พาณิชย์สนธิกำลังกับพันธมิตรลุยเชียงใหม่...ปราม 6 บริษัทหวั่นนอมินีเชื่อมโยงกลุ่มทุนชาวต่างชาติ หลอกขายของเก๊...พร้อมเดินหน้าลุยพื้นที่ท่องเที่ยวตาม Road map กำจัดนอมินีไม่มีหยุด
กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมพัฒนาธุรกิจการค้า สนธิกำลังลงพื้นที่ร่วมกับพันธมิตรตรวจสอบ ธุรกิจในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ สแกน 6 บริษัทต้องสงสัย เบื้องต้นพบธุรกิจมีลักษณะเชื่อมโยงกับชาวต่างชาติที่อาจเข้าข่ายเป็นการกระทำผิดตาม พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว ซึ่งกรมฯ จะเรียกกรรมการและ ผู้ถือหุ้นมาสอบถามต่อไป ทั้งนี้ พบการกระทำผิดในลักษณะอื่นอีก 12 ราย!! โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะเดินหน้าจัดการตามกฎหมายและลงพื้นที่ตรวจสอบอย่างต่อเนื่องเพื่อกระตุ้นความเชื่อมั่นให้นักลงทุน
นางสาวผ่องพรรณ เจียรวิริยะพันธ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2559 ที่ผ่านมากรมพัฒนาธุรกิจการค้า นำโดยนายสาโรจน์ สุวัตถิกุล รองอธิบดีฯ พร้อมด้วยกองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว นำโดยพล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล ร่วมกับเจ้าหน้าที่กองบังคับการปราบปราม การกระทำผิดเกี่ยวกับคุ้มครองผู้บริโภค กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ กรมสรรพากร และเจ้าหน้าที่ทหาร ได้สนธิกำลังลงพื้นที่ตรวจสอบธุรกิจที่อาจมีความเชื่อมโยงกับชาวต่างชาติในการใช้ตัวแทนอำพรางหรือนอมินีและหลอกลวงขายสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ด้อยคุณภาพแก่นักท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่จำนวน 6 บริษัท ซึ่งประกอบธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับท่องเที่ยว ขายของที่ระลึก กระเป๋า เครื่องหนัง อัญมณี ที่นอนยางพารา และที่พักรีสอร์ท โดยบูรณาการตรวจสอบตามภารกิจที่แต่ละหน่วยงานรับผิดชอบ
ผลการตรวจสอบธุรกิจใน ‘จังหวัดเชียงใหม่’ เบื้องต้น หน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถจับกุมหรือเอาผิดตามกฎหมายกับผู้ประกอบธุรกิจที่มีลักษณะกระทำผิดซึ่งหน้าได้หลายกรณีอาทิ คนต่างด้าวทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต 4 ราย และทำงานโดยผิดเงื่อนไข 3 ราย ให้คนต่างด้าวเข้าพักอาศัยโดยไม่แจ้งเจ้าหน้าที่ 1 ราย จำหน่ายสินค้า โดยไม่ติดสลากสินค้า 3 ราย ขายเครื่องสำอางปลอมและแสดงฉลากไม่ถูกต้อง 1 ราย รวมทั้งสิ้นจำนวน 12 ราย พร้อมทั้งตรวจยึดเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการชำระภาษีให้กรมสรรพากรตรวจสอบการเสียภาษีอีกด้วย
ด้านการตรวจสอบของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เบื้องต้นพบธุรกิจจำนวน 1 ราย ซึ่งประกอบธุรกิจ รีสอร์ทที่น่าจะมีความเชื่อมโยงกับชาวต่างชาติและเข้าข่ายเป็นการกระทำความผิดตามพ.ร.บ. การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว แต่ขณะเข้าตรวจสอบไม่พบกรรมการและผู้ถือหุ้น จึงได้แจ้งให้กรรมการและผู้ถือหุ้นมาชี้แจงเกี่ยวกับการประกอบธุรกิจและการลงทุนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ณ สำนักงานพาณิชย์จังหวัดเชียงใหม่ต่อไป ทั้งนี้จากการประเมินผลของคณะที่ร่วมบูรณาการตรวจสอบครั้งนี้มีความเห็นว่า ภาพรวมการลงพื้นที่ได้ผลเป็นที่น่าพอใจ โดยสามารถจับกุมหรือเอาผิดตามกฎหมายที่เป็นลักษณะความผิดซึ่งหน้าได้หลายกรณี ซึ่งจะเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนหรือนักท่องเที่ยวและเป็นการรักษาผลประโยชน์ของประเทศชาติ อย่างไรก็ดี เมื่อเร็วนี้ๆ กรมฯ ได้ร่วมกับพันธมิตรลงพื้นที่ใน ‘เกาะช้าง จังหวัดตราด’ เพื่อตรวจสอบธุรกิจท่องเที่ยวและธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง เบื้องต้น ‘ไม่พบนอมินีในธุรกิจท่องเที่ยว’ แต่พบผู้ประกอบธุรกิจร้านอาหารมีพฤติกรรมน่าจะเข้าข่ายเป็นนอมินีจำนวน 4 ราย โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการเรียกเอกสารเพื่อตรวจสอบเชิงลึก สำหรับการลงพื้นที่ตามแผน Road map ปี 2559 ในเดือนมิถุนายนนี้ กรมฯ และพันธมิตรจะลงพื้นที่ตรวจสอบในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และเพชรบุรีซึ่งเป็นพื้นที่เศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยวที่สำคัญของประเทศไทย
ดังนั้น จึงขอเตือนคนไทยที่ให้ความช่วยเหลือสนับสนุนหรือถือหุ้นแทนคนต่างด้าว เพื่อให้ คนต่างด้าวประกอบธุรกิจโดยหลีกเลี่ยงหรือฝ่าฝืนกฎหมาย ซึ่งจะมีความผิดโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับ ตั้งแต่ 100,000 – 1,000,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และยังมีโทษปรับรายวันอีกวันละ 10,000 – 50,000 บาทจนกว่าจะเลิกฝ่าฝืน
ข่าวเด่น