โฆษกรัฐบาลเผยรัฐบาลดันกฎหมายฟื้นฟูกิจการลดโอกาสเอสเอ็มอีถูกฟ้องล้มละลาย ระบุไทยเป็นประเทศที่ 3 ของเอเชียที่มีการพัฒนากฎหมายฟื้นฟูกิจการเพื่อช่วยเหลือสนับสนุนเอสเอ็มอีรองจากญี่ปุ่นและเกาหลีใต้
พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลผลักดันให้มีการแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ล้มละลาย (ฉบับที่ 9) พ.ศ.2559 มีผลบังคับใช้เมื่อ 25 พฤษภาคมที่ผ่านมา ถือเป็นครั้งแรกที่เปิดโอกาสให้ลูกหนี้ที่เป็นบุคคลธรรมดา คณะบุคคล ห้างหุ้นส่วน หรือบริษัท ซึ่งประกอบกิจการ ธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อย (เอสเอ็มอี) และอยู่ในสถานะไม่สามารถชำระหนี้ได้ ให้สามารถยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการต่อศาลล้มละลายกลาง
“การฟื้นฟูกิจการคือ กระบวนการทางศาลเพื่อรักษาธุรกิจไว้ ให้กิจการดำเนินต่อไปได้ ที่ผ่านมาจะมีเฉพาะบริษัทจำกัดหรือบริษัทมหาชนจำกัดเท่านั้นที่ยื่นขอฟื้นฟูกิจการได้ รัฐบาลจึงต้องการช่วยเหลือเอสเอ็มอีที่ยังมีศักยภาพ แต่อาจมีปัญหาสภาพคล่องทางการเงินหรือไม่สามารถชำระหนี้จำนวนไม่สูงมากได้ในช่วงเวลาหนึ่ง ทำให้ธุรกิจไม่ถูกฟ้องทั้งทางแพ่งและล้มละลาย โดยมีขั้นตอนที่สะดวก ประหยัด รวดเร็ว ผ่านแผนฟื้นฟูสำเร็จรูป” พล.ต.สรรเสริญ กล่าว
พล.ต.สรรเสริญ กล่าวต่อว่า ลูกหนี้ที่ขอฟื้นฟูกิจการเอาเอ็มอีของตน ถ้าเป็นบุคคลธรรมดา ต้องมีจำนวนหนี้ไม่น้อยกว่า 2 ล้านบาท คณะบุคคล ห้างหุ้นส่วน ไม่น้อยกว่า 3 ล้านบาท ส่วนบริษัทจำกัด ไม่น้อยกว่า 3 ล้านบาท แต่ไม่ถึง 10 ล้านบาท และมีช่องทางธุรกิจที่สามารถดำเนินการต่อไปได้ โดยลูกหนี้ต้องยื่นคำร้องต่อศาลล้มละลายกลาง พร้อมแผนฟื้นฟูที่ได้รับความเห็นชอบจากเจ้าหนี้ และหลักฐานการประชุมร่วมกัน เพื่อให้ศาลพิจารณาออกคำสั่ง เมื่อศาลมีคำสั่งรับคำร้องฟื้นฟูกิจการแล้ว เจ้าหนี้จะฟ้องหรือยึดทรัพย์ลูกหนี้ไม่ได้ และให้งดการยึดทรัพย์หรือขายทอดตลาดไว้ แต่ไม่ให้งดบริการไฟฟ้า ประปา โทรศัพท์ และลูกหนี้ยังสามารถขอสินเชื่อธุรกิจตามปกติได้
พล.ต.สรรเสริญ กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ต้องการให้ทุกหน่วยงานพัฒนากฎหมายที่อยู่ในความรับผิดชอบให้ทันสมัยและเป็นสากล เช่นเดียวกับกฎหมายล้มละลาย โดยประเทศไทยถือเป็นประเทศที่ 3 ของเอเชีย ที่มีการพัฒนากฎหมายฟื้นฟูกิจการเพื่อช่วยเหลือสนับสนุนเอสเอ็มอีรองจากญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ และสนับสนุนข้อดีในการประเมินความยากง่ายในการประกอบธุรกิจของธนาคารโลกอีกด้วย
ข่าวเด่น