สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือแสตนดาร์ดแอนด์พัวร์(เอสแอนด์พี) ประกาศปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของอังกฤษลง 2 ขั้น สู่ระดับ “AA” จากระดับ “AAA” โดยระบุว่า แนวโน้มอันดับความน่าเชื่อถือของอังกฤษที่อยู่ในเชิงลบ สะท้อนถึงความเสี่ยงต่อแนวโน้มเศรษฐกิจ สถานะการคลัง บทบาทของปอนด์ในฐานะสกุลเงินในทุนสำรอง และความเสี่ยงต่อความเป็นเอกภาพทางเศรษฐกิจและด้านรัฐธรรมนูญของสหราชอาณาจักร หากมีการจัดประชามติในการแยกตัวของสก็อตแลนด์ออกจากสหราชอาณาจักร(Brexit)
ด้าน'ฟิทช์ เรทติ้งส์' สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือระหว่างประเทศ ประกาศปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของอังกฤษลงสู่ระดับ “AA” จากระดับ “AA+” พร้อมเตือนว่า อังกฤษอาจถูกปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือลงไปอีก ผลพวงหลังการลงประชามติแยกตัวจากสหภาพยุโรปในสัปดาห์ที่แล้ว(24มิ.ย.)
นอกจากนี้ ฟิทช์ฯ ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของสหราชอาณาจักรในปีนี้สู่ระดับ 1.6% จากระดับ 1.9% ก่อนหน้านี้ และปรับลดการขยายตัวทั้งในปี 2560 และ 2561 สู่ระดับ 0.9% จาก 2.0%
ก่อนหน้านี้ บริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือ' มูดี้ส์ อินเวสเตอร์เซอร์วิส' ปรับลดอันดับแนวโน้มความน่าเชื่อถือตราสารหนี้ของสหราชอาณาจักร จาก “มีเสถียรภาพ”(Stable)เป็น “เชิงลบ” (Negative) เนื่องจากผลประชามติที่จะสร้างความผันผวนต่อเศรษฐกิจของประเทศ รวมทั้งกระทบต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจในระยะกลาง
ขณะที่โกลด์แมน แซคส์ คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจอังกฤษจะเข้าสู่ภาวะ "ถดถอยเล็กน้อย" ในช่วงต้นปี 2560 เนื่องจากผลกระทบของ Brexit โดยโกลด์แมน แซคส์ ได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในปีนี้ลง 0.1% มาอยู่ที่ระดับ 3.1%
ข่าวเด่น