บมจ. เน็ตเบย์ (NETBAY) ผู้พัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการด้าน e-Logistics Trading และ e-Business Services พร้อมเข้าซื้อขายใน ตลาดหลักทรัพย์ mai 16 มิ.ย. นี้ ด้วยมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 800 ล้านบาท
นายประพันธ์ เจริญประวัติ ผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) เปิดเผยว่า บมจ. เน็ตเบย์ (NETBAY) จะเข้าจดทะเบียนและเริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ mai ในกลุ่มเทคโนโลยี ในวันที่ 16 มิถุนายน 2559 โดย NETBAY ดำเนินธุรกิจพัฒนาผลิตภัณฑ์ในการทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-Business) นำเสนอแก่ผู้ใช้บริการในรูปแบบ Software as a Service (SaaS) เชื่อมต่อระหว่างภาคธุรกิจและภาครัฐ (B2G) ระหว่างภาคธุรกิจและภาคธุรกิจ (B2B) และระหว่างภาคธุรกิจและผู้บริโภค (B2C) ปัจจุบันบริษัทให้บริการ e-Business ใน 3 กลุ่ม ได้แก่ 1) กลุ่ม e-Logistics Trading ซึ่งเป็นบริการที่เกี่ยวข้องกับพิธีการศุลากากรอิเล็กทรอนิกส์ 2) กลุ่ม e-Business Services เป็นบริการรายงานข้อมูลธุรกรรมลูกค้าที่ทำธุรกรรมกับสถาบันการเงิน รวมถึงให้บริการข้อมูลในการตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับลูกค้า 3) กลุ่ม Project คือการพัฒนาระบบสารสนเทศภายในให้แก่องค์กร
NETBAY มีทุนชำระแล้ว 200 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1.00 บาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญเดิม 160 ล้านหุ้น และหุ้นสามัญเพิ่มทุน 40 ล้านหุ้น เสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) เมื่อวันที่ 8-10 มิถุนายน 2559 ในราคาหุ้นละ 4.00 บาท คิดเป็นมูลค่าระดมทุน 160 ล้านบาท มูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 800 ล้านบาท มีบริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย
นายพิชิต วิวัฒน์รุจิราพงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. เน็ตเบย์ (NETBAY) เปิดเผยว่า NETBAY มีความมุ่งมั่นสร้างสรรค์พัฒนา นวัตกรรม เทคโนโลยี ดิจิทัล บิสซิเนสแพลทฟอร์ม ผสมผสานกับองค์ความรู้ทางธุรกิจด้าน โลจิสติกส์และการนำเข้าและส่งออกสินค้าด้วยความใส่ใจ โดยคำนึงถึงความพึงพอใจของลูกค้า ภายใต้แนวคิด Better Faster Cheaper ทำให้ลูกค้าผู้ใช้บริการของบริษัทสามารถเข้าถึงบริการระบบสารสนเทศโดยใช้งบลงทุนไม่มาก เพิ่มความสะดวกรวดเร็วในการรับ-ส่งข้อมูลผ่านระบบออนไลน์ทดแทนการใช้เอกสาร ซึ่งนวัตกรรม เทคโนโลยี แพลทฟอร์มดังกล่าวถือเป็นส่วนสำคัญของโครงสร้างพื้นฐานด้านโลจิสติกส์ของประเทศ ทั้งนี้ การนำบริษัทฯ เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai จะช่วยเสริมสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้า และสร้างฐานทุนที่แข็งแกร่งเพื่อรองรับโอกาสทางธุรกิจในอนาคต โดย NETBAY จะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการขยายธุรกิจ
NETBAY มีผู้ถือหุ้นใหญ่ 3 ลำดับแรกหลัง IPO ได้แก่ นายพิชิต วิวัฒน์รุจิราพงศ์ ถือหุ้น 60.00% บมจ. อินเทอร์เน็ตประเทศไทย ถือหุ้น 20.00% และนางสาวรสิตา จิรพิชิตชัย ถือหุ้น 0.50% การกำหนดราคาเสนอขายหุ้นครั้งนี้คิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิ (P/E Ratio) ที่ 11.76 เท่า คำนวณจากผลกำไรสุทธิ 4 ไตรมาสที่ผ่านมา (1 เม.ย. 2558- 31 มี.ค. 2559) ซึ่งเท่ากับ 67.82 ล้านบาท หารด้วยจำนวนหุ้นสามัญทั้งหมดภายหลังการเสนอขายหุ้นครั้งนี้ (fully diluted) คิดเป็นกำไรสุทธิต่อหุ้น 0.34 บาท ทั้งนี้ บริษัทมีนโยบายจ่ายเงินปันผลไม่น้อยกว่า 40% ของกำไรสุทธิหลังจากหักภาษีเงินได้นิติบุคคลและสำรองต่างๆ ทุกประเภทตามที่กฎหมายกำหนด
ผู้ลงทุนและผู้สนใจ โปรดดูรายละเอียดจากหนังสือชี้ชวนของบริษัทที่เว็บไซต์ของสำนักงาน ก.ล.ต. ที่ www.sec.or.th และข้อมูลทั่วไปของบริษัทที่ www.netbay.co.th และที่เว็บไซต์ www.set.or.th
ข่าวเด่น