นางดวงพร รอดพยาธิ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ ในฐานะเลขานุการและกรรมการ คณะกรรมการพิจารณาการทุ่มตลาดและการอุดหนุน (ทตอ.) เปิดเผยว่า ทตอ. มีมติให้เปิดทบทวนความจำเป็นในการใช้มาตรการตอบโต้การทุ่มตลาดสินค้ากระเบื้องปูพื้นและติดผนังที่มีแหล่งกำเนิดจากจีน ตามมาตรา 57 แห่ง พ.ร.บ.การตอบโต้การทุ่มตลาดและการอุดหนุนซึ่งสินค้าจากต่างประเทศ พ.ศ. 2542 โดยจะเรียกเก็บอากรตอบโต้การทุ่มตลาดสินค้ากระเบื้องปูพื้นและติดผนังจากจีนในอัตราเดิม คือ 2.18 – 35.49% ของราคาซีไอเอฟ (ราคาส่งออก รวมค่าระวางเรือ และค่าประกันภัยสินค้า) เป็นเวลา 1 ปี หลังจากได้เปิดการทบทวนการใช้มาตรการตอบโต้การทุ่มตลาด (เอดี) กับสินค้าดังกล่าวมาแล้วครบ 5 ปี หรือเริ่มใช้มาตรการตั้งแต่เดือน มิ.ย. 54 โดยได้ประกาศลงในราชกิจจานุเบกษาแล้ว เมื่อวันที่ 31 พ.ค. 59
"การเรียกเก็บอากรตอบโต้การทุ่มตลาดสินค้าดังกล่าว เป็นไปตามคำขอของกลุ่มอุตสาหกรรมเซรามิก สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ที่พบว่ามีมูลเกี่ยวกับการทุ่มตลาด (ขายสินค้าในไทยราคาต่ำกว่าขายในจีน) และความเสียหายที่เกิดกับอุตสาหกรรมในประเทศ และเชื่อได้ว่าหากยุติการเรียกเก็บอากรเอดี จะทำให้มีการทุ่มตลาดต่อไปอีก จึงได้เปิดให้มีการทบทวนการใช้มาตรการ ซึ่งเป็นไปตามหลักปฏิบัติขององค์การการค้าโลก (WTO)"
อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กล่าวด้วยว่า สำหรับการพิจารณาใช้มาตรการตอบโต้การทุ่มตลาดและการอุดหนุนสินค้าจากประเทศต่าง ๆ (เอดี/ซีวีดี) สินค้าจากประเทศต่างๆ โดยเฉพาะสินค้ากลุ่มเหล็กนั้น กรมฯ ได้ดำเนินการตามขั้นตอน และวิธีการไต่สวนอย่างเข้มงวด ชัดเจน เจ้าหน้าที่ผู้ไต่สวนได้ปฏิบัติตามกฎ กติกา และข้อมูลหลักฐานที่ได้รับจากทุกฝ่ายอย่างโปร่งใส ตรวจสอบได้ในทุกขั้นตอน และไม่มีอำนาจที่จะชะลอ หรือกลั่นแกล้งเพื่อให้การไต่สวนล่าช้า หรือเป็นประโยชน์ต่อฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งอย่างที่ถูกกล่าวหา
ทั้งนี้ การไต่สวนกรณีตอบโต้การทุ่มตลาดและการอุดหนุนจะใช้ข้อมูลที่ได้จากการตอบแบบสอบถามของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียและข้อมูลอื่นๆ ที่มีความน่าเชื่อถือและผ่านการตรวจสอบมาแล้ว ซึ่งเมื่อกรมฯ ได้ประมวลข้อเท็จจริงและผลการไต่สวนแล้วเสร็จ จะต้องเสนอให้คณะกรรมการ ทตอ. พิจารณาวินิจฉัย เพื่อใช้มาตรการตอบโต้การทุ่มตลาดและการอุดหนุนต่อไป ซึ่งไม่สามารถทำการบิดเบือนข้อมูล เพื่อโอนเอียงเข้าข้างผู้หนึ่งผู้ใดได้
“ที่มีข่าวว่าข้าราชการกระทรวงพาณิชย์ไต่สวนมาตรการตอบโต้การทุ่มตลาดและการอุดหนุนสินค้าอย่างไม่เป็นธรรม มีพฤติกรรมโอนเอียงเข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งและรับผลประโยชน์จากบริษัทต่างชาตินั้น ขอยืนยันว่าเป็นการกล่าวหาที่เลื่อนลอยและไม่เป็นความจริง มีเจตนาให้เกิดความเข้าใจผิดต่อการปฏิบัติหน้าที่ของกรมฯ ทั้งๆ ที่กรมฯ ได้ดำเนินการไต่สวนการทุ่มตลาดและการอุดหนุนเป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมายทุกอย่าง”นางดวงพรกล่าว
อย่างไรก็ตาม หากสื่อหรืออุตสาหกรรมภายในประเทศ ยังมีความกังวลใจหรือไม่เข้าใจในเรื่องการไต่สวนการตอบโต้การทุ่มตลาดสินค้าจากประเทศต่างๆ หรือมีหลักฐานความไม่ชอบมาพากลในเรื่องใด สามารถหารือกับอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศได้โดยตรง และหากมีข้อมูลหรือหลักฐานว่าข้าราชการกระทรวงพาณิชย์คนใดทุจริตคอร์รัปชั่น ก็ไม่ควรกล่าวหาลอยๆ แต่ควรส่งหลักฐานให้กระทรวงพาณิชย์ทันที เพื่อที่จะได้ดำเนินการตามขั้นตอนของระเบียบและกฎหมายต่อเจ้าหน้าที่ที่ทำการทุจริตคอร์รัปชั่นต่อไป
ข่าวเด่น