จากกรณีวัยรุ่นหญิงอายุ 21 ปี เสียชีวิตภายหลังรับประทานผลิตภัณฑ์เสริมอาหารจากหมามุ่ยอินเดีย แบบแคปซูล กระทั่งเกิดอาการแพ้อย่างรุนแรงก่อนจะเสียชีวิต ที่โรงพยาบาลตรัง เหตุเกิดเมื่อวันที่ 11 มิถุนายนที่ผ่านมา จนเกิดกระแสในสังคมออนไลน์
ต่อกณีดังกล่าว นพ.ไพศาล ดั่นคุ้ม รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา(อย.) กล่าวว่า กรณีผู้เสียชีวิตจากจ.ตรัง ทางสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด(สสจ.)ตรัง ได้ตรวจสอบข้อมูล เบื้องต้นทราบว่าผู้เสียชีวิตมีประวัติโรคลมชัก มีการรับประทานยากันชัก โดยมารดาของผู้เสียชีวิตให้ข้อมูลว่า ขณะเดียวกันได้ทานผลิตภัณฑ์เสริมอาหารจากหมามุ่ยด้วย ซึ่งเมื่อไปตรวจสอบก็พบว่าผลิตภัณฑ์ดังกล่าวไม่มีเลขทะเบียนของ อย. ซึ่งต้องบอกก่อนว่า อย.ไม่เคยให้เลขทะเบียนใดๆกับผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร หรือผลิตภัณฑ์อาหาร หรือยาที่เกี่ยวกับหมามุ่ยเลย อย่างไรก็ตาม ส่วนกรณีที่เสียชีวิตนั้น คาดว่าเกิดจากการแพ้ยารุนแรง หรือกลุ่มอาการสตีเวนส์–จอห์นสัน ( Stevens-Johnson syndrome ) ส่วนจะแพ้สารชนิดใด ขณะนี้ได้ส่งให้ทางกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ตรวจสอบข้อเท็จจริงต่อไป
นพ.ไพศาล กล่าวด้วยว่า กรณีที่ยังมีการจำหน่ายผลิตภัณฑ์เสริมอาหารจาก “เม็ดหมามุ่ย” นั้น ในส่วนของ อย. ขอยืนยันว่า อย.ไม่เคยรับรอง ไม่เคยให้เลขทะเบียนแก่ผลิตภัณฑ์ทุกชนิด เนื่องจากเรามีการทำข้อตกลงในกลุ่มประเทศอาเซียนว่า เม็ดหมามุ่ย เป็นกลุ่มยาสมุนไพร จึงจะไม่มีการออกเลขทะเบียบรับรองการผลิตในรูปผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ดังนั้น ตามท้องตลาดทุกวันนี้ที่มีการขายให้แก่ผู้บริโภค และอ้างว่ามีการรับรองจาก อย. นั้น ถือว่าผิดกฎหมายทั้งหมด ซึ่งก็ต้องไปดูว่ามีการผิดลักษณะใด เช่น หากมีการอ้างเลข อย. บนฉลาก จะถือว่าเป็นอาหารปลอม มีโทษจำคุกตั้งแต่ 6 เดือน – 10 ปี และปรับตั้งแต่ 5 พันถึง 1 แสนบาท แต่หากพบเพิ่มเติมอีกว่ามีการผสมยาแผนปัจจุบันร่วมด้วยก็จะผิดในข่ายอาหารไม่บริสุทธิ์มีโทษปรับ 2หมื่นบาท และจำคุก 2 ปี และหากตรวจพบเพิ่มเติมว่าโฆษณาคุณประโยชน์ คุณภาพ หรือสรรพคุณของอาหารโดยไม่ได้รับอนุญาต จะมีโทษปรับ ไม่เกิน 5,000บาท หรือถ้าพิสูจน์ได้ว่าเป็นการโฆษณาสรรพคุณอาหารโอ้อวดสรรพคุณเกินจริง หรือ หลอกลวงให้เกิดความหลงเชื่อโดยไม่สมควร จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 30,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ข่าวเด่น