นายกฤษฎา บุญราช ปลัดกระทรวงมหาดไทย ส่งข้อความผ่านแอพพลิเคชั่น ถึง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และคณะกรรมการหมู่บ้าน (กม.) ทุกจังหวัด ว่า ตามที่รัฐบาลและกระทรวงมหาดไทยได้มอบหมายภารกิจให้กำนัน ผญบ.ร่วมกับ ก.ม.จัดทำโครงการตามมาตรการส่งเสริมความเป็นอยู่ระดับตำบล เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน ด้วยงบประมาณตำบลละ 5 ล้านบาท ในพื้นที่ 7,255 ตำบล รวมวงเงินกว่า 36,000 ล้านบาท ได้แล้วเสร็จและมีผลประเมินว่าโครงการนี้ได้มีส่วนสำคัญอย่างมากในการช่วยแก้ไขปัญหาและพัฒนาหมู่บ้าน ชุมชน ทำให้ความเป็นอยู่ของประชาชนดีขึ้น จึงนับได้ว่าความสำเร็จเป็นผลงานสำคัญที่เกิดจากการทำงานของกำนัน ผญบ.และ ก.ม.เป็นพลังสำคัญแห่งความสำเร็จในครั้งนี้
เมื่อวันที่ 5 เมษายน รัฐบาลได้อนุมัติงบประมาณตามโครงการยกระดับศักยภาพหมู่บ้านเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากตามแนวทางประชารัฐหรือโครงการหมู่บ้านละ 200,000 บาท ให้มอบหมายให้กำนัน ผญบ.และ ก.ม. ไปจัดประชุมประชาคมเพื่อปรึกษาหารือกับประชาชนในหมู่บ้านจัดทำโครงการที่เป็นสาธารณประโยชน์ทั้งด้านเศรษฐกิจและสังคมและเป็นไปตามความต้องการของประชาชนในพื้นที่ สอดคล้องกับหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงที่เน้นการพัฒนาอย่างยั่งยืนเพื่อพัฒนาและแก้ไขปัญหาหมู่บ้านภายในวงเงินหมู่บ้านละ 200,000 บาท เสนอคณะกรรมการระดับอำเภอซึ่งมีนายอำเภอเป็นประธานพิจารณาอนุมัติตามขั้นตอน แล้วส่งกลับไปให้ผญบ.และ ก.ม.ร่วมกันทำโครงการตามที่ได้รับอนุมัติและดำเนินการเบิกจ่ายเงินงบประมาณโดยคณะกรรมการหมู่บ้านเอง
“ความสำเร็จในการดำเนินโครงการนี้นั้น ผู้ใหญ่บ้านและคณะกรรมการหมู่บ้านมีความสำคัญอย่างยิ่ง ที่จำเป็นจะต้องดำเนินการด้วยความระมัดระวังและละเอียดรอบคอบเพื่อให้เกิดผลสัมฤทธิ์ตามกรอบระยะเวลาและให้การดำเนินการทุกขั้นตอนเกิดความถูกต้อง โปร่งใส ตรวจสอบได้ จึงขอแนะนำควรจัดทำโครงการที่สามารถแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับการขาดแคลนน้ำหรือซ่อมแซมต่อเติมสิ่งสาธารณประโยชน์ในหมู่บ้านหรือเป็นการขยายผลโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ดังเช่นการจัดทำเหมืองฝายทดน้ำ การต่อหรือขยายการวางท่อน้ำประปาหมู่บ้าน การขุดลอกหน้าเหมืองฝาย/การขุดบ่อ สระไว้กักเก็บน้ำ การซ่อมแซมถนนภายในหมู่บ้านที่ไม่มีหน่วยงานใดรับผิดชอบ การรวมกลุ่มทำอาชีพเสริมต่างๆ การซ่อมแซมศาสนสถานวัดมัสยิด โบสถ์ เป็นต้น” นายกฤษฎากล่าว
ปลัดกระทรวงมหาดไทยกล่าวว่า ขอให้กำนัน ผญบ. ประสานงานกับ ก.ม. ซึ่งมีงบประมาณกองทุนพัฒนาหมู่บ้าน แห่งละ 500,000 บาท รวมทั้งประสานกับ อบต.หรือเทศบาลด้วย เพื่อไม่ให้โครงการซ้ำซ้อนหรือมีพื้นที่ทับซ้อนกัน โดยควรแบ่งพื้นที่ดำเนินการโครงการและให้โครงการครอบคลุมพื้นที่หมู่บ้านทั้งหมด เพื่อให้ประชาชนได้รับประโยชน์ทั้งหมู่บ้าน และต้องไม่ใช้งบประมาณรวมกัน หรือเป็นไปเพื่อเฉพาะพื้นที่ใดพื้นที่หนึ่งอย่างเด็ดขาด นายกฤษฎากล่าวว่า เนื่องจากโครงการพัฒนาหมู่บ้านละ 200,000 บาทนี้ เป็นโครงการที่ “เสนอโดยประชาชน ทำโดยประชาชน และเพื่อประชาชนในหมู่บ้าน” ส่วนราชการหรือบุคคลอื่นนอกหมู่บ้านไม่ได้ยุ่งเกี่ยวด้วย จึงเป็นไปตามหลักการมีส่วนร่วมของประชาชนที่เป็นเสียงส่วนใหญ่ในหมู่บ้านตามหลักการปกครองแบบประชาธิปไตย
“กระทรวงมหาดไทยจึงขอให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้านและคณะกรรมการหมู่บ้าน ช่วยกันดูแลทำให้โครงการหมู่บ้านละ 200,000 บาท เกิดประโยชน์ต่อประชาชนในพื้นที่อย่างแท้จริง ระมัดระวังอย่าให้เกิดการทุจริต เรียกรับเงินผลประโยชน์โดยมิชอบอย่างเด็ดขาด เพื่อมิให้ใครมาดูหมิ่นดูแคลนกำนัน ผู้ใหญ่บ้านที่ได้รับความไว้วางใจในการทำงานครั้งนี้ ขอให้มีความสำนึกเตือนสติตนเองอยู่เสมอว่าการทำโครงการยกระดับศักยภาพหมู่บ้านฯหรือโครงการพัฒนาหมู่บ้านละ 200,000 บาท ในครั้งนี้เป็นการทำงานเพื่อพิสูจน์เกียรติยศและศักดิ์ศรีของกำนันและผู้ใหญ่บ้าน และเพื่อแสดงให้ทุกฝ่ายเห็นในที่สุดว่าสถาบันกำนัน ผู้ใหญ่บ้านคือ เจ้าพนักงานฝ่ายปกครองที่เป็นราชสีห์ผู้ภักดีต่อแผ่นดินอย่างแท้จริง” นายกฤษฎากล่าว
ข่าวเด่น