเพื่อนำไปพัฒนาศักยภาพของตนเองอีกด้วย”
โดยลูกค้าที่เป็นสมาชิกหนูณิชย์ สามารถสมัครสมาชิกแม็คโคร ได้ที่แม็คโครทุกสาขา และ จะได้รับแพ็คต้อนรับลูกค้าสมาชิกใหม่ ประกอบด้วยผ้ากันเปื้อน เมนูอาหาร และส่วนลดสินค้าแบรนด์เอโร่ต่างๆ อีกมากมาย โดยแม็คโครเข้าร่วมโครงการนี้ตั้งแต่ 1 มิถุนายน จนถึงธันวาคมศกนี้ ผู้บริโภคสามารถเลือกซื้ออาหารจากร้านค้าที่เข้าร่วมรายการได้โดยการสังเกตป้ายสัญลักษณ์ “หนูณิชย์พาชิม” ที่ติดไว้หน้าร้าน
อนึ่ง โครงการ “ร้านหนูณิชย์...พาชิม” เป็นโครงการที่ดำเนินการโดยกรมการค้าภายใน เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนร้านอาหารที่มีลักษณะจำหน่วยอาหารปรุงสำเร็จประเภทอาหารจานเดียว เช่น ข้าวราดแกง ก๋วยเตี๋ยว อาหารตามสั่ง ขนมจีน อาหารถุง ที่ร้านค้าจำหน่ายในราคา จาน/ชาม/ถุง/กล่อง ละ 25-35 บาท เพื่อเป็นการลดค่าครองชีพ และเป็นทางเลือกให้ประชาชนได้รับประทานอาหารราคาประหยัด ภายใต้สโลแกน “ถูก สะอาด ดี อร่อย”
.jpg)
ข่าวเด่น