วันนี้ (1 มิถุนายน 2559) นายแพทย์อำนวย กาจีนะ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า จากที่กระทรวงสาธารณสุข โดยกรมควบคุมโรคได้ส่งหน่วยปฏิบัติการควบคุมโรคติดต่อ ทั้งสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 8 อุดรธานี และสำนักระบาดวิทยา ดำเนินการสอบสวนควบคุมโรคร่วมกับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดอุดรธานีและหน่วยงานสาธารณสุขในพื้นที่ ตามมาตรการควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสซิกาของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเข้มข้นในระดับสูงสุด นั้น พบว่าหลังมีรายงานผ่านทางเว็บไซต์ว่าพบผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสซิกาเป็นชาวไทย ซึ่งเป็นชาวอุดรธานี เดินทางเข้าไปทำงานในไต้หวัน ทางหน่วยงานสาธารณสุขในพื้นที่จังหวัดอุดรธานีก็ได้ดำเนินการอย่างเข้มข้นตามมาตรการ 3-3-1-5 ของกระทรวงสาธารณสุข
ซึ่งมาตรการ 3-3-1-5 ที่หน่วยงานสาธารณสุขในพื้นที่จังหวัดอุดรธานีดำเนินการ ได้แก่ แจ้งทีมสอบสวนโรคเคลื่อนที่เร็ว(SRRT) ภายใน 3 ชั่วโมง ทีมสอบสวนโรคลงสอบสวนโรคภายใน 3 ชั่วโมง ดำเนินการควบคุมโรค พ่นยาฆ่ายุงลายในรัศมี 100 เมตร ภายใน 1 วัน เพื่อให้การควบคุมป้องกันโรคได้ผล ไม่กระจายไปในวงกว้าง และประเมินค่าดัชนีลูกน้ำยุงลาย ภายใน 5 วันต้องเป็นศูนย์ โดยไม่พบลูกน้ำยุงลายในตำบลที่มีรายงานผู้ป่วย ซึ่งสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 8 อุดรธานี แจ้งผลการประเมินค่าดัชนีลูกน้ำยุงลายในพื้นที่ดังกล่าวเป็นศูนย์ ซึ่งก่อนหน้านี้พบค่าดัชนีลูกน้ำยุงลายสูงถึง 35-40 %
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าปัจจุบันการเฝ้าระวังโรคติดเชื้อไวรัสซิกาของไทยจะมีการดำเนินการตามมาตรฐาน แต่เพื่อให้การดำเนินมาตรการในพื้นที่มีความเข้มข้นและต่อเนื่อง กระทรวงสาธารณสุข จึงได้สั่งการศูนย์ปฎิบัติการภาวะฉุกเฉิน(EOC) ของกระทรวงสาธารณสุข ทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาค เพิ่มความเข้มข้นในมาตรการต่างๆ ทั้งการป้องกัน ตรวจจับเร็ว วินิจฉัยเร็ว การเฝ้าระวังในกลุ่มเสี่ยง การรักษา/แยกผู้ป่วย รวมถึงจัดระบบปฎิบัติการภาวะฉุกเฉินเพื่อค้นหาผู้สัมผัสให้ได้ทุกรายโดยเร็ว ซึ่งห้องปฎิบัติการ(Lab) ของประเทศไทยสามารถตรวจหาเชื้อไวรัสซิกาได้หลายแห่ง
นายแพทย์อำนวย กล่าวต่อไปว่า กรมควบคุมโรค ได้ดำเนินการสำรวจทัศนคติความคิดเห็นของประชาชนเกี่ยวกับโรคและภัยสุขภาพ หรือดีดีซีโพล (DDC Poll) เรื่อง “โรคติดเชื้อไวรัสซิกา” ครั้งล่าสุด ในพื้นที่ 25 จังหวัดทั่วประเทศ กลุ่มเป้าหมาย 3,276 ตัวอย่าง ช่วงอายุ 15 ปีขึ้นไป โดยผลการสำรวจพบว่าประชาชนร้อยละ 49.3 รู้จัก/เคยได้ยินโรคติดเชื้อไวรัสซิกา, ประชาชนร้อยละ 33.9 รู้ว่าหากหญิงตั้งครรภ์ป่วยเป็นโรคติดเชื้อไวรัสซิกาแล้ว จะมีภาวะแทรกซ้อนรุนแรงมากกว่ากลุ่มอื่น, ประชาชนร้อยละ 45 ทราบว่ายุงลายกัดเป็นวิธีติดต่อที่สำคัญของโรคติดเชื้อไวรัสซิกา แต่มีถึงร้อยละ 33.7 ที่ไม่ทราบวิธีติดต่อของโรค, ประชาชนร้อยละ 55.6 กลัวจะติดเชื้อ/ป่วยเป็นโรคติดเชื้อไวรัสซิกา และประชาชนร้อยละ 48.3 คิดว่าชุมชนเองควรร่วมกันกำจัดยุง เพื่อควบคุมลูกน้ำยุงลายและยุงตัวแก่ในบ้านและชุมชนของตนเอง
ทั้งนี้ กรมควบคุมโรค ขอแนะนำการดูแลสุขภาพสำหรับประชาชนทั่วไป โดยเฉพาะหญิงตั้งครรภ์และหญิงในวัยเจริญพันธุ์ ดังนี้ 1.กำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายและกำจัดลูกน้ำยุงลายในบ้านเรือน ที่อยู่อาศัย โรงเรียน และสถานที่ทำงานอย่างสม่ำเสมอ รวมถึงการดำเนินตามมาตรการ 3 เก็บ “เก็บบ้าน เก็บขยะ เก็บน้ำ” เพื่อป้องกัน 3 โรคดังกล่าว 2.การป้องกันไม่ให้ยุงลายกัด โดยใช้ยาทากันยุง นอนในมุ้ง หรือห้องที่มีมุ้งลวด และ 3.หญิงตั้งครรภ์ควรไปฝากครรภ์ที่สถานบริการสาธารณสุขทั่วไป หากมีอาการผิดปกติให้แจ้งแพทย์ทันที หากพบสถานการณ์หรือมีข้อมูลเพิ่มเติม ประชาชนมาสามารถแจ้งเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ตรวจสอบได้ ประชาชนสามารถติดตามแนวทางคำแนะนำและข้อมูลข่าวสารต่างๆ ที่เป็นปัจจุบันทางเว็บไซต์กรมควบคุมโรค หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร 1422
ข่าวเด่น