ตลาดหุ้นไทยวานนี้
SET INDEX วานนี้ฟื้นตัวสวนทางกับภาพรวมในเอเชีย และทะลุผ่าน 1,420 จุดขึ้นไปด้วยแรงผลักดันกลุ่มหลักอย่างกลุ่มธนาคาร / อสังหาฯ / วัสดุก่อสร้าง ปิดตลาด SET INDEX บวกทั้งสิ้น 11.12 จุด มาอยู่ที่ 1,424.31 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 44,786 ล้านบาท
กระแสเงินทุนต่างชาติยังคงชะลอตัว ขายสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 2 เพียง 1,324 ล้านบาท Short สุทธิใน SET50 Index Futures เป็นวันที่ 3 อีก 747 สัญญา และขายสุทธิตลาดตราสารหนี้เป็นวันที่ 2 เพียง 2,000 ล้านบาท
ปัจจัยสำคัญวันนี้
เงินทุนต่างชาติขายสุทธิตลาดเงินตลาดทุนไทยเบาบางต่อเนื่อง
ผลตอบแทนพันธบัตรไทยอายุ 10 ปีลดลงแรงต่อเนื่อง วานนี้ลดลง 7.80bps ปิดที่ 2.028% สะท้อนกลับมายังหุ้นปันผล / กองทุน Property Fund / REIT / IFF เป็นบวกตามไปด้วย แต่กดดันหุ้นประกันชีวิต
ตลาดหุ้นต่างชาติเริ่มทรงตัวดีขึ้น หลังปรับฐานลงตลอด 2 วันทำการที่ผ่านมา
นายกฯ อังกฤษยืนยันไม่มีการลงประชามติรอบที่ 2 ต่อกรณี Brexit หรือ Bremain
S&P ลดอันดับอังกฤษลง 2 ขั้น ส่วน Fitch rating ปรับลด 1 ขั้น
มุมมองต่อตลาดวันนี้: กลาง (วันที่ 24)
เราประเมิน SET INDEX จะกลับมาแกว่งในกรอบแคบระหว่าง 1,415-1,430 จุด ด่าน 1,430 จุดยังไม่น่าผ่านในรอบการฟื้นตัวครั้งนี้ แม้ว่านักลงทุนต่างชาติจะขายสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นไปอย่างจำกัดก็ตาม แต่เม็ดเงินใหม่ที่จะผลักดัน SET INDEX ให้ผ่านด่านดังกล่าวเป็นไปอย่างจำกัด ขณะเดียวกัน SET INDEX จะยังไม่ปรับฐานลงแรง เพราะมี Window Dressing ในสัปดาห์นี้มาช่วยประคองหุ้นหลัก
สำหรับประเด็น Brexit ต่อภาวะการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลก เราเชื่อว่าจะซึมซับไปมากแล้ว ตลาดหุ้นใน DM น่าจะเริ่มทรงตัวถึงฟื้นตัวลักษณะ Technical rebound รวมถึงราคาสินค้าโภคภัณฑ์ อย่างน้ำมันที่มีแนวโน้มฟื้นตัวทดสอบ US$50/barrel สำหรับ NYMEX ช่วยให้ภาวะความตึงเครียดต่อการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงคลายตัว
อย่างไรก็ตาม เราแนะนำนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้จำกัด หรือหาที่พักเงิน หุ้นปันผล / กองทุน Property Fund / REIT / IFF น่าจะเป็นทางเลือก เพราะแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยนโยบายทั่วโลกเปลี่ยนจากทรงตัวถึงปรับขึ้นเป็น ทรงตัวถึงปรับลง จากความไม่แน่นอนกรณี Brexit เป็นปัจจัยบวกต่อกลุ่มดังกล่าว แต่จะเป็นประเด็นลบต่อหุ้นประกันชีวิต
กลยุทธ์การลงทุน เราแนะนำให้นักลงทุนเริ่มทยอยขายทำกำไรบริเวณ 1,430 จุด +/- เพื่อรอจังหวะเข้าเก็งกำไรเมื่อ SET INDEX ย่อตัว
Strategy of the Day
1. สะสม CK : ราคาปิด 27.50 บาท ราคาเหมาะสม 34.00 บาท
a) MBKET คงมุมมองเชิงบวกต่อหุ้นกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง เนื่องจากเป็นกลุ่ม Domestic Play จึงได้รับผลกระทบจำกัดจากกรณี BREXIT
b) มีปัจจัยบวกรออยู่ในเดือน ก.ค. คือ การขายซองประมูลรถไฟฟ้าสายสีส้ม จำนวน 6 สัญญา มูลค่า 7.6 หมื่นล้านบาท โดยคาดว่า CK จะเป็น 1 ในตัวเต็งที่ได้งานอย่างน้อย 1 สัญญา เนื่องจากเป็นบริษัทรับเหมาขนาดใหญ่และมีความเชี่ยวชาญงานรถไฟฟ้า
c) ราคาหุ้น Laggard โดย YTD ยังลดลง -5.2% เทียบกับ SET INDEX +10.5% และเชื่อว่าราคาหุ้นควรจะขยับขึ้นตามบริษัทลูกที่ Outperform ไปก่อนหน้า ได้แก่ CKP +48%, BEM +31% ส่งผลให้ NAV จากการถือหุ้นใน CKP, BEM, TTW คิดเป็นมูลค่า 27.00 บาทต่อหุ้น CK
2. สะสม PS : ราคาปิด 24.90 บาท ราคาเหมาะสม 35.00 บาท
a) MBKET คาดว่าหุ้นกลุ่ม Property ที่ Valuation ถูก และให้ผลตอบแทนจากเงินปันผลสูง จะ Outperform ตลาดได้ เนื่องจากเปรียบเสมือน Safe Haven ที่ไม่ได้รับผลกระทบจากกรณี BREXIT
b) Presales เดือน พ.ค.เพิ่มขึ้น +8% mom เป็น 4,151 ล้านบาท และ 5M59 เท่ากับ 17,822 คิดเป็นเป้าหมาย 35% ของบริษัทที่ 51,000 ล้านบาท โดยจะมีการเปิดโครงการใหม่ใน 2H59 เพิ่มขึ้นในทิศทางเดียวกับภาพเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว
c) ยัง Laggard โดย 1 เดือนที่ผ่านมากลุ่ม Property +5.1% เทียบกับ SET INDEX +1.6% ขณะที่ PS -1.4% สวนทางหุ้นในกลุ่ม เช่น AP+22.7%, QH +12.6%, SIRI +11.8% และ SPALI +12.9% เนื่องจาก PS จะทำการ Delist หุ้นออกจากตลาด และแลกหุ้นบริษัท Holding เข้าจดทะเบียนแทน ในช่วง คาดว่าจะเกิดขึ้นในเดือน พ.ย. จึงเป็นโอกาสสะสม เนื่องจาก PER2559 ต่ำเพียง 7.3 เท่า และให้ Dividend Yield สูงถึง 6.8%
Fund Flow Analysis
Fund Flow in Emerging Markets
ขายสุทธิเป็นวันที่ 2 อีก US$105 ล้าน จากวันก่อนหน้าขายสุทธิ US$507 ล้าน
Foreign Investors Action วานนี้
ต่างชาติขายสุทธิทั้ง 3 ตลาดพร้อมกันเป็นวันที่ 2
นักลงทุนต่างชาติ คงการขายสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 2 อีก 1,324 ล้านบาท รวม 2 วันทำการขายสุทธิ 2,108 ล้านบาท นับเป็นวันที่ 2 หลังผลประชามติ Brexit เกิดขึ้น กดให้ YTD ต่างชาติซื้อสุทธิลดลงเป็น 28,009 ล้านบาท
ด้าน SET50 Index Futures นักลงทุนกลุ่มนี้คงการ Short สุทธิเป็นวันที่ 3 อีกเล็กน้อย 747 สัญญา รวม 3 วันทำการ Short สุทธิ 13,920 สัญญา คาดว่าเป็นการปิดสถานะ Long ที่เปิดไว้ กดดันให้ S50U16 ปิดต่ำกว่า SET50 Index เท่ากับ 9.84 จุด จากวันก่อนหน้า Discount เท่ากับ 9.73 จุด กดให้ยอดสุทธิ QTD สถานะคงการ Long สุทธิเหลือ 10,705 สัญญา
ส่วนนักลงทุนกลุ่มนี้คงการขายสุทธิตลาดตราสารหนี้เป็นวันที่ 2 อีกเล็กน้อย 2,000 ล้านบาท รวม 2 วันทำการขายสุทธิ 3,661 ล้านบาท ขณะที่ราคาพันธบัตรไทยดีดตัวขึ้นแรงต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 ผ่านพันธบัตรไทย อายุ 10 ปี ผลตอบแทนลดลงมากถึง 7.80bps จากวันก่อนหน้าลดลง 6.47bps ปิดที่ 2.028%
Short-Selling วานนี้
ลดลงเป็น 1,177 ล้านบาท จากวันก่อนหน้า 1,945 ล้านบาท
NVDR Movement
NVDR กลับมาขายสุทธิเป็นวันแรกในรอบ 3 วันทำการ เน้นกลุ่ม Global Play
การซื้อขายผ่าน NVDR กลับมาขายสุทธิ 124 ล้านบาท จาก 2 วันทำการก่อนหน้าซื้อสุทธิ 2,440 ล้านบาท โดยเป็นการลดน้ำหนักกลุ่มพลังงาน / ปิโตรเคมีเป็นหลัก และกลับมาเน้น
Domestic Play อย่างกลุ่มวัสดุก่อสร้าง และกลุ่มธนาคาร
ประเด็นสำคัญด้านเศรษฐกิจ – การเงินรายภูมิภาค
สหรัฐอเมริกา
ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ออกมาต่ำกว่าคาด
ดุลการค้าเดือนพ.ค.ขาดดุล US$6.06 หมื่นล้าน แย่กว่า Bloomberg consensus คาดขาดดุล US$5.50 หมื่นล้าน และเดือนก่อนหน้าขาดดุล US$5.93 หมื่นล้าน โดยการส่งออก ลดลง 0.2% mom จากการส่งออกยานยนต์และสินค้าทุนที่ลดลง ขณะที่การนำเข้าเพิ่มขึ้นถึง 1.6% mom จากสินค้าอุปโภคบริโภค
ยุโรป
อัพเดทสถานการณ์ หลังผลประชามติของอังกฤษออกมาเป็น Brexit
รมว.คลัง อังกฤษ ส่งสัญญาณมีแผนสำรองสำหรับความผันผวนในตลาดเงิน รวมถึงความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจอังกฤษ เพื่อให้ตลาดเกิดความมั่นใจ หลังหารือกับ BoE ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา พร้อมยืนยันว่าแผนรับมือนั้นจะมีประสิทธิภาพ ตลาดอย่าเพิ่งประเมินแผนสำรองของทางอังกฤษต่ำไป
หัวหน้าพรรคฝ่ายค้านจากพรรคแรงงาน นาย Jeremy Corbyn เตรียมถูกเสนอชื่อโหวตรับรองตำแหน่ง หลังผลประชามติออกมาเป็น Brexit
อิตาลี เตรียมพิจารณาใส่เงินทุนเข้าไปในธนาคารพาณิชย์บางแห่ง หลังผลการลงประชามติของอังกฤษออกมาเป็น Brexit ส่งผลให้นักลงทุนเริ่มไม่มั่นใจต่อการบริหารจัดการหนี้เสียในระบบการเงินของอิตาลี โดยรัฐบาลเตรียมเงินไว้สูงถึง 4.0 หมื่นล้านยูโร อาจเป็นการใส่เงินเพิ่มทุน หรือ เป็นการค้ำประกันให้แก่นักลงทุน ทั้งนี้อยู่ระหว่างการหารือรูปแบบ
Moody’s ปรับลดแนวโน้มอังกฤษลงมาเป็น “ลบ” จากเดิม “คงที่” หลังผลการลงประชามติออกมาเป็น Brexit สร้างความกระทบที่สำคัญต่อทั้งอังกฤษ และยุโรป ทั้งในแง่ของการเติบโตทางเศรษฐกิจ, หนี้เสีย และผลกระทบเชิงลบต่อภาคเอกชน
นายกฯ Cameron ปฎิเสธที่จะมีการทำประชามติรอบที่ 2 โดยยืนยันว่าอังกฤษ จะดำเนินการออกจากอียู และอังกฤษจะไม่กลับผลดังกล่าว
การหารือระหว่างผู้นำเยอรมัน ฝรั่งเศส และอิตาลี ต่อการพิจารณาขั้นตอนที่อังกฤษจะออกจากอียู เพื่อให้ทุกอย่างเดินหน้าและมีความเสี่ยงต่อตลาดเงินและตลาดทุนที่จำกัด เพราะความไม่แน่นอนทางการเมืองและตลาดเงินสามารถเกิดขึ้นได้อย่างไร้เหตุผล โดยในการหารือมีการพูดถึงการใช้นโยบายการคลังไปในทิศทางเดียวกันในกลุ่มสมาชิกอียู 27 ประเทศ ซึ่งจะพร้อมในเดือนก.ย.นี้
S&P ลดอันดับความน่าเชื่อถืออังกฤษ 2 ขั้น เป็น AA จาก AAA หลังผลประชามติออกมาเป็น Brexit ส่วน Fitch ลดอันดับความน่าเชื่อลง 1 ขั้น เป็น AA เท่ากับ S&P พร้อมให้แนวโน้มเป็น “ลบ” ทั้ง 2 บริษัท สร้างความเสี่ยงต่อ Scotland และ ไอร์แลนด์เหนือ อาจเสนอให้มีการทำประชามติคงอยู่กับอียู กลายเป็นสิ่งที่สร้างผลกระทบต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจของอังกฤษ
สเปนยืนยันจะมีการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ภายใน 1 เดือน: นายกฯ รักษาการของสเปน นาย Mariano Rajoy กล่าวว่า การจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่จะเสร็จสิ้นภายในเดือนก.ค. หลังผลการเลือกตั้งทั่วไปในวันที่ 26 มิ.ย.ที่ผ่านมา พรรคของนาย Rajoy ได้ครองเสียงข้างมากในสภาฯ ด้วย 137 จาก 350 ที่นั่ง เพิ่มขึ้นจากครั้งก่อนที่ 123 ที่นั่ง
จีน
จีนเตรียมพร้อมรับมือกับความผันผวนในตลาดโลก: ผู้นำจีน Li Keqiang ยืนยันจีนจะสามารถรักษาระดับการเติบโตทางเศรษฐกิจในระดับปานกลางถึงสูงได้ และนโยบายการคลังก็มีช่องทางในการกระตุ้นเศรษฐกิจเช่นกัน ภายใต้ตลาดเงินทั่วโลกที่มีความผันผวน ทั้งนี้จีนคาดหวังว่าอียู จะสามารถกลับมามีเสถียรภาพได้ รวมถึงอังกฤษ เพราะไม่มีประเทศใดที่จะสามารถเดินออกจากเศรษฐกิจโลกเพื่อพัฒนาเพียงประเทศเดียว
เอเชียแปซิฟิก
ไม่มี
ไทย
ไม่มี
โดย บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด ประจำวันที่ 28 มิ.ย. 2559
ข่าวเด่น