พาณิชย์ปลื้มผู้ประกอบธุรกิจค้าส่งท้องถิ่นให้ความสนใจสนับสนุนร้านหนูณิชย์ร่วมด้วยช่วยลดค่าครองชีพของประชาชน
กระทรวงพาณิชย์มั่นใจการสนับสนุนจากองค์กร/หน่วยงานต่างๆ อาทิ กรุงเทพมหานคร สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย หอการค้าจังหวัดต่างๆ กรมพัฒนาธุรกิจพลังงาน ธนาคารออมสิน ธนาคารกรุงไทย ภาคเอกชนผู้ประกอบการค้าส่งสมัยใหม่ อาทิ ห้างแม็คโคร โลตัส และบิ๊กซี และผู้ประกอบธุรกิจค้าส่งท้องถิ่นจาก 10 จังหวัด สามารถช่วยลดต้นทุนให้แก่ร้านอาหารปรุงสำเร็จที่เข้าร่วมโครงการร้านหนูณิชย์.. พาชิม ทั่วประเทศ กว่า 1 หมื่นราย และเป็นแรงจูงใจให้มีร้านอาหารสำเร็จรูปสนใจเข้าร่วมโครงการเพิ่มขึ้น
นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า หลังจากโครงการหนูณิชย์ พาชิม ดำเนินการมาเกือบ 2 ปี ปัจจุบัน มีจำนวนร้านอาหารปรุงสำเร็จเข้าร่วมโครงการทั่วประเทศ รวม 11,103 ราย เน้นคุณลักษณะสำคัญ คือ อร่อย ถูก สะอาด และดี จำหน่ายอาหารปรุงสำเร็จในราคาไม่เกิน 25-35 บาท/จาน/ชาม/ถุง มีการปิดป้ายแสดงราคาที่ชัดเจน โดยกระทรวงพาณิชย์ให้การสนับสนุนด้านการประชาสัมพันธ์ผ่านช่องทางต่างๆ ให้ประชาชนรับทราบเป็นวงกว้างและเป็นการเพิ่มยอดจำหน่าย อาทิ เว็บไซต์ของกระทรวงพาณิชย์, www.facebook.com/noonidpashim, www.noonid.dit.go.th, แอพพลิเคชั่นลายแทงของถูก หรือ www.lowpricemap.com
รวมทั้งสนับสนุนวัสดุประชาสัมพันธ์ ได้แก่ ป้ายสัญลักษณ์ ผ้ากันเปื้อนพร้อมหมวก ป้ายไวนิล ถุงพลาสติกหูหิ้ว และบัตรสมาชิกร้านหนูณิชย์ นอกจากนั้น กระทรวงพาณิชย์ยังมีพันธมิตรร่วมให้ การสนับสนุนด้วย ได้แก่ กรุงเทพมหานคร สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย หอการค้าจังหวัดต่างๆ ร่วมคัดเลือกร้านอาหาร กรมพัฒนาธุรกิจพลังงานสนับสนุนร้านอาหารที่เข้าร่วมโครงการให้ได้รับสิทธิประโยชน์ซื้อก๊าซหุงต้ม ในราคาประหยัด ธนาคารออมสินและธนาคารกรุงไทยให้การสนับสนุนสินเชื่อดอกเบี้ยพิเศษเพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนในการประกอบธุรกิจ ภาคเอกชนผู้ประกอบการค้าส่งสมัยใหม่ อาทิ ห้างแม็คโคร โลตัส และบิ๊กซี
และล่าสุด ผู้ประกอบธุรกิจค้าส่งท้องถิ่นจำนวน 12 ราย จาก 10 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ พิษณุโลก แพร่ ลำปาง ขอนแก่น นครพนม สกลนคร ปราจีนบุรี ราชบุรี และระยอง ร่วมให้การสนับสนุนการจำหน่ายวัตถุดิบในราคาพิเศษให้แก่สมาชิกร้านอาหารโครงการหนูณิชย์ ทั้งนี้ ธุรกิจค้าส่งท้องถิ่นเหล่านี้เป็นร้านค้าส่ง/ปลีกต้นแบบที่อยู่ในความดูแลของกระทรวงพาณิชย์ซึ่งได้รับการยกระดับพัฒนามาตรฐานคุณภาพการบริหารจัดการ
“เป็นที่น่ายินดีว่า การเชื่อมโยงร้านอาหารหนูณิชย์และร้านค้าส่งของคนไทยสามารถลดค่าครองชีพของประชาชน สร้างความแข็งแกร่งให้แก่ผู้ประกอบการรายย่อยในท้องถิ่น และส่งเสริมร้านค้าส่งของคนไทยให้มีความยั่งยืนต่อไป ทั้งนี้ โครงการร้านหนูณิชย์..พาชิม จะช่วยลดค่าครองชีพให้แก่ประชาชนในการซื้ออาหารปรุงสำเร็จได้ร้อยละ 10-35 ของค่าใช้จ่ายในการซื้ออาหารต่อวัน หรือประมาณวันละ 9.49 ล้านบาท คิดเป็นมูลค่ากว่า 2,064.19 ล้านบาท” นางอภิรดีกล่าวทิ้งท้าย
ข่าวเด่น