รศ.ดร.เชษฐ รัชดาพรรณาธิกุล ประธานชมรมนักวิจัยไทยเพื่อความสุขชุมชน (Thai Researchers in Community Happiness Association, TRICHA) เปิดเผยผลวิจัยเชิงสำรวจมาสเตอร์โพลล์(Master Poll) เรื่อง บริษัทประชารัฐเป็นอย่างไรในใจประชาชน :กรณีศึกษาตัวอย่างแกนนำชุมชนทั่วประเทศ จำนวนทั้งสิ้น 1,102 ตัวอย่างจากจังหวัดทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ
เมื่อสอบถามความคิดเห็นของตัวอย่างแกนนำชุมชนถึงการติดตามข่าวสารผ่านสื่อมวลชนในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมาพบว่าตัวอย่างร้อยละ 53.3 ระบุติดตามทุกวัน/เกือบทุกวัน ในขณะที่ร้อยละ 33.1 ระบุติดตาม 3-4 วัน/สัปดาห์ ร้อยละ 9.7 ระบุติดตาม 1-2 วันต่อสัปดาห์ ร้อยละ 3.4 ติดตามเป็นบางวัน และร้อยละ 0.5 ระบุไม่ได้ติดตามเลย
และเมื่อคณะผู้วิจัยได้สอบถามถึงการติดตามข่าวสารเกี่ยวกับการจัดตั้งบริษัทประชารัฐนั้นพบว่า ร้อยละ 20.4 ระบุติดตามอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่มากกว่าครึ่งหนึ่งหรือร้อยละ 62.5 ระบุติดตามบ้าง ในขณะที่ร้อยละ 17.1 ระบุไม่ได้ติดตามเรื่องนี้เลย
สำหรับความคิดเห็นของตัวอย่างแกนนำชุมกรณีที่มีตัวแทนกลุ่มทุนขนาดใหญ่เข้ามามีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนบริษัทประชารัฐ พบว่า แกนนำชุมชนร้อยละ 50.2 คิดว่าน่าจะมีผลในเชิงบวก ในขณะที่ร้อยละ 8.9 ระบุคิดว่าน่าจะมีผลในเชิงลบ และเป็นที่น่าสนใจว่าตัวอย่างมากกว่า 1 ใน 3 หรือร้อยละ 40.9 ระบุยังไม่แน่ใจว่าจะเป็นผลบวกหรือลบ
ประเด็นสำคัญที่น่าพิจารณาคือ เมื่อสอบถามถึงความเชื่อมั่นในความจริงใจของกลุ่มทุน/กลุ่มธุรกิจที่เข้ามามีส่วนร่วมในบริษัทประชารัฐนั้น พบว่า ร้อยละ 46.2 ระบุเชื่อมั่นว่าจะมีความจริงใจ ในขณะที่ร้อยละ 10.4 ระบุไม่เชื่อมั่น และร้อยละ 43.4 ระบุไม่แน่ใจว่าจะมีความจริงใจหรือไม่
และเมื่อสอบถามถึงความเชื่อมั่นต่อรัฐบาลในการป้องกันไม่ให้กลุ่มทุน/กลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่เข้ามาแสวงหาผลประโยชน์จากบริษัทประชารัฐได้นั้น พบว่า ร้อยละ 50.5 ระบุเชื่อมั่นว่ารัฐบาลจะทำได้ ในขณะที่ร้อยละ 9.3 ระบุไม่เชื่อมั่น และร้อยละ 40.2 ระบุไม่แน่ใจ
นอกจากนี้ผลการสำรวจยัง พบว่า แกนนำชุมชน ร้อยละ 48.5 ระบุเชื่อมั่นว่าบริษัทประชารัฐนี้จะช่วยสร้างความเข้มแข็ง พัฒนาเศรษฐกิจในระดับฐานราก และเป็นบริษัทของประชาชนอย่างแท้จริงได้ ในขณะที่ร้อยละ 8.3 ระบุไม่เชื่อมั่น และร้อยละ 43.2 ระบุไม่แน่ใจ
อย่างไรก็ตาม เมื่อสอบถามถึงระยะเวลาที่คิดว่าบริษัทประชารัฐจะสามารถบรรลุเป้าหมายในการลดความเหลื่อมล้ำและสร้างรายได้ให้กับประชาชนในพื้นที่ได้สำเร็จนั้นพบว่า ตัวอย่างมากกว่าครึ่งหนึ่งคือร้อยละ 61.9 ระบุคิดว่าน่าจะใช้เวลามากกว่า 2 ปี ร้อยละ 26.3 ระบุคิดว่าประมาณ 1-2 ปี ร้อยละ 5.0 ระบุคิดว่าไม่เกิน 1 ปี ในขณะที่ร้อยละ 6.8 ระบุคิดว่าไม่น่าจะทำได้สำเร็จ
สำหรับความพร้อมในการสนับสนุนการจัดตั้งบริษัทประชารัฐในพื้นที่จังหวัดของตนนั้นพบว่า ตัวอย่างแกนนำชุมชนร้อยละ 56.9 ระบุพร้อมที่จะสนับสนุน ร้อยละ 2.5 ระบุไม่พร้อม ในขณะที่กว่า 1 ใน 3 คือ ร้อยละ 40.6 ระบุยังไม่แน่ใจ เพราะยังไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องนี้
ประเด็นสำคัญสุดท้าย คณะผู้วิจัยได้สอบถามถึงความคิดเห็นเกี่ยวกับความสุข-ความทุกข์ จากการมี คสช. ซึ่งผลการสำรวจพบว่า ตัวอย่างร้อยละ 60.5 ระบุคสช.ทำให้มีความสุขมากกว่าทุกข์ ในขณะที่ร้อยละ 2.6 ระบุทำให้มีความทุกข์มากกว่า และประมาณ 1 ใน 3 หรือร้อยละ 36.9 ระบุมีทั้งสุขและทุกข์พอๆกัน ทั้งนี้ตัวอย่างส่วนใหญ่เกือบร้อยละ
ข่าวเด่น