ผู้ถือหุ้น บมจ.คิวทีซี เอนเนอรืยี่ (QTC) โหวตหนุนขายหุ้นเพิ่มทุนให้กับนักลงทุนในวงจำกัด (PP) จำนวน 70 ล้านหุ้น ราคาหุ้นละ 4.70 บาท บิ๊กบอส “พูลพิพัฒน์ ตันธนสิน”ระบุจากนี้กลายเป็นเสือติดปีก เหตุมีแผนนำเงินที่ได้ 329 ล้านบาท ไปลุยโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศญี่ปุ่นขนาด 35 เมกะวัตต์ ซึ่งจะสร้างผลตอบแทนที่โดดเด่นและทำให้บริษัทมีรายได้มั่นคงและสม่ำเสมอในระยะยาว คาดเริ่มขายหุ้น-ทำเทนเดอร์ออฟเฟอร์เร็วๆนี้ ขณะที่ “สถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์”หนึ่งในกลุ่มนักลงทุนรายใหม่ ระบุ QTC มีปัจจัยพื้นฐานดี ผู้บริหารมีวิสัยทัศน์ พร้อมเชื่อมั่นในแผนการดำเนินธุรกิจในอนาคตจะสามารถขยายตัวได้อย่างดีบนพื้นฐานที่แข็งแกร่ง อีกทั้งเป็นบริษัทฯที่รับผิดชอบต่อสังคม และผู้ถือหุ้น CG อยู่ในระดับห้าดาว ทำให้ตัดสินใจเข้ามาลงทุน ระบุพร้อมสนับสนุนการทำงานของทีมบริหารอย่างเต็มที่
นายพูลพิพัฒน์ ตันธนสิน ประธานคณะกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท คิวทีซี เอนเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) (QTC) เปิดเผยว่า ที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2559 มีมติอนุมัติให้บริษัทฯเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 70,000,000 หุ้น คิดเป็นสัดส่วนการถือหุ้นเท่ากับร้อยละ 25.93 ในราคาหุ้นละ 4.70 บาท ต่อบุคคลในวงจำกัด (Private Placement หรือ "PP") ได้แก่ นายสถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์ และ/หรือ นางสาวแคทรียา บีเวอร์ และ/หรือ Mr. Chanthamome Phommany และ/หรือ Mr.Thatnakhone Thammavong รวมเป็นเงินที่ระดมทุนในครั้งนี้จำนวน 329 ล้านบาท โดยคาดว่าจะเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนและทำเทนเดอร์ออฟเฟอร์ได้เร็วๆนี้
การเพิ่มทุนในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อนำเงินไปขยายธุรกิจในอนาคต ซึ่งบริษัทฯมีแผนรุกคืบเข้าสู่ธุรกิจ พลังงานหมุนเวียน (Renewable Energy) รวมถึงโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่ประเทศญี่ปุ่นขนาดกำลังการผลิต 35 เมกะวัตต์ ซึ่งปัจจุบันจะอยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ในเบื้องต้น และมีความเป็นไปได้สูงที่จะเกิดการลงทุนในอนาคต
“ต้องขอขอบคุณทุกท่านที่สนับสนุนแผนการเพิ่มทุนในครั้งนี้ ผมมั่นใจว่าการก้าวเข้าสู่ธุรกิจพลังงานหมุนเวียนในครั้งนี้จะเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญในการผลักดันรายได้ และกำไรของ QTC ให้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง ยั่งยืน สร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้นในอนาคต โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มผู้ถือหุ้นใหม่เป็นผู้ที่มีความรู้และประสบการณ์ในธุรกิจพลังงาน มีชื่อเสียงอย่างกว้างขวางและเป็นที่ยอมรับในธุรกิจพลังงาน ซึ่งเป็นไปได้ว่าในอนาคตอาจแนะนำลูกค้า หรือโครงการลงทุนที่น่าสนใจให้กับบริษัทฯ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการดำเนินธุรกิจในอนาคต” นายพูลพิพัฒน์ กล่าว
ขณะที่นายสถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์ อดีตประธานกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และอดีตปลัดกระทรวงการคลัง หนึ่งในกลุ่มนักลงทุนรายใหม่ที่เข้ามาซื้อหุ้นเพิ่มทุนแบบเฉพาะเจาะจง เปิดเผยว่า สาเหตุในการตัดสินใจเข้าลงทุนในครั้งนี้ เพราะได้มีการศึกษาข้อมูลเบื้องต้นของ QTC มาแล้วว่าเป็นบริษัทจดทะเบียนที่มีปัจจัยพื้นฐานที่ดี ผู้บริหารมีวิสัยทัศน์ และมีแผนการดำเนินงานในอนาคตที่น่าสนใจ โดยเฉพาะแผนการลงทุนในธุรกิจพลังงานหมุนเวียน ซึ่งจะเป็นปัจจัยที่ผลักดันให้บริษัทฯมีการเติบโตได้อย่างโดดเด่น และมั่นคงในอนาคต
“การที่ผมเข้ามาลงทุนในครั้งนี้ ไม่ได้มองแค่แนวโน้มผลการดำเนินงานของบริษัทฯในอนาคตที่คาดว่าจะเติบโตอย่างแข็งแกร่ง หลังเข้ารุกธุรกิจโรงไฟฟ้าในประเทศญี่ปุ่น หรือในอีกหลายประเทศ เพียงเท่านั้น แต่ผมมองว่า QTC เป็นบริษัทฯที่มีความรับผิดชอบต่อสังคมและผู้ถือหุ้น มีธรรมาภิบาล ซึ่งเห็นได้จากการได้รับรางวัลจากตลาดหลักทรัพย์ฯแทบทุกสาขา และ CG อยู่ในระดับห้าดาว จึงทำให้ผมตัดสินใจเข้ามาลงทุนและถือหุ้นในระยะยาวใน QTC” นายสถิตย์ กล่าว
ข่าวเด่น