นายธีรพล ขุนเมือง ผู้ตรวจราชการกระทรวงแรงงานในฐานะโฆษกกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า พลเอก ศิริชัย ดิษฐกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ได้รับมอบหมายจากพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้แก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย (รปภ.) ซึ่งไม่จบ ม.3 โดยภายใต้ พ.ร.บ.ธุรกิจรักษาความปลอดภัย พ.ศ. 2558 และมีผลบังคับใช้แล้วนั้น ได้กำหนดหลักเกณฑ์ที่สำคัญสำหรับผู้ประกอบอาชีพ รปภ. คือ จะต้องเป็นคนไทยเท่านั้น อายุต้องไม่ต่ำกว่า 18 ปี ผ่านหลักสูตรการรักษาความปลอดภัยและประการสำคัญต้องจบการศึกษาชั้น ม.3 ด้วย เพื่อเป็นการยกระดับมาตรฐานการรักษาความปลอดภัยสร้างความเชื่อมั่นต่อผู้รับบริการ
แต่ขณะเดียวกันอาจกระทบต่อผู้ประกอบอาชีพนี้ ทั้งที่ทำงานอยู่แล้วแต่มีวุฒิไม่จบ ม.3 และผู้ที่ต้องการเข้ามาทำงานใหม่ ในอาชีพ รปภ. ด้วย ซึ่งจะส่งผลต่อการจ้างงาน โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานได้สั่งการให้ร่วมหารือผู้ที่เกี่ยวข้องโดยเร่งด่วน โดยเฉพาะประเด็นวุฒิการศึกษาที่ต้องจบ ม.3 ประกอบด้วย กศน. ผู้ประกอบธุรกิจ รปภ. และ ตำรวจ ตลอดจนกฤษฎีกา โดยมีกระทรวงแรงงานเป็นเจ้าภาพหลัก
ซึ่งประเด็นหารือได้กำหนดแนวทางเพื่อช่วยเหลือใน 3 กลุ่ม ประกอบด้วย กลุ่มที่ 1 ผู้ที่ประกอบอาชีพนี้อยู่แล้วแต่ไมมีวุฒิ ม.3 ให้ผู้ประกอบธุรกิจฯ ตรวจสอบเจ้าหน้าที่ รปภ. ในสังกัดที่ไม่จบ ม.3 เพื่อเข้าสู่ระบบการเรียน กศน.ตามหลักสูตรเร่งรัดเพื่อให้เรียนจบ ม.3 โดยเร็ว เพื่อให้สามารถประกอบอาชีพต่อไปได้ กลุ่มที่ 2 คือกลุ่มคนใหม่ ที่ต้องการประกอบอาชีพด้านนี้ ให้ กศน. จัดหลักสูตรเรียน ระยะสั้น เพื่อให้ได้รับวุฒิ ม.3 ซึ่งเดิมใช้ระยะเวลา 2 ปี ให้ปรับหลักสูตรให้เข้มข้นขึ้น เหลือระยะเวลาการเรียนเพียง 1 ปี เพื่อเข้าสู่ระบบการจ้างงานโดยเร็ว โดยการจัดระบบการศึกษาของ กศน.ทั้ง 2 กลุ่มนี้จะมีการปรับหลักสูตรให้เหมาะสมกับเวลาและความต้องการของภาคธุรกิจด้วย สำหรับกลุ่มที่ 3 คือ กลุ่มที่ทำงาน รปภ. อยู่แล้วแต่ไม่มีวุฒิ ม.3 และต้องการประกอบอาชีพอื่น กระทรวงฯ จะได้ดูแลทั้งด้านตำแหน่งงานที่เหมาะสมให้ พร้อมพัฒนาทักษะฝีมือตามความถนัดและความต้องการของตลาดแรงงานด้วยเพื่อสามารถประกอบอาชีพใหม่ได้อย่างมั่นคง ซึ่งเป็นการส่งเสริมให้คนไทยทุกกลุ่มมีงานทำตามนโยบายของกระทรวงแรงงานและของรัฐบาลด้วย
นายธีรพลฯ กล่าวต่อไปว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานได้เน้นย้ำให้มีการยกระดับมาตรฐานการรักษาความปลอดภัยอย่างเป็นระบบทั้งการได้รับวุฒิ ม.3 และผ่านอบรมหลักสูตรการรักษาความปลอดภัย ทั้งนี้เพื่อให้เจ้าหน้าที่ รปภ.ทำงานอย่างมีคุณภาพ มีมาตรฐาน เกิดความน่าเชื่อถือมากยิ่งขึ้น ซึ่งปัจจุบันมีผู้ประกอบธุรกิจด้านนี้ประมาณ 4,000 แห่ง มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยประมาณ 3.2 แสนคนทั่วประเทศ ในจำนวนนี้มีผู้ไม่สำเร็จการศึกษา ม.3 ประมาณ 2.7 แสนคน คิดเป็นร้อยละ 84
ประการสำคัญปัจจุบันธุรกิจด้านนี้ยังมีความต้องการพนักงานเพิ่มอีกประมาณร้อยละ 20 นอกจากนั้นในด้านข้อกฎหมาย กระทรวงฯ ได้ประสานตำรวจเร่งรัดเรื่องการพิจารณาวุฒิการศึกษาภาคบังคับ รวมถึงมาตรการเกี่ยวกับผู้ที่เคยต้องคดีพร้อมกันไปด้วย โดยสัปดาห์หน้ากระทรวงฯ จะได้เชิญผู้เกี่ยวข้องหารือเพื่อให้ได้ข้อสรุปโดยเร็ว ซึ่งหากสามารถยกระดับและพัฒนาทักษะ ตลอดจนความรู้เกี่ยวกับวุฒิการศึกษาตามกำหนดแล้ว ผู้ที่ทำงานด้านนี้ (รปภ.) จะมีความมั่นคงในการประกอบอาชีพ มีรายได้ซึ่งส่งผลต่อตนเอง ครอบครัวและประเทศชาติโดยรวมด้วย
.jpg)
ข่าวเด่น