กรมสนับสนุนบริการสุขภาพแนะเจ้าของธุรกิจสปา นวดเพื่อสุขภาพและนวดเสริมความงามทุกแห่ง ที่จะขอขึ้นทะเบียนประกอบการให้ถูกต้องตามกฎหมาย เร่งปรับปรุงมาตรฐานให้ครบถ้วนตามเกณฑ์ ชี้ผลพวงของกฎหมายฉบับนี้จะคุ้มครองนวดไทยซึ่งเป็นภูมิปัญญาประเทศ ให้มีมาตรฐานถูกต้อง แพร่หลายทั่วประเทศและสู่ระดับโลก
วันนี้ (20 มิถุนายน 2559) ที่โรงแรมโฆษะ อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น นายแพทย์ธงชัย กีรติหัตถยากร รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (กรม สบส.) กระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยนายแพทย์ภัทรพล จึงสมเจตไพศาล ผู้อำนวยการกองสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ เปิดประชุมเจ้าของธุรกิจสปา นวดเพื่อสุขภาพและนวดเสริมความงาม นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด เจ้าหน้าที่สาธารณสุข และแกนนำอสม. ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งเป็นภาคสุดท้าย เพื่อชี้แจงทำความเข้าใจ เตรียมความพร้อมการปฏิบัติอย่างถูกต้องตามพระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ.2559 เป็นแนวทางเดียวกันทั่วประเทศ
นายแพทย์ธงชัย ให้สัมภาษณ์ว่า เมื่อพระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ.2559 ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 27 กันยายน 2559 คาดว่าจะมีผู้ยื่นคำขออนุญาตประกอบกิจการสถานประกอบการเพื่อสุขภาพมายังกรมสบส. นับหมื่นแห่ง
จากการตรวจเยี่ยมสถานประกอบการฯ หลายแห่งที่เปิดบริการในกทม.ขณะนี้ พบว่าเกินครึ่งยังไม่ได้ จดทะเบียนกับกรมสบส.โดยประมาณร้อยละ 90 ให้บริการนวดเป็นหลัก มีบุคลากรผ่านการอบรมนวดจากสถาบันการศึกษาที่ได้รับการรับรองมาตรฐานหลักสูตรจากกรมสบส.น้อยกว่าร้อยละ 20 ดังนั้นตั้งแต่วันที่ 27 กันยายน 2559 เป็นต้นไป สถานประกอบการฯ เหล่านี้จะได้รับการดูแล ส่งเสริมให้ได้ตามเกณฑ์มาตรฐานที่กฎหมายกำหนด ส่วนสถานประกอบการฯ ที่เป็นน้ำเสีย คือเป็นบริการที่มีเรื่องเพศแอบแฝงทุกประเภท จะต้องขจัดให้หมดไป จึงกล่าวได้ว่า ผลพวงของพ.ร.บ.สถานประกอบการเพื่อสุขภาพฯ ฉบับนี้ จะช่วยส่งเสริมการนวดไทย ซึ่งเป็นภูมิปัญญาไทย ภูมิปัญญาชาติและมีเอกลักษณ์ให้มีมาตรฐานและมีคุณภาพ ซึ่งขณะนี้มีคนไทยจำนวนมากไปประกอบธุรกิจสถานประกอบการเพื่อสุขภาพที่ต่างประเทศ เช่น ญี่ปุ่น เยอรมัน สวิสเซอร์แลนด์ และได้รับการรับรองมาตรฐานจากกรม สบส. พบว่าได้รับความนิยมจากต่างประเทศเป็นอันมาก
ทั้งนี้ ขอย้ำว่าสถานประกอบการเพื่อสุขภาพเป็นบริการให้ผลส่งเสริมสุขภาพ ไม่ใช่สถานที่บำบัดรักษาอาการเจ็บป่วยทุกแห่งจะต้องจัดบริการที่มีคุณภาพ ปลอดภัยให้ประโยชน์ต่อสุขภาพผู้รับบริการอย่างแท้จริง ไม่มีบริการอื่นใดแอบแฝง กรมสบส.ขอให้เจ้าของธุรกิจสถานประกอบการเพื่อสุขภาพทุกประเภท ให้ความสำคัญในการดูแล ควบคุม คุณภาพมาตรฐานสถานประกอบการฯ ให้ถูกต้องตามที่กฎหมายกำหนด ประกอบกิจการให้ตรงตามประเภทที่ขออนุญาตกับกรมสบส. ไม่จำหน่ายหรือเสพเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ผลิตภัณฑ์ยาสูบ ยาเสพติด ไม่ให้ผู้มีอาการมึนเมาจนประพฤติตนวุ่นวาย หรือพกพาอาวุธเข้าไปในสถานประกอบการฯ หากเจ้าของธุรกิจไม่มีการควบคุม ดูแล หรือปล่อยปละละเลย ถือว่ามีความผิด มีบทลงโทษตามวาระการกระทำผิด อาทิ ประกอบกิจการไม่ตรงตามประเภทที่ขออนุญาต มีโทษปรับไม่เกิน 40,000 บาท ปล่อยปละละเลยให้มีการกระทำผิดเกี่ยวกับการค้าประเวณี ยาเสพติด สิ่งมึนเมา มีโทษปรับไม่เกิน 30,000 บาท เป็นต้น และเพิกถอนใบอนุญาตประกอบกิจการ
ด้านนายแพทย์ภัทรพล จึงสมเจตไพศาล ผู้อำนวยการกองสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ กล่าวว่า ในเรื่องของ การโฆษณาสถานประกอบการ ขณะนี้กรมสบส.ได้ดำเนินการจัดทำมาตรฐานเสร็จแล้ว โดยห้ามใช้ข้อความโฆษณาเท็จหรือทำนองโอ้อวดสรรพคุณการบริการเพื่อสุขภาพที่เกินจริง หรือโฆษณาว่าอุปกรณ์ เครื่องมือ ผลิตภัณฑ์ที่นำมาใช้สามารถบำบัด รักษาหรือป้องกันโรคได้ อาทิ นวดรักษาสารพัดโรค เป็นต้น หรือการโฆษณาที่มีลักษณะส่อไปในทางลามกอนาจาร อาทิ นวดอโรมากับสาวสวย, สปาโดยพริตตี้สาว เป็นต้น ห้ามใช้ภาพผู้ให้บริการที่ล่อแหลมนุ่งน้อยห่มน้อย หากพบพนักงานเจ้าหน้าที่จะแจ้งให้ผู้ประกอบกิจการทำการถอดถอนหรือแก้ไขการโฆษณาให้ถูกต้องตามกฎหมายภายในระยะเวลาที่กำหนด หากฝ่าฝืนจะเพิกถอนใบอนุญาต สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่กองสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ หมายเลขโทรศัพท์ 0 2193 7000 ต่อ 18408 ,18411
.jpg)
ข่าวเด่น