หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์พลังงาน บมจ.ไทยออยล์ รายงานสถานการณ์ราคาน้ำมัน ประจำวันที่ 13 มิ.ย. 2559 ราคาน้ำมันดิบปรับลด จากจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบปรับเพิ่มขึ้น 2 สัปดาห์ติดต่อกัน
- ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลง3 เปอร์เซ็นต์ หลัง Bake Huhes ประกาศตัวเลขจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ประจำวันที่ 10 มิ.ย. โดยมีการปรับเพิ่มมากขึ้น 3 แท่นด้วยกันมาอยู่ที่ระดับ 328 แท่น หลังจากที่สัปดาห์ก่อนหน้ามีจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันปรับเพิ่มขึ้นถึง 9แท่น โดยทำให้นักลงทุนบางส่วนมีความคิดเห็นว่าสถานการณ์ตอนนี้เริ่มเข้าสู่แนวโน้มที่กำลังการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ที่ปรับตัวลดลง เริ่มที่จะชะลอตัวลงบ้างแล้ว ในขณะที่นักลงทุนอีกกลุ่มหนึ่งได้ให้ความคิดเห็นว่า ถึงแม้ว่าจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบจะปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมากในสัปดาห์ที่จะถึงนี้ แต่ตลาดยังคงไม่มีข้อมูลอื่นๆ มากดดันราคาน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น
- ประกอบกับค่าเงินดอลล่าร์สหรัฐฯ แข็งค่าขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบเกือบ 2เดือน โดยแข็งค่าขึ้น 0.7เปอร์เซ็นต์ จากเกิดความกังวลในตลาดการเงินโลกและทำให้นักลงทุนหันไปลงทุนในสินทรัพย์ที่ปลอดภัยแทน ทั้งนี้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ที่แข็งค่าขึ้นได้ส่งผลทำให้ราคาน้ำมันดิบในตลาดมีมูลค่าสูงขึ้นสาหรับนักลงทุนที่ถือครองเงินสกุลอื่น และส่งผลทำให้นักลงทุนส่วนใหญ่ได้ขายสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้าเพื่อทำกำไรออกไป รวมถึงตลาดหุ้น Wall Steet ของสหรัฐฯ ปรับตัวลดลงมากกว่า 1 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งเป็นการปรับตัวลดลงมากที่สุดตั้งแต่เดือน เม.ย. ที่ผ่านมา ซึ่งอาจจะส่งผลกดดันให้ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์หน้าปรับตัวลดลงตาม
+ นักลงทุนยังคงจับตาสถานการณ์การผลิตน้ำมันดิบในไนจีเรีย หลังจากมีการประกาศตัวเลขกำลังการผลิตน้ำมันดิบในไนจีเรียลดลงถึง 170,000บาร์เรลต่อวัน เหตุจากการโจมตีท่อน้ำมันภายในประเทศ รวมทั้งบริษัท Eniบริษัทน้ำมันรายใหญ่ของอิตาลีเปิดเผยว่า การผลิตน้ำมันดิบของบริษัทลดลง 65,000 บาร์เรลต่อวัน เนื่องจากท่อส่งน้ำมันในจังหวัดบาเยลซา ซึ่งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศไนจีเรีย ถูกโจมตีจนได้รับความเสียหาย
ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับตัวลดลงน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังในภูมิภาคยังคงอยู่ในระดับต่ำ ส่งผลให้โรงกลั่นน้ำมันต่างๆ คงกำลังการผลิตน้ำมันเบนซินไว้ในระดับเดิม
ราคาน้ำมันดีเซลปรับตัวลดลงน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากมีอุปสงค์จากทางด้านอินเดีย และเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ แต่อย่างไรก็ตามปริมาณน้ำมันดีเซลคลังในภูมิภาคยังคงอยู่ในระดับสูง เนื่องจากโรงกลั่นน้ำมันต่างๆ ยังคงคงกำลังผลิตไว้ในระดับสูง
ไทยออยล์คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์นี้
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสเคลื่อนไหวในกรอบ46-51 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 47-52 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ปัจจัยที่น่าจับตามอง
สถานการณ์ความไม่สงบไนจีเรียยังคงยืดเยื้อ หลังกลุ่มติดอาวุธ ไนเจอร์ เดลต้า อเวนเจอร์ ยังเดินหน้าโจมตีท่อขนส่งและแหล่งผลิตน้ำมันดิบทั้งนี้ สถานการณ์ความไม่สงบดังกล่าวส่งผลให้ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบปรับลดลงต่อเนื่องสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 22 ปีที่ราว 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน และมีแนวโน้มที่จะยังคงอยู่ในระดับต่ำเป็นระยะเวลานาน
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ มีแนวโน้มอ่อนค่าลง หลังจากที่ตลาดคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed)อาจชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือน มิ.ย.และเดือน ก.ค. ออกไปก่อน โดยตลาดซื้อขายล่วงหน้าของอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นสหรัฐฯ (Fed Funds Futures) มองว่าโอกาสที่Fed จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือน ก.ค. เหลือเพียง 18%
ปริมาณน้ำมันดิบในคงคลังสหรัฐฯ มีแนวโน้มปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยปริมาณน้ำมันดิบคงคลังของสหรัฐฯ สิ้นสุด ณ วันที่ 3 มิ.ย. ปรับลดลงกว่า 3.2ล้านบาร์เรล เป็นสัปดาห์ที่สามติดต่อกัน และมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ สู่ระดับ 532.5ล้านบาร์เรล
โดย หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์พลังงาน บมจ.ไทยออยล์ ประจำวันที่ 13 มิ.ย. 2559
.jpg)
ข่าวเด่น