ข่าว เบรกกิ้งนิวส์
สวนดุสิตโพลเผยประชาชน57%เห็นว่ายังไม่ถึงเวลาหยุดใช้ม.44


 


ตั้งแต่ที่มีการประกาศใช้มาตรา 44 ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยฉบับชั่วคราว พ.ศ. 2557                      เพื่อสร้างความปรองดอง รักษาความสงบเรียบร้อยรวมถึงระงับและป้องกันปราบปรามการกระทำผิดที่อาจเกิดขึ้นในบ้านเมือง จนถึงวันนี้ก็ยังมีการวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับการใช้มาตรา 44 อยู่ เพื่อเป็นการสะท้อนความคิดเห็นของประชาชน “สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ได้สำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศ จำนวนทั้งสิ้น 1,139 คน สำรวจระหว่างวันที่ 6-10 มิถุนายน 2559 สรุปผลได้ ดังนี้

เมื่อถาม ความคิดเห็นของประชาชน กับ “การใช้มาตรา 44” ณ วันนี้
 
อันดับ 1 ทำให้บ้านเมืองสงบเป็นระเบียบเรียบร้อยมากขึ้น ช่วยลดความขัดแย้งในบ้านเมือง 80.60%
อันดับ 2 ควรนำมาใช้ให้เหมาะสมและประเมินสถานการณ์บ้านเมืองเป็นระยะๆ 78.14%
อันดับ 3 ประชาชนมองว่าเผด็จการ ใช้อำนาจมากเกินไป จำกัดสิทธิเสรีภาพประชาชน 67.52%
อันดับ 4 ยังคงมีทั้งผู้ที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วยกับการใช้มาตรา 44 56.63%
อันดับ 5 ช่วยให้รัฐบาลบริหารบ้านเมืองได้ง่าย สามารถจัดการแก้ปัญหาต่างๆได้รวดเร็ว 53.47%
 

เมื่อถามว่า  สถานการณ์บ้านเมือง ณ วันนี้ ประชาชนคิดว่าควรใช้มาตรา 44 ในเรื่องใดบ้าง? 
 
อันดับ 1 แก้ปัญหาเศรษฐกิจและค่าครองชีพของประชาชน 81.39%
อันดับ 2 ปราบปรามการทุจริตคอรัปชั่น ตรวจสอบความโปร่งใสในการทำงานของภาครัฐ 73.66%
อันดับ 3 การดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง สร้างความสามัคคีปรองดอง 71.20%
อันดับ 4 ปราบปรามอาชญากรรม โจร ผู้ร้าย  ยาเสพติด มาเฟียและผู้มีอิทธิพล 66.90%
อันดับ 5 การแก้กฎหมาย การร่างรัฐธรรมนูญที่เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม 50.92%

เมื่อถามว่าประชาชนคิดว่าถึงเวลาที่ควรหยุดใช้มาตรา 44 แล้วหรือยัง?
 
อันดับ 1 ยังไม่ถึงเวลา 57.07%เพราะ  บ้านเมืองยังมีหลายปัญหาที่ต้องจัดการ ควรใช้ต่อไปอีกสักระยะ  รอให้สถานการณ์ต่างๆเข้าที่เข้าทาง ฯลฯ
อันดับ 2 ถึงเวลาแล้ว 42.93%เพราะ  มีผลต่อเศรษฐกิจและภาพลักษณ์ของประเทศ ตั้งแต่ใช้มาตรา 44 ก็ถูกต่อต้านคัดค้านมาโดยตลอด ฯลฯ

เมื่อถามว่าตั้งแต่มีการประกาศใช้ “มาตรา 44” จนถึงปัจจุบัน ประชาชนคิดว่าเป็นอย่างไร?
 
อันดับ 1 ผลดีมากกว่าผลเสีย 50.40%เพราะ   ทำให้คนเกรงกลัว ไม่กล้าทำผิดกฎหมาย รัฐบาลทำงานได้ง่ายขึ้น ช่วยควบคุมสถานการณ์บ้านเมือง ฯลฯ
อันดับ 2 ผลดีผลเสียพอๆกัน 27.12%เพราะ   ขึ้นอยู่กับมุมมองและวิจารณญาณของแต่ละคน รวมทั้งผลกระทบที่ได้รับมากน้อยแตกต่างกันไป ฯลฯ
อันดับ 3 ผลเสียมากกว่าผลดี 22.48%เพราะ   ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์และเศรษฐกิจของประเทศ เป็นประเด็นที่ทำให้เกิดความขัดแย้งมากขึ้น ฯลฯ
         
 
         



 

บันทึกโดย : วันที่ : 11 มิ.ย. 2559 เวลา : 10:12:30

24-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 24, 2024, 5:15 pm