กระทรวงสาธารณสุขเผยจากเหตุการณ์ไฟไหม้ห้องงานกิจกรรมบำบัด โรงพยาบาลเพชรบูรณ์ จ.เพชรบูรณ์ ไม่ส่งผลกระทบต่อการให้บริการ ประชาชนสามารถเข้ารับบริการได้อย่างปกติ พร้อมกำชับให้ตรวจตราระบบไฟฟ้าถ้าชำรุดให้เปลี่ยนใหม่ ถ้าไม่ใช้ให้ปิดสวิตช์ทุกครั้งหลังเลิกใช้งานทันที
นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย รองปลัดกระทรวงสาธารณสุขและโฆษกกระทรวงสาธารณสุขให้สัมภาษณ์ว่า ได้รับรายงานจากนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเพชรบูรณ์ว่า เมื่อเวลาประมาณ 05.30น. วันที่ 4 มิ.ย.59 เกิดเหตุเพลิงไหม้ใน โรงพยาบาลเพชรบูรณ์ อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์ ซึ่งเป็นห้องกิจกรรมบำบัดเด็กออทิสติกพื้นที่60 ตร.เมตร เป็นอาคารคอนกรีตชั้นเดียว ขณะเพลิงไหม้เป็นเวลานอกราชการไม่มีกิจกรรมหรือเจ้าหน้าที่อยู่ เพลิงลุกติดเบาะที่นอนและอุปกรณ์เด็กเล่น ทำให้เกิดกลุ่มควันพุ่งขึ้นอาคารดังกล่าว จนสร้างความแตกตื่นให้แก่ผู้ป่วยและญาติที่พบเห็นเหตุการณ์ ในขณะที่เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลได้ใช้ถังเคมีดับเพลิงฉีดสกัดเพลิงแต่สกัดไม่อยู่ จึงแจ้งให้เทศบาลเมืองเพชรบูรณ์นำรถดับเพลิงเทศบาลเมืองเพชรบูรณ์จำนวน 2 คันพร้อมเจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัยระดมเข้าไปช่วยฉีดน้ำสกัดเพลิง โดยใช้ระยะเวลาราว 20 นาทีจึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้
.jpg)
เบื้องต้นทราบว่า เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลแจ้งว่าก่อนเกิดเหตุได้ยินเสียงเหมือนอุปกรณ์ไฟฟ้าระเบิดดังขึ้น จากนั้นจึงเห็นกลุ่มควันพวยพุ่งออกมา จึงแจ้งเตือนให้ทางเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลเร่งระดมนำถังเคมีดับเพลิงเข้าช่วยฉีดสกัดเพลิง แต่เนื่องจากภายในห้องดังกล่าวมีอุปกรณ์เป็นเชื้อไฟค่อนข้างมากพอสมควร ทำให้ยากต่อการควบคุมเพลิงไว้ได้ สาเหตุอยู่ระหว่างการพิสูจน์หลักฐานจากเจ้าหน้าที่ ค่าความเสียหายอยู่ระหว่างการประเมิน ในวันจันทร์จะส่งเจ้าหน้าที่ตรวจสอบอาคารที่เกิดเหตุอีกครั้ง ทางโรงพยาบาลจึงปิดให้บริการห้องกิจกรรมบำบัดเด็กออทิสติก ในส่วนบริเวณที่ไม่ได้รับความเสียหายโรงพยาบาลเปิดให้บริการตามปกติ
ทั้งนี้ จากกรณีที่เกิดขึ้นปลัดกระทรวงสาธารณสุขได้สั่งการให้สาธารณสุขจังหวัดทุกจังหวัดเข้มงวดตรวจระบบไฟฟ้า อุปกรณ์ไฟฟ้า ว่าชำรุดเสียหายหรือไม่ ถ้าเกิดชำรุดให้เปลี่ยนใหม่ทันทีและให้ปิดสวิตช์อุปกรณ์ไฟฟ้าทุกชนิดที่ไม่ใช้เพื่อความปลอดภัย ตรวจสอบวัสดุอุปกรณ์ในห้องเก็บวัสดุครุภัณฑ์ และห้องต่างๆในโรงพยาบาล ว่า มีวัสดุที่เป็นเชื้อไฟหรือไม่ หากมีให้รีบขนย้ายและหาที่เก็บให้มิดชิด พร้อมสั่งให้ซักซ้อมแผนการเผชิญอัคคีภัย อย่างต่อเนื่อง เพื่อป้องกันความเสียหาย โดยให้คำนึงถึงผู้ป่วยและประชาชนเป็นสำคัญ
ข่าวเด่น