|
|
|
|
|
|
ราคาน้ำมันดิบร่วงติดต่อกันป็นวันที่ 4 จากความกังวลว่าอังกฤษจะแยกตัวจากสหภาพยุโรป:บมจ.ไทยออยล์
หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์พลังงาน บมจ.ไทยออยล์ วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน ประจำวันที่15 มิถุนายน 2559
+ ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลง หลังจากนักลงทุนมีความวิตกกังวลมากขึ้นต่อกรณีที่ประเทศอังกฤษอาจตัดสินใจแยกตัวจากสหภาพยุโรป (Brexit) ในการลงประชามติวันที่ 23 มิ.ย. เนื่องจากผลการสำรวจพบว่าร้อยละ 47 เป็นผู้ที่สนับสนุนให้ประเทศอังกฤษแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป โดยมีจำนวนมากกว่าผู้ที่สนับสนุนให้ประเทศอังกฤษยังคงอยู่ในสหภาพยุโรปเพียงร้อยละ 40 ซึ่งนักลงทุนมองว่าหากประเทศอังกฤษตัดสินใจแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป จะส่งผลให้เศรษฐกิจในยุโรปชะลอตัว และอาจส่งผลกระทบต่อความต้องการใช้น้ำมันได้
+ สถาบันปิโตรเลียมอเมริกัน (API) เปิดเผยว่าปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ รอบสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 10 มิ.ย. ปรับเพิ่มขึ้น 1.2 ล้านบาร์เรล มาอยู่ที่ 536.7 ล้านบาร์เรล ซึ่งสวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะปรับลดลง 2.3 ล้านบาร์เรล โดยสาเหตุหลักมาจากการน้ำเข้าน้ำมันดิบที่ลดลงและการปรับลดกำลังการผลิตของโรงกลั่นภายในประเทศ
+ รายงานประจำเดือน มิ.ย.ของสำนักงานพลังงานสากล (IEA) คาดว่าตลาดน้ำมันโลกจะเข้าสู่ภาวะสมดุลในช่วงครึ่งหลังของปี ซึ่งถือเป็นการกลับมาที่จุดสมดุลหลังอุปทานมากกว่าอุปสงค์อยู่เป็นเวลาสองปี เนื่องจากอุปทานน้ำมันในตลาดโลกปรับตัวลดลง จากภาวะขัดข้องด้านการผลิตน้ำมันของกลุ่มโอเปก และนอกกลุ่มโอเปก ประกอบกับอุปสงค์น้ำมันโลกที่มีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยคาดว่าจะแตะระดับ 1.3 ล้านบาร์เรลต่อวันในปีนี้
ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับตัวลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากตลาดในภูมิภาคยังคงได้รับแรงกดดันจากสภาวะอุปทานที่มากกว่าอุปสงค์ โดยเฉพาะโรงกลั่นน้ำมันในภูมิภาคเอเชียเหนือที่ดำเนินการผลิตน้ำมันเบนซินอย่างเต็มกำลัง หลังส่วนต่างราคาน้ำมันเบนซินและน้ำมันดิบยังอยู่ในระดับดี อย่างไรก็ดี แนวโน้มปริมาณการผลิตน้ำมันเบนซินอาจลดลงเนื่องจากปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังในภูมิภาคอยู่ในระดับสูง
ราคาน้ำมันดีเซล ปรับตัวลดลงน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบเล็กน้อย หลังมีอุปสงค์จากเวียดนามและอินโดนีเซีย อย่างไรก็ตามราคาน้ำมันดีเซลได้รับแรงกดดันจากการกลับมาดำเนินการกลั่นของโรงกลั่นในสิงคโปร์และเกาหลี
ไทยออยล์คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์นี้
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสเคลื่อนไหวในกรอบ 46-51 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 47-52 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ปัจจัยที่น่าจับตามอง
สถานการณ์ความไม่สงบไนจีเรียยังคงยืดเยื้อ หลังกลุ่มติดอาวุธ ไนเจอร์ เดลต้า อเวนเจอร์ ยังเดินหน้าโจมตีท่อขนส่งและแหล่งผลิตน้ำมันดิบ ทั้งนี้ สถานการณ์ความไม่สงบดังกล่าวส่งผลให้ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบปรับลดลงต่อเนื่องสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 22 ปีที่ราว 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน และมีแนวโน้มที่จะยังคงอยู่ในระดับต่ำเป็นระยะเวลานาน
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ มีแนวโน้มอ่อนค่าลง หลังจากที่ตลาดคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) อาจชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือน มิ.ย.และเดือน ก.ค. ออกไปก่อน โดยตลาดซื้อขายล่วงหน้าของอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นสหรัฐฯ (Fed Funds Futures) มองว่าโอกาสที่ Fed จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือน ก.ค. เหลือเพียง 18%
ปริมาณน้ำมันดิบในคงคลังสหรัฐฯ มีแนวโน้มปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยปริมาณน้ำมันดิบคงคลังของสหรัฐฯ สิ้นสุด ณ วันที่ 3 มิ.ย. ปรับลดลงกว่า 3.2 ล้านบาร์เรล เป็นสัปดาห์ที่สามติดต่อกัน และมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ สู่ระดับ 532.5 ล้านบาร์เรล
|
LastUpdate 15/06/2559 12:31:39 โดย : Admin |
|
|
|
|
ข่าวเด่น