พาณิชย์เผยอยู่ระหว่างการเจรจากับบริษัท ท่าอากาศยานไทย (ทอท.) เพื่อขอใช้พื้นที่ภายในสนามบินที่อยู่ในความดูแลของ ทอท.นำสินค้าของผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) และสินค้าโอท็อป มาวางจำหน่าย
น.ส.ผ่องพรรณ เจียรวิริยะพันธ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า กรมอยู่ระหว่างการเจรจากับบริษัท ท่าอากาศยานไทย (ทอท.) เพื่อขอใช้พื้นที่ภายในสนามบินที่อยู่ในความดูแลของ ทอท.นำสินค้าของผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) และสินค้าโอท็อป มาวางจำหน่าย เบื้องต้นคาดว่า ทอท.จะตอบรับให้ใช้พื้นที่สนามบินเชียงใหม่ และสนามบินภูเก็ต วางจำหน่ายสินค้าเอสเอ็มอีและสินค้าโอท็อป
ปัจจุบัน มี 2 สนามบินที่ได้ใช้พื้นที่ในการเปิดจุดจำหน่ายสินค้าโอท็อปและสินค้าเอสเอ็มอีแล้ว คือสนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งได้ร่วมมือกับบริษัทคิง เพาเวอร์ ให้ซื้อขาดสินค้าเอสเอ็มอีและสินค้าโอท็อปไปวางจำหน่ายภายในสนามสุวรรณภูมิ ส่วนสนามบินดอนเมืองกำลังอยู่ระหว่างการปรับปรุงพื้นที่ เพื่อเปิดจุดจำหน่ายในเร็วๆนี้
นอกจากนี้ กรมฯมีแผนที่จะผลักดันสินค้าเอสเอ็มอีและสินค้าโอท็อป ไปวางจำหน่ายปลีกตามช่องทางต่างๆ โดยจะร่วมมือกับผู้ประกอบการ ค้าปลีก ซึ่งจะเป็นการเพิ่มยอดขายสินค้าให้กับ ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีของไทย เช่น การนำสินค้าไปวางจำหน่ายภายในสนามบินสุวรรณภูมิในปี 2558 ที่ผ่านมา สินค้าโอท็อปที่จำหน่ายได้ ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ มูลค่า 60.50 ล้านบาท แบ่งเป็นสินค้ากลุ่มเสื้อผ้าสำเร็จรูป สัดส่วน 41% มูลค่า 26 ล้านบาท กลุ่มอาหารท้องถิ่น 20% มูลค่า 12 ล้านบาท ผ้าไหมไทย 7% มูลค่า 4.3 ล้านบาท กลุ่มสินค้าสปา 4% มูลค่า 2.4 ล้านบาท กลุ่มงาน ศิลปะ 4.2 ล้านบาท กลุ่มยา 9% มูลค่า 5.6 ล้านบาท กลุ่มของที่ระลึกท้องถิ่น 4% มูลค่า 2.5 ล้านบาท งานหัตถกรรม 5% มูลค่า 3.0 ล้านบาท กลุ่มเครื่องดื่ม แอลกอฮอลล์และไวน์ 4% มูลค่า 2.8 ล้านบาท โดยมีจำนวนผู้ขายและผลิตภัณฑ์โอท็อป 151 กลุ่ม 743 ผลิตภัณฑ์
ในส่วนของการจัดเจรจาธุรกิจและเชื่อมโยงการตลาด โอท็อป ซีเล็คท์ ที่เชิญผู้ซื้อรายใหญ่ 30 ราย เช่น คิงเพาเวอร์ ซีพีออลล์ บุญรอดบริวเวอรี่ เซ็นทรัลฟู้ด รีเทล เครือเดอะมอลล์ กรุ๊ป Shop Channel ทั้งในและต่างประเทศ และชอปปิง ออนไลน์หรือ e-Marketplace มาเจรจากับ ผู้ประกอบการสินค้าโอท็อป ซีเล็คท์ ที่ได้ คัดเลือกสินค้าโอท็อประดับ 4 ดาว 5 ดาว จาก 77 จังหวัดทั่วประเทศ ประมาณ 300 กว่าสินค้า คาดว่าจะมียอดการซื้อสินค้าภายใน 2 วันที่จัดคือ 15-16 มิ.ย. ประมาณ 60 ล้านบาท และยังเป็นการช่วยเหลือผู้ประกอบการให้ได้มีช่องทางการจำหน่ายสินค้า
ข่าวเด่น