นายภักดี มะนะเวศ รองเลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) สายงานกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน ได้หารือกรณีสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีทำหนังสือมายัง กสทช.เพื่อขอช่องโทรทัศน์ของประชารัฐในระบบทีวีดิจิตอล ในกลุ่มช่องสาธารณะจำนวน 1 ช่อง เพื่อนำเสนอเนื้อหาการขับเคลื่อนการบริหารราชการแผ่นดินโดยใช้กลไกประชารัฐ กสท.มีการนำเรื่องดังกล่าวมาพูดคุยกัน แต่ยังไม่มีข้อสรุปเป็นมติว่าจะจัดตั้งช่องประชารัฐหรือไม่ โดยจะได้พิจารณาว่าจะมีช่องทางใดบ้างที่จะสนับสนุนการสื่อสารนโยบายของภาครัฐไปยังประชาชน
"บอร์ดยังไม่มีข้อสรุป เพราะต้องพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนจะทำข้อสรุปส่งกลับไปชี้แจงสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ภายใน 30 วัน ขอย้ำว่าบอร์ดกสท.มีนโยบายสนับสนุนโครงการที่ภาครัฐต้องกรสื่อสารไปยังประชาชนโดยผ่านทีวีสาธารณะ" รองเลขาธิการ กสทช.กล่าว
ส่วนกรณีที่ธนาคารกรุงเทพทำหนังสือหารือเกี่ยวกับการชำระค่าธรรมเนียมใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ งวดที่ 2 จำนวน 288,472,000บาท แทนบริษัท ไทยทีวี จำกัด พร้อมขอให้สำนักงาน กสทช. ทบทวนจำนวนเงินที่ต้องชำระ และต้องชำระเมื่อใด ที่ประชุม กสท. มีมติให้ทางสำนักงาน กสทช. นำเรื่องดังกล่าวส่งไปยังคณะอนุกรรมการที่ปรึกษาด้านกฎหมาย กสทช. เพื่อพิจารณาและมีความเห็น ก่อนเสนอที่ประชุม กสท. อีกครั้ง
นอกจากนี้ ที่ประชุม กสท.ได้มีมติให้สำนักงาน กสทช. นำเสนอเรื่องการแจกคูปองในการสนับสนุนประชาชนในการเปลี่ยนผ่านไปสู่การรับชมโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิตอลเพิ่มเติมต่อที่ประชุม กสทช. เพื่อพิจารณาทั้งนี้ หลักการในการแจกคูปองเพิ่มเติมให้กับครัวเรือนที่จะได้รับ มีดังนี้
1.ครัวเรือนที่ได้รับสิทธิแจกคูปองครั้งแรก แต่ไม่ได้รับคูปองดังกล่าว (เฉพาะที่บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ส่งคืน สำนักงาน กสทช.)
2.ครัวเรือนที่มีทะเบียนบ้าน และมีเจ้าบ้านซึ่งมีขึ้นภายหลังวันที่ 16 กันยายน 2557
3.ครัวเรือนที่มีทะเบียนบ้าน และมีผู้อยู่อาศัยแต่ไม่มีเจ้าบ้าน
4.ครัวเรือนที่มีทะเบียนบ้านชั่วคราว และมีเจ้าบ้าน
ข่าวเด่น