หยิบเงินหยิบทอง - บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง
ตลาดหุ้นไทยวานนี้
SET INDEX วันศุกร์ที่ผ่านมา ขยับขึ้นทะลุแนว 1,430 จุด ด้วยหุ้นหลัก บวกกับ กระแสเงินทุนต่างชาติที่หนาแน่นในตลาดหุ้นไทย เมื่อ SET INDEX ทะลุแนวดังกล่าว เกิดสัญญาณบวกเชิงเทคนิคตามมา ปิด ณ สิ้นวัน SET INDEX บวก 12.37 จุดมาอยู่ที่ 1,436.43 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายหนาแน่น 53,375 ล้านบาท
กระแสเงินทุนต่างชาติซื้อสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 2 มากถึง 5,586 ล้านบาท Long สุทธิใน SET50 Index Futures เป็นวันที่ 8 อีก 4,383 สัญญา และตลาดตราสารหนี้เป็นวันที่ 2 อีกเล็กน้อย 1,960 ล้านบาท
ปัจจัยสำคัญวันนี้
- รมว.คลัง เตรียมเสนอร่างภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ต่อครม.วันพรุ่งนี้
- เงินทุนต่างชาติกลับมาหนาแน่นในตลาดหุ้น และ SET50 Index Futures ไทย
- ผลตอบแทนพันธบัตรไทยอายุ 10 ปี ลดลงเป็นวันที่ 2 อีก 5.38bps ปิดที่ 2.239%
- ติดตามความเห็นของประธานเฟด Janet Yellen ต่อ World Affairs Council of Philadelphia
- ตลาดเกาหลีใต้ ปิดทำการวันนี้ เนื่องในวัน Memorial Day
มุมมองต่อตลาดวันนี้: กลาง (วันที่ 10)
แม้ว่า SET INDEX ปิดทะลุแนว 1,430 จุด ผลักดันด้วยหุ้นหลัก และเงินทุนต่างชาติที่ไหลเข้าอย่างหนาแน่น ซึ่งถือว่าดีกว่าที่เราประเมินไว้ก่อนหน้า ณ ปัจจุบัน เราให้น้ำหนักของตลาดหุ้นในลักษณะของโมเมนตัม และปัจจัยทางเทคนิกเป็นสำคัญ เพราะหากพิจารณาจากปัจจัยพื้นฐาน ผ่าน Valuation ของตลาดหุ้นไทย ณ ระดับปิด 1,436.43 จุด คิดเป็น PER16 เท่ากับ 15.45x สูงกว่าค่าเฉลี่ย 1Yr Forward PER ย้อนหลัง 5 ปี 15.29x เข้าสู่โซนแพง เพียงแต่โมเมนตัม ยังสามารถเทรดดิ้งรอบสั้นตามภาพทางเทคนิคเท่านั้น
เราให้น้ำหนักกับกลุ่ม Domestic Play มากกว่ากลุ่ม Global Play หรือกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ อย่างน้ำมัน /โรงกลั่น เพราะราคาน้ำมันดิบมีแนวโน้มพักฐานรอบสั้นในช่วงนี้
เม็ดเงินทุนต่างชาติที่เข้ามารอบนี้ เราเชื่อว่าจะเป็นการเน้นกลุ่ม Domestic Play เป็นสำคัญ หลังกลุ่มธนาคารนำขึ้นมาแล้ว เราประเมินกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง/ กลุ่มวัสดุก่อสร้าง/ ค้าปลีก / กลุ่มสื่อและสิ่งพิมพ์ / กลุ่มอาหาร จะมีความโดดเด่นในช่วงนี้
กลยุทธ์การลงทุน เราแนะนำให้เข้าเก็งกำไรหุ้นกลุ่ม Domestic Play พร้อมจำกัดวงเงิน และกำหนดจุด stop loss อย่างมีวินัย ภายใต้กรอบแกว่งวันนี้ระหว่าง 1,430-1,445 จุด
Stock Pick of The Day
1. สะสม BBL : ราคาปิด 163.00 บาท ราคาเหมาะสม 178.00 บาท
a) MBKET คาดว่าตลาดหุ้นเอเซียเกิดใหม่จะตอบรับเชิงบวก หลังตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ เดือน พ.ค. เพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาดการณ์มากส่งผลให้โอกาสที่เฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือน เม.ย.ลดลง สะท้อนผ่านค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นถึง 0.30 บาท / USD เช้านี้
b) หุ้น BBL ยัง Laggard โดย YTD ปรับตัวขึ้น +6.9% เทียบกับ SET BANK +11.9% และหุ้นในกลุ่ม เช่น BAY +24.4%, KBANK +16.6% และ SCB +16.3%
c) Downside Risk จำกัด เนื่องจากซื้อขายเพียง 0.8 เท่าของ BV เทียบกับค่าเฉลี่ยของกลุ่มธนาคารที่ 1.2 เท่า และให้ผลตอบแทนจากเงินปันผล 4.6%
Fund Flow Analysis
Fund Flow in Emerging Markets
ซื้อสุทธิเป็นวันที่ 8 อีก US$344 ล้าน ชะลอตัวจากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ US$588 ล้าน
Foreign Investors Action วานนี้
ต่างชาติกลับมาซื้อสุทธิทั้ง 3 ตลาดอีกครั้ง
นักลงทุนต่างชาติคงการซื้อสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 2 มากถึง 5,586 ล้านบาท รวม 2 วันทำการ ซื้อสุทธิ 6,629 ล้านบาท และทำให้ YTD ต่างชาติซื้อสุทธิขยับขึ้นเป็น 24,316 ล้านบาท
ด้าน SET50 Index Futures นักลงทุนกลุ่มนี้คงการ Long สุทธิเป็นวันที่ 8 เท่ากับ 4,383 สัญญา ใกล้เคียงกับวันก่อนหน้า 5,606 สัญญา รวม 8 วันทำการ Long สุทธิ 51,384 สัญญา คาดเป็นการทยอยเปิดสถานะ Long ต่อเนื่อง ทำให้ยอดสุทธิ QTD สถานะคงการ Long สุทธิทะลุ 30,000 สัญญา เป็น 39,769 สัญญา ผลักดันให้ S50M16 ปิดสูงกว่า SET50 Index เป็นวันที่ 2 กว้างถึง 4.03 จุด จากวันก่อนหน้า Premium เท่ากับ 1.56 จุด
และนักลงทุนกลุ่มนี้คงการซื้อสุทธิตลาดตราสารหนี้เป็นวันที่ 2 อีก 1,960 ล้านบาท รวม 2 วันทำการซื้อสุทธิ 2,676 ล้านบาท โดยที่ราคาพันธบัตรไทยฟื้นตัวเป็นวันที่ 2 โดยพันธบัตรไทย อายุ 10 ปี ผลตอบแทนลดลงเป็นวันที่ 2 เท่ากับ 5.38bps จากวันก่อนหน้าลดลง 5.39bps ปิดที่ 2.239%
Short-Selling วานนี้
เท่ากับ 651 ล้านบาท ใกล้เคียงกับวันก่อนหน้า 645 ล้านบาท
NVDR Movement
NVDR ซื้อสุทธิเป็นวันที่ 15 เน้นกลุ่มค้าปลีก และขนส่งอย่างโดดเด่น
การซื้อขายผ่าน NVDR คงการซื้อสุทธิเป็นวันที่ 15 มากถึง 2,650 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 998 ล้านบาท รวม 15 วันทำการซื้อสุทธิ 18,264 ล้านบาท โดย NVDR เน้นสะสมกลุ่มค้าปลีก และขนส่งเกือบ 50% ของยอดซื้อสุทธิรวม
โดย บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด ประจำวันที่ 6 มิ.ย. 2559
ข่าวเด่น