คาดการณ์แนวโน้มสถานการณ์ราคาน้ำมัน 30 พ.ค.-3 มิ.ย.59 : บมจ.ไทยออยล์
บทวิเคราะห์สถานการณ์น้ำมันประจำสัปดาห์ โดย บมจ. ไทยออยล์: คาดการณ์แนวโน้มสถานการณ์ราคาน้ำมัน 30 พ.ค.-3 มิ.ย.59
ราคาน้ำมันดิบถูกกดดัน คาดกลุ่มโอเปคไม่สามารถตกลงกันได้ในการรักษาเสถียรภาพของตลาดน้ำมันดิบ
ไทยออยล์คาดราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสในสัปดาห์นี้จะเคลื่อนไหวที่กรอบ 45 - 50 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวที่กรอบ 45 - 50 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
แนวโน้มสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบ (23 - 27 พ.ค. 59)
ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์นี้มีโอกาสอ่อนตัวลง จากแรงเทขายทำกำไรของนักลงทุน หลังจากที่ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ทะลุ 50 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เนื่องจากคาดว่ากลุ่มโอเปคจะไม่สามารถตกลงเรื่องการรักษาเสถียรภาพของตลาดน้ำมันดิบได้ในการประชุมวันที่ 2 มิ.ย. นี้ ประกอบกับ ตลาดมีแนวโน้มได้รับแรงกดดันจากค่าเงินดอลลาร์ ที่มีแนวโน้มแข็งค่าขึ้น อย่างไรก็ดี ราคาอาจไม่ได้ปรับลดลงไปมากนัก เนื่องจากตลาดยังคงได้รับแรงหนุนจากอุปทานน้ำมันดิบในเดือน พ.ค. ที่หายไปเกือบ 4 ล้านบาร์เรลต่อวัน มากกว่าในเดือน เม.ย. ที่มีอุปทานหายไปราว 3 ล้านบาร์เรลต่อวัน จากเหตุสุดวิสัยและการหยุดการดำเนินอย่างฉุกเฉินในแคนาดา ไนจีเรีย เวเนซุเอลา และลิเบีย
ปัจจัยสำคัญที่คาดว่าจะส่งผลกระทบต่อสถานการณ์ราคาน้ำมันในสัปดาห์นี้:
- จับตาการประชุมโอเปค ณ กรุง เวียนนา ประเทศออสเตรียในวันที่ 2 มิ.ย. นี้ ว่ากลุ่มโอเปคจะสามารถตกลงเรื่องการรักษาเสถียรภาพของตลาดน้ำมันดิบได้หรือไม่ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 17 เม.ย. ที่ผ่านมา กลุ่มผู้ผลิตน้ำมันดิบทั้งในและนอกกลุ่มโอเปคกว่า 18 ประเทศไม่สามารถตกลงเรื่องการตรึงปริมาณการผลิตได้ โดยผู้ผลิตน้ำมันดิบรายสำคัญในกลุ่มโอเปคยังไม่แสดงท่าทีว่าจะร่วมมือในการรักษาเสถียรภาพของตลาด เนื่องจากยังคงผลิตน้ำมันดิบในระดับที่สูงอย่างต่อเนื่องเพื่อต้องการรักษาส่วนแบ่งทางการตลาดไว้
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง อิหร่านที่ยังคงเดินหน้าผลิตและส่งออกน้ำมันเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่ได้รับการผ่อนปรนมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจจากชาติมหาอำนาจ โดยล่าสุดปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของอิหร่านในเดือน เม.ย. พุ่งขึ้นแตะระดับ 3.56 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งเทียบเท่ากับระดับเดียวกันของเดือน พ.ย. 54 ก่อนที่จะถูกคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจจากชาติมหาอำนาจ ในขณะที่ ซาอุดิอาระเบียยังคงเดินหน้าผลิตน้ำมันดิบสูงเกือบเป็นประวัติการณ์ที่ 10.26 ล้านบาร์เรลต่อวันในเดือน เม.ย.
- ค่าเงินดอลลาร์ มีแนวโน้มแข็งค่าขึ้น หลังจากที่ล่าสุดมีความเป็นไปได้มากขึ้นที่ธนาคารกลางสหรัฐ อาจพิจารณาปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินสหรัฐ (FOMC) วันที่ 14-15 มิ.ย. นี้ โดยรายงานการประชุม FOMC ประจำเดือน เม.ย. ส่งสัญญาณว่า Fed พร้อมขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งที่ 2 ต่อจากการปรับขึ้นครั้งแรกในรอบเกือบ 10 ปี เมื่อเดือน ธ.ค. 58 ที่ผ่านมา หากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ ส่งสัญญาณที่ชัดเจนถึงการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจในไตรมาส 2 ของปีนี้ และอัตราเงินเฟ้อมีแนวโน้มจะขยับเข้าใกล้เป้าหมาย 2% มากขึ้น
- อุปทานน้ำมันดิบในเดือน พ.ค. หายไปเกือบ 4 ล้านบาร์เรลต่อวัน มากกว่าในเดือน เม.ย. ที่มีอุปทานหายไปราว 3 ล้านบาร์เรลต่อวัน จากเหตุสุดวิสัยและการหยุดการดำเนินอย่างฉุกเฉิน ซึ่งนับเป็นระดับที่สูงสุดในรอบ 5 ปี โดยเหตุการณ์ไฟป่าในแคนาดาส่งผลให้ปริมาณการผลิตต้องชะงักไปราว 1.28 ล้านบาร์เรลต่อวัน รวมถึงปัญหาไฟฟ้าขาดแคลนและปัญหาทางการเงินจากภาวะราคาน้ำมันดิบตกต่ำของเวเนซุเอลา และความไม่สงบในไนจีเรียที่ยังคงยืดเยื้อจากการโจมตีแหล่งผลิตน้ำมันดิบและท่อขนส่งน้ำมันดิบที่สำคัญในประเทศโดยกลุ่มติดอาวุธ ไนเจอร์ เดลต้า อเวนเจอร์ส ทำให้บริษัทน้ำมันรายใหญ่หลายแห่งต้องหยุดดำเนินการผลิต และส่งผลให้ปริมาณผลิตน้ำมันดิบปรับลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 22 ปีที่ระดับ 1.4 ล้านบาร์เรลต่อวัน
- ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐ มีแนวโน้มปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) รายงานปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐ (ณ วันที่ 20 พ.ค.) ปรับตัวลดลงกว่า 8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า มาอยู่ที่ระดับ 8.77 ล้านบาร์เรลต่อวัน เนื่องจากผู้ผลิตน้ำมันดิบในสหรัฐ ชะลอการลงทุนและการผลิตน้ำมันดิบ นอกจากนี้ EIA คาดการณ์ว่าปริมาณการผลิตน้ำมันดิบจากชั้นหินดินดาน (Shale Oil) ในเดือน มิ.ย. จะชะลอตัวลงราว 113,000 บาร์เรล เป็นเดือนที่ 8 ติดต่อกัน สู่ระดับ 4.85 ล้านบาร์เรล
- ตัวเลขเศรษฐกิจที่น่าติดตามในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ดัชนีราคาผู้บริโภค ดัชนีภาคการผลิต (Markit PMI) ดัชนีภาคการบริการ และยอดค้าปลีกของยูโรโซน รายจ่ายในการบริโภคของบุคคล รายได้ส่วนบุคคล ความเชื่อมั่นผู้บริโภค ดัชนีภาคการผลิต (ISM PMI) จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก การจ้างงานนอกภาคการเกษตร อัตราการว่างงาน และดัชนีภาคการบริการ (ISM Non-PMI) ของสหรัฐ ดัชนีภาคการบริการ (Service PMI) และดัชนีภาคการผลิตของจีน (Caixin, NBS PMI)
สรุปสถานการณ์ราคาน้ำมันในสัปดาห์ที่ผ่านมา (23 - 27 พ.ค. 59)
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสในสัปดาห์ที่ผ่านมาปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.58 ดอลลาร์ ปิดที่ 49.33 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.60 ดอลลาร์ ปิดที่ 49.32 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบดูไบปิดเฉลี่ยอยู่ที่ 46 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล โดยตลาดน้ำมันดิบได้รับแรงหนุนจากปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐ ปรับตัวลดลงกว่า 4.2 ล้านบาร์เรลจากสัปดาห์ก่อนหน้า ซึ่งเป็นการปรับลดลงมากที่สุดในรอบ 7 สัปดาห์ อีกทั้งยังปรับลดลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะปรับลดลงเพียง 2.5 ล้านบาร์เรล ประกอบกับ กำลังการผลิตน้ำมันดิบของอิรักล่าสุดปรับลดลงจากระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อเดือน ม.ค. ที่ระดับ 4.78 ล้านบาร์เรลต่อวัน มาอยู่ที่ระดับ 4.5 ล้านบาร์เรลต่อวัน ทั้งนี้เนื่องจากปัญหาไฟฟ้าขัดข้องและสภาพอากาศที่ไม่ดีนัก
ข่าวเด่น