กรมการจัดหางาน เตือนคนหางานอย่าลักลอบไปทำงานต่างประเทศอย่างผิดกฎหมายโดยแอบแฝงไปในกลุ่มนักท่องเที่ยว เพราะอาจถูกจับและถูกบังคับค้าประเวณี ขณะที่เดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาระงับการเดินทางของผู้ที่มีพฤติการณ์จะลักลอบไปทำงานต่างประเทศและยอมรับว่าจะไปทำงานต่างประเทศผ่านด่านตรวจคนหางานสุวรรณภูมิ จำนวน 106 คน
นายอารักษ์ พรหมณี อธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าวว่า คนหางานไทยยังนิยมไปทำงานต่างประเทศ เนื่องจากได้รับอัตราค่าจ้างที่สูงกว่าทำงานในประเทศ จึงเป็นช่องทางให้กับกลุ่มมิจฉาชีพชักชวนให้ลักลอบไปทำงาน โดยใช้วีซ่าท่องเที่ยวส่วนใหญ่เมื่อเดินทางไปแล้วมักจะไม่มีงานทำและถูกลอยแพ ต้องอยู่อย่างหลบซ่อน หรืออาจถูกบังคับให้ค้าประเวณี หลายรายต้องถูกจับกุมเนื่องจากการลักลอบทำงานเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย จากสถิติคนงานไทยที่เดินทางไปทำงานในต่างประเทศ โดยผ่านด่านตรวจคนหางานสุวรรณภูมิประจำเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา พบว่ามีคนงานไทยไปทำงานในต่างประเทศรวมทั้งสิ้นจำนวน 8,480 คน โดยนิยมเดินทางไปทำงานที่ไต้หวันมากที่สุด จำนวน 2,616 คน รองลงมาเกาหลีใต้ จำนวน 1,137 คน ขณะเดียวกันเกาหลีใต้ยังเป็นประเทศที่ถูกระงับการเดินทางมากที่สุด จำนวน 58 คน จากจำนวน 106 คน
กรมการจัดหางาน จึงขอเตือนคนหางานที่ประสงค์จะไปทำงานต่างประเทศ ให้ตรวจสอบข้อมูลของนายจ้างและตำแหน่งงานก่อนว่ามีจริงหรือไม่ ลักษณะงานเป็นอย่างไร มีสัญญาจ้างหรือไม่อย่างไรและไปโดยถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ โดยขอให้ตรวจสอบข้อมูลก่อนตัดสินใจเดินทางไปทำงานต่างประเทศ ได้ที่สำนักงานจัดหางานจังหวัดทุกจังหวัด สำนักจัดหางานกรุงเทพเขตพื้นที่ 1-10 หรือสายด่วนกรมการจัดหางาน โทร. 1694
ข่าวเด่น