นายวีระพล จิรประดิษฐกุล กรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ในฐานะโฆษก กกพ. เปิดเผยว่า แนวโน้มค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ (เอฟที) รอบเดือนก.ย. - ธ.ค.259 ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด เนื่องจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกเริ่มปรับสูงขึ้นต่อเนื่องจากระดับ 30-35 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล มาอยู่ที่ระดับ 40-45 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล และคาดการณ์ราคาน้ำมันในปี 60 จะเฉลี่ย 45-55 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล จะทำให้ต้นทุนการผลิตไฟปรับเพิ่มขึ้นมากกว่าปีนี้ นอกจากนี้ ปัจจัยค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลงเป็นเหตุผลที่ทำให้ค่าเอฟทีลดลงไม่ได้ตามที่ประเมินไว้
" จากเดิมเราคาดการณ์ค่าเอฟที เดือนก.ย.-ธ.ค นี้ ยังติดลบระดับ 33.29 สตางค์ต่อหน่วย แต่จากหลายปัจจัย โดยเฉพาะค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลง และราคาน้ำมัน รวมถึงก๊าซแอลเอ็นจี นำเข้าที่จะสูงขึ้นทำให้ต้นทุนการผลิตไฟจะสูงขึ้น และอาจทำให้ค่าเอฟทีติดลบน้อยลงกว่า 33.29 สตางค์ต่อหน่วย แต่ราคาก๊าซฯอ่าวไทย จะยังไม่ได้รับผลกระทบมากนัก เพราะผูกพันกับราคาน้ำมันย้อนหลัง 6-12 เดือน ซึ่งจะสะท้อนในปีหน้ามากกว่า"
สำหรับกรณีการประมูลเพื่อบริหารจัดการแหล่งก๊าซธรรมชาติเอราวัณและบงกชที่จะสิ้นสุดอายุสัมปทานปี 2565-2566 อาจทำให้การผลิตก๊าซฯ ไม่ต่อเนื่อง และปริมาณลดลงได้นั้น กกพ.เองจะต้องติดตาม เพราะหากต้องนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว(เอลเอ็นจี) มาผลิตไฟแทนจะส่งผลกระทบต่อค่าไฟอย่างมาก เพราะราคาก๊าซแอลเอ็นจี นำเข้าจะมีราคาแพงกว่าก๊าซฯในอ่าวไทยเท่าตัว
ข่าวเด่น