ตลาดหุ้นไทยวานนี้
SET INDEX วานนี้ ยังไม่ผ่าน 1,450 จุด แม้ว่าจะมีแรงเก็งกำไรใน PTT / PTTEP ต่อเนื่องก็ตาม แต่ด่านดังกล่าวเกิดแรงขายทำกำไรต่อเนื่อง อีกทั้งตลาดรอบเอเชียและยุโรปเริ่มปรับฐานเช่นกัน ปิด ณ สิ้นวัน SET INDEX อยู่ที่ 1,435.65 จุด ลบ 9.89 จุด มูลค่าการซื้อขาย 42,155 ล้านบาท
ทั้งนี้ต่างชาติกลับมาขายสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันแรกในรอบ 6 วันทำการ เพียง 310 ล้านบาท แต่ Long สุทธิใน SET50 Index Futures 4,361 สัญญา และซื้อสุทธิตลาดตราสารหนี้เป็นวันที่ 6 อีก 6,041 ล้านบาท
ปัจจัยสำคัญวันนี้
- ตลาดหุ้นจีนปิดทำการในวันนี้อีก 1 วัน
- กลุ่มธนาคารมีแรงกดดันจากการปรับโครงสร้างค่าธรรมเนียมใหม่ ที่จะสรุปในสัปดาห์หน้า
ปัจจัยสำคัญสัปดาห์หน้า
- การประชุมเฟดวันที่ 14-15 มิ.ย. พร้อมติดตามการแถลงข่าวหลังเสร็จสิ้นการประชุม
- การประชุม BoJ / BoE วันที่ 16 มิ.ย. ณ ปัจจุบัน ตลาดคาดธนาคารกลางทั้ง 2 คงนโยบายการเงิน
- ติดตามการประชุมครม. อาจมีการพิจารณาโครงการรถไฟรางคู่ที่เหลืออีก 6 เส้นทาง
มุมมองต่อตลาดวันนี้: กลาง (วันที่ 14)
หลัง SET INDEX ปรับฐานลงสู่แนวรับ 1,435 จุดวานนี้ ขณะที่วันนี้เป็นการซื้อขายสุดท้ายของสัปดาห์ อีกทั้งปัจจัยสำคัญสัปดาห์หน้าคือ การประชุมเฟดวันที่ 14-15 มิ.ย. แม้ว่าเราและตลาดคาดเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ย แต่ความเห็นของประธานเฟดหลังสิ้นสุดการประชุมถือเป็นข้อมูลที่สำคัญ กำหนดทิศทางกระแสเงินทุนระหว่างสินทรัพย์เสี่ยง และSafe haven เพราะจะเป็นการตีความถึงช่วงเวลาที่เหมาะสมในการขึ้นอัตราดอกเบี้ยผ่านมุมมองของเฟด เราคาดว่า SET INDEX วันนี้จะยังซึมตัวลงต่อเป็นวันที่ 2 สู่แนวรับ 1,420-1,430 จุด โดยหุ้นหลักอย่าง PTT / PTTEP มีแนวโน้มที่จะเป็นตัวแปรกดดันภาพรวมในช่วงนี้
และหุ้นหลักในกลุ่มธนาคารอย่าง KBANK / SCB ที่เผชิญกับแรงขาย เพราะในสัปดาห์หน้าธปท.จะสรุปโครงสร้างค่าธรรมเนียมใหม่ทั้งหมด ซึ่งจะเป็นการปรับลดจากอัตราปัจจุบัน
ขณะที่กระแสเงินทุนต่างชาติช่วงนี้มีแนวโน้มชะลอตัวในความเห็นของเรา เพื่อรอดูผลการประชุมเฟด เพราะมีผลต่อทิศทางค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ
ดังนั้นกลยุทธ์ในช่วงนี้ เราแนะนำให้นักลงทุนกลับมาทยอยสะสมหุ้นหลักในกลุ่มหลัก อย่างกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง / ขนส่งรถไฟ / ค้าปลีก ส่วนกลุ่ม Global Play โดยเฉพาะกลุ่มน้ำมัน และโรงกลั่น ควรจะหลีกเลี่ยงในช่วงสั้น เพราะแนวโน้มราคาน้ำมันดิบเชื่อว่าจะซึมตัวลง
Stock Pick of The Day
1. สะสม BANPU : ราคาปิด 12.00 บาท ราคาเหมาะสม 14.20 บาท
a) MBKET ประเมินว่าแรงกดดันจากการเข้าซื้อขายของลูกหุ้นที่ราคาเพิ่มทุนหุ้นละ 5.00 บาท ในวันนี้ จะเป็นโอกาสในการเข้าสะสม โดยหากพิจารณาต้นทุนของผู้ถือหุ้นที่ซื้อหุ้นก่อนขึ้นเครื่องหมาย XR และ XW จะอยู่ที่ราว 11.70 บาท
b) เชื่อว่าราคาถ่านหินได้ผ่านพ้นจุดต่ำสุดแล้ว และจะเข้าสู่การฟื้นตัวในปี 2559 โดยราคาถ่านหิน BJI สัปดาห์ล่าสุด เพิ่มขึ้น +2.9% wow เป็น US$54.19/ตัน ปรับตัวขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 6 ติดต่อกัน และเพิ่มขึ้น +3.7% YTD
c) Downside Risk จำกัด โดย YTD (คำนวณบนฐานที่กระทบผลการเพิ่มทุนแล้ว) ราคาหุ้น BANPU ยังใกล้เคียงกับราคาปิดสิ้นปี 2558 ที่ 12.10 บาท เทียบกับ SET ENERGY +22.9% และการรับรู้รายได้จากโครงการไฟฟ้าหงสาในปีนี้ จะเป็นตัวต่อยอดให้ผลประกอบการปี 2559 พลิกกลับเป็นกำไร 1,238 ล้านบาท และเติบโตสูง +45.7% yoy เป็น 2,164 ล้านบาท ในปี 2560
Fund Flow Analysis
Fund Flow in Emerging Markets
ซื้อสุทธิเป็นวันที่ 12 อีก US$388 ล้าน จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ US$747 ล้าน
Foreign Investors Action วานนี้
ต่างชาติซื้อสุทธิตลาดตราสารหนี้เป็นวันที่ 3
นักลงทุนต่างชาติกลับมาขายสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันแรกในรอบ 6 วันทำการ 310 ล้านบาท เทียบกับ 5 วันทำการก่อนหน้าซื้อสุทธิ 10,498 ล้านบาท และทำให้ YTD ต่างชาติซื้อสุทธิลดลงเล็กน้อย เป็น 27,875 ล้านบาท
ด้าน SET50 Index Futures นักลงทุนกลุ่มนี้กลับมา Long สุทธิอีกครั้ง 4,361 สัญญา คาดว่าจะเป็นการกลับมาทยอยเปิดสถานะ Long อีกครั้ง เมื่อ S50M16 กลับมาปิดต่ำกว่า SET50 Index เป็นวันแรกในรอบ 6 วันทำการ 1.55 จุด จากวันก่อนหน้าปิด premium เท่ากับ 2.67 จุด ทำให้ยอดสุทธิ QTD สถานะคงการ Long สุทธิทะลุ 35,000 สัญญา เป็น 36,814 สัญญา
และนักลงทุนกลุ่มนี้คงการซื้อสุทธิตลาดตราสารหนี้เป็นวันที่ 6 เท่ากับ 6,041 ล้านบาท รวม 6 วันทำการซื้อสุทธิ 57,746 ล้านบาท ทั้งนี้ราคาพันธบัตรไทยดีดตัวขึ้นอีกครั้งเป็นวันแรกในรอบ 3 วันทำการ ผ่านพันธบัตรไทย อายุ 10 ปี ผลตอบแทนลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 3 วันทำการ มากถึง 8.06bps จากวันก่อนหน้าเพิ่มขึ้นเท่ากับ 0.77bps ปิดที่ 2.067%
Short-Selling วานนี้
ลดลงเป็นวันแรกในรอบ 3 วันทำการ เหลือ 902 ล้านบาท จากวันก่อนหน้า 1,035 ล้านบาท
NVDR Movement
NVDR กลับมาขายสุทธิวันแรกในรอบ 19 วันทำการ เน้นกลุ่มธนาคารอีกครั้ง
การซื้อขายผ่าน NVDR กลับมาขายสุทธิอีกครั้ง เพียง 441 ล้านบาท เทียบกับ 18 วันทำการก่อนหน้าซื้อสุทธิ 26,413 ล้านบาท ทั้งนี้ NVDR กลับมาลดน้ำหนักกลุ่มธนาคารอีกครั้ง
ประเด็นสำคัญด้านเศรษฐกิจ – การเงินรายภูมิภาค
สหรัฐอเมริกา
ยอดขอสวัสดิการว่างงานใกล้เคียงคาด: เพิ่มขึ้น 2.64 แสนตำแหน่ง ต่ำกว่าที่ Bloomberg consensus คาดเล็กน้อยที่ 2.70 แสนตำแหน่ง แต่ดีกว่าสัปดาห์ก่อนหน้าเล็กน้อยที่ 2.68 แสนตำแหน่ง
Clinton ได้เป็นตัวแทนพรรคเข้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดี: ประธานาธิบดี โอบามา ได้รับรองผลการคัดเลือกตัวแทนพรรค Democrat เข้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดี คือนาง Hillary Clinton
ยุโรป
ประธาน ECB มองต้นทุนทางเศรษฐกิจจากความล่าช้าในการปฎิรูปโครงสร้างสูงมาก: นาย Draghi เรียกร้องให้นักการเมืองช่วย ECB ในการกระตุ้นเศรษฐกิจ ด้วยการเร่งมือปฎิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจ ยิ่งล่าช้ามากไปเท่าไร ต้นทุนต่อเศรษฐกิจจะมากขึ้นเท่านั้น ประธาน ECB ให้ความกังวลต่อภาครัฐในการชะลอแผนการปฎิรูป และผลกระทบที่จะตามมาต่อความน่าเชื่อถือ นโยบายการคลังไม่สามารถขัดแย้งกับนโยบายการเงิน และเพียงหวังว่าเศรษฐกิจขนาดเล็กจะช่วยกระตุ้นการเติบโตได้
จีน
อัตราเงินเฟ้อของจีนชะลอตัวลง: เพิ่มขึ้น 2.0% yoy ในเดือน พ.ค. จากเดือนก่อนที่ +2.3% yoy และต่ำกว่าที่ Bloomberg Consensus คาด +2.2% yoy เปิดโอกาสการเพิ่มมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ นอกจากนี้ดัชนีราคาผู้ผลิตหดตัวเพียง 2.8% yoy ซึ่งเป็นการหดตัวน้อยที่สุดในรอบมากกว่า 4 ปี ลดลงจากเดือนก่อนหน้าที่ -3.4% yoy และต่ำกว่าที่ตลาดคาดที่ -3.2% yoy เป็นผลจากการลดกำลังการผลิตส่วนเกินของรัฐบาล
เอเชียแปซิฟิก
ธนาคารกลางเกาหลีใต้ลดอัตราดอกเบี้ยสวนทางกับที่ตลาดคาด: อัตราดอกเบี้ยนโยบาย RP 7 วัน ลงสู่ 1.25% จากเดิม 1.50% ขณะที่ Bloomberg consensus คาดคงอัตราดอกเบี้ย เพื่อคาดหวังกระตุ้นเศรษฐกิจ พร้อมกับการเดินหน้าลดกำลังการผลิตในวงกว้าง เพื่อลดระดับส่วนเกินกำลังการผลิต และลดภาระหนี้ของภาคเอกชน
ไทย
ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนพ.ค. ต่ำสุดในรอบ 8 เดือน: ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคในเดือน พ.ค.59 อยู่ที่ 72.6 ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจโดยรวมอยู่ที่ 61.1 ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับโอกาสการหางานทำอยู่ที่ 67.7 และดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับรายได้ในอนาคตอยู่ที่ 89.0 ทั้งนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค ยังปรับตัวลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 5 ต่ำสุดในรอบ 8 เดือน จากปัจจัยลบ คือ การส่งออกในเดือนเม.ย. ลดลง 8%,ราคาน้ำมันขายปลีกในประเทศปรับตัวเพิ่มขึ้น, ความกังวลเกี่ยวกับความผันผวนของเศรษฐกิจโลกที่อาจส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวของการส่งออก, ความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ภัยแล้ง และราคาพืชผลทางการเกษตรที่ยังทรงตัวในระดับต่ำ
กองทุนไทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟันด์พร้อมออก: นายรพี สุจริตกุล เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าการจัดตั้งกองทุนไทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟันด์ หรือกองทุนโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคตประเทศไทย ว่า ขณะนี้ในด้านกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับ ก.ล.ต. ได้ดำเนินการเสร็จสิ้นแล้ว รัฐบาลสามารถตั้งกองทุนเพื่อลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานของรัฐได้ทันที ซึ่งปัจจุบันกองทุนดังกล่าวอยู่ในระหว่างรอให้สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) จัดตั้งกองทุนหลักให้เสร็จ เพื่อกำหนดนโยบายการเข้าไปลงทุนในกองทุนเล็กๆ ที่จะบรรจุโครงการโครงสร้างพื้นฐานทั้งโครงการที่สร้างรายได้แล้ว และโครงการที่ยังไม่สร้างรายได้
โดย บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด ประจำวันที่ 10 มิ.ย. 2559
ข่าวเด่น