กระทรวงการต่างประเทศ แจ้งถึง ผลการเลือกตั้งสมาชิกไม่ถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ วาระปี ค.ศ. 2017-2018 ว่า ไทยขอแสดงความยินดีกับคาซัคสถานที่ได้รับเลือกตั้งให้ปฏิบัติหน้าที่ในคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ และขอขอบคุณมิตรประเทศที่ให้การสนับสนุนไทยในการเลือกตั้งครั้งนี้ ผลการเลือกตั้งที่ต้องลงคะแนนเสียงกันสองรอบแสดงให้เห็นว่า ทั้งไทยและคาซัคสถานต่างเป็นผู้สมัครที่มีคุณสมบัติที่ได้รับการยอมรับและต่างก็ได้แข่งขันในการรณรงค์หาเสียงสนับสนุนกันอย่างฉันมิตรมาโดยตลอด
การรณรงค์หาเสียงที่ผ่านมาของประเทศไทยมิได้มุ่งประโยชน์เพียงเพื่อให้ชนะเลือกตั้งเพียงประการเดียว แต่การรณรงค์ที่ผ่านมาเป็นโอกาสที่ไทยได้สร้างมิตรและสานต่อความร่วมมือในระยะยาวกับมิตรประเทศต่าง ๆ ทั่วทุกภูมิภาคของโลก โดยเฉพาะการเสริมสร้างความร่วมมือด้านการพัฒนา อาทิ การให้แบ่งปันประสบการณ์ด้านการพัฒนาที่ยั่งยืนผ่านโครงการฝึกอบรม ดูงาน และการให้ความช่วยเหลือทางด้านวิชาการในสาขาที่ไทยเชี่ยวชาญ ซึ่งแม้จะมิได้ลงสมัครเลือกตั้งคณะมนตรีความมั่นคงฯ ไทยก็ดำเนินโครงการให้ความช่วยเหลือเหล่านี้มาอย่างต่อเนื่อง ในฐานะที่ไทยได้ก้าวพ้นจากสถานะจากการเป็นประเทศผู้รับความช่วยเหลือในอดีตมาเป็นประเทศผู้ให้ความช่วยเหลือด้านการพัฒนาแก่ประเทศที่ต้องการรับความช่วยเหลือทั้งในและนอกภูมิภาค
ประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการเยือนและการจัดกิจกรรมต่าง ๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับการรณรงค์ที่ผ่านมาล้วนแต่เป็นการยกระดับบทบาทของไทยในฐานะสมาชิกสหประชาชาติ สร้างเสริมและกระชับความสัมพันธ์กับมิตรประเทศทั้งเก่าและใหม่ จึงนับว่าไทยได้รับประโยชน์มากมายจากการสร้างมิตรผ่านดำเนินการที่ผ่านมา
แม้ไทยได้ทำการรณรงค์ขอรับการสนับสนุนจากมิตรประเทศอย่างเต็มที่โดยตลอด แต่ผลการเลือกตั้งขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย อาทิ การแลกเสียงการสมัครในองค์กรระหว่างประเทศกับประเทศต่าง ๆ นอกจากนี้ หลายประเทศให้โอกาสแก่คาซัคสถานเนื่องจากยังไม่เคยปฏิบัติหน้าที่ในคณะมนตรีความมั่นคงฯ มาก่อน
การที่ไทยไม่ได้รับเลือกตั้งในครั้งนี้ ไม่ได้ปิดกั้นโอกาสที่ไทยจะปฏิบัติหน้าที่อย่างแข็งขันในฐานะสมาชิกของสหประชาชาติ ให้ความสำคัญและสนับสนุนการปฏิบัติหน้าที่ของคณะมนตรีความมั่นคงฯ ต่อไป ไทยจะยังมุ่งมั่นผลักดันประเด็นระหว่างประเทศต่าง ๆ ที่ไทยให้ความสำคัญ ทั้งในด้านสันติภาพ ความมั่นคง และการพัฒนาที่ยั่งยืน และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง การปฏิบัติหน้าที่ประธานกลุ่ม 77และจีน
ประเทศไทยได้ประกาศที่จะลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกไม่ถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงฯ ในครั้งนี้มาตั้งแต่ปี 2550 ซึ่งเป็นการแสดงความพร้อมและตั้งใจแน่วแน่ของไทยในการเข้ามาทำหน้าที่ในองค์กรหลักสำคัญยิ่งของประชาคมระหว่างประเทศแห่งนี้ ทั้งนี้ ไทยเป็นสมาชิกสหประชาชาติมากว่า70 ปี และได้เข้าร่วมปฏิบัติการและภารกิจเพื่อสันติภาพในกรอบสหประชาชาติตั้งแต่ปี 2501 จนถึงปัจจุบัน
ไทยเคยได้รับการเลือกตั้งให้เป็นสมาชิกไม่ถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงฯ มาครั้งหนึ่งเมื่อ 30 กว่าปีที่แล้ว (ระหว่างปี 2528-2528) และได้ปฏิบัติหน้าที่อย่างแข็งขัน
อนึ่ง สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ที่ประชุมสมัชชาสหประชาชาติ ณ ที่ทำการใหญ่ของสหประชาชาติ ในนครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ได้ลงคะแนนเสียงเลือกตั้งผู้ดำรงตำแหน่งสมาชิกไม่ถาวรของสหประชาชาติ (ยูเอ็นเอสซี) แทนตำแหน่งที่ครบวาระรวม 5 ตำแหน่ง จาก 4 ภูมิภาค ประกอบด้วยภูมิภาคแอฟริกา ภูมิภาคละตินอเมริกาและแคริบเบียน ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก อย่างละ 1 ที่นั่ง และภูมิภาคยุโรปตะวันตก 2 ที่นั่ง ซึ่งไทยลงสมัครเลือกตั้งด้วยในส่วนของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก โดยมีคู่แข่งลงสมัครในภูมิภาคเดียวกันคือ คาซัคสถาน
ที่ประชุมเปิดให้มีการลงคะแนนเวลาราว 10.20 น. วันที่ 28 มิถุนายน ตามเวลาของสหรัฐ หรือประมาณ 21.20 น. ตามเวลาในไทย หลังประธานในที่ประชุมอ่านกฎระเบียบของการลงคะแนนแล้ว ได้แจกบัตรเพื่อให้ชาติสมาชิกเขียนชื่อประเทศที่เลือกในแต่ละภูมิภาค จากนั้นปิดประชุมเป็นเวลา 45 นาที เพื่อนับคะแนน ซึ่งตามระเบียบของยูเอ็นประเทศที่ได้รับเลือกต้องได้คะแนนเสียง 2 ใน 3 ของชาติสมาชิก คือ 129 เสียง ไม่เช่นนั้นก็จะต้องเปิดให้ลงคะแนนใหม่จนกว่าจะมีผู้ได้รับเสียงสนับสนุนตามที่กำหนด
ทั้งนี้ ผลการนับคะแนนอย่างเป็นทางการในรอบแรก มีผู้ได้รับเสียงเกิน 2 ใน 3 รวม 3 ประเทศ คือ เอธิโอเปีย ในฐานะตัวแทนภูมิภาคแอฟริกา โบลิเวีย ภูมิภาคละตินอเมริกาและแคริเบียน และสวีเดนจากภูมิภาคยุโรปตะวันตก ส่วน ไทยและคาซัคสถานที่ชิงเก้าอี้ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ยังไม่มีผู้ได้คะแนนถึง 2 ใน 3 โดยคาซัคสถานได้ 113 คะแนน ไทยได้ 77 คะแนน ต้องเลือกในรอบ 2 พร้อมกับเนเธอร์แลนด์และอิตาลีที่ยังต้องชิงที่นั่งของภูมิภาคยุโรปตะวันตกอีก 1 เก้าอี้
ผลการนับคะแนนครั้งที่ 2 ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก คาซัคสถานได้รับเลือกด้วยคะแนน 138 เสียง ไทยได้ 55 เสียง ทำให้คาซัคสถานได้เป็นสมาชิกไม่ถาวรของยูเอ็นเอสซีเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่แยกตัวออกจากสหภาพโซเวียตเมื่อปี 2534 ส่วนที่นั่งภูมิภาคยุโรปตะวันตกทั้งสองประเทศยังคะแนนสูสีต้องลงคะแนนกันในรอบ 3
คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ประกอบด้วยสมาชิกถาวร5ประเทศคือ จีน ฝรั่งเศส รัสเซีย อังกฤษ สหรัฐ และชาติสมาชิกไม่ถาวรอีก 10ประเทศ ซึ่งมีวาระการดำรงตำแหน่ง2ปี โดยจะเลือกใหม่ปีละ 5 ประเทศ และเริ่มวาระวันที่ 1 ม.ค.
ข่าวเด่น