ข่าว เบรกกิ้งนิวส์
ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินBrexit ฉุดจีดีพีไทย 0.07%


 
นายประสพสุข ดำรงชิตานนท์ ประธานกรรมการบริหาร และดร.เชาว์ เก่งชน กรรมการผู้จัดการ พร้อมคณะผู้บริหาร บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด แถลง แนวโน้มเศรษฐกิจและธุรกิจครึ่งหลัง ปี 2559 และผลกระทบจาก BREXIT ณ ธนาคารกสิกรไทย อาคารพหลโยธิน เมื่อ 29 มิ.ย.
 
 
 

นายเชาวน์ เก่งชน กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด กล่าวว่า ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคงประมาณการเศรษฐกิจไทย(จีดีพี) ปีนี้ที่ 3% โดยยังรอดูความชัดเจนผลกระทบจากการที่อังกฤษจะถอนตัวจากสหภาพยุโรป (Brexit)   และมาตรการเศรษฐกิจของทางการ ก่อนประเมินสถานการณ์อีกครั้งในช่วงเดือนต.ค. ที่ทางอังกฤษจะมีการเลือกตั้งนายกรัฐมนตรีคนใหม่ มองว่าBrexit มีผลกระทบในกรณีพื้นฐาน (Base Case) เบื้องต้นคาดว่าผลกระทบจะมาจากการอ่อนค่าของค่าเงินปอนด์ และการชะลอตัวของเศรษฐกิจอังกฤษเป็นหลัก ทำให้ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทย 0.07% หรือประมาณ 10,000 ล้านบาท ส่วนปี 2560 จะกระทบเศรษฐกิจไทย 0.2% แต่กรณีที่ผลกระทบไม่รุนแรง Brexit อาจกระทบต่อเศรษฐกิจไทยปีนี้ประมาณ 0.04% แต่หากกรณีเลวร้าย ที่ส่งผลกระทบลามไปถึงเศรษฐกิจอื่นๆ ในประเทศสมาชิกอียูด้วย อาจฉุดเศรษฐกิจไทยปีนี้ลดลงถึง 0.2% และ 0.75% ในปี 60
 

หลังจากนี้คงต้องดูความเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจว่าจะเป็นอย่างไร แต่การที่ Brexit อาจส่งผลกระทบในบริเวณที่จำกัดอยู่ และคงไม่ส่งผลต่อ GDP รวมถึงการท่องเที่ยวมากนัก มุมมองในเรื่องของเศรษฐกิจช่วงปีหน้าสำคัญ อาจทำให้เศรษฐกิจติดลบบ้าง จึงจำเป็นที่จะต้องศึกษาการเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจ และพยายามมองหาตลาดใหม่เพื่อที่จะไว้รองรับการเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจโลก
      
ผลกระทบจาก Brexit นอกจากจะกระทบต่อตลาดการเงินแล้ว ผลต่อภาคเศรษฐกิจจะเกิดขึ้นคือ การส่งออก การท่องเที่ยว และการลงทุน ซึ่งปีนี้ศูนย์วิจัยกสิกรไทยได้ปรับลดประมาณการส่งออกลงเป็นติดลบ 2% จากเดิมเคยประมาณการไว้ในเดือนเม.ย. ที่ 0% หลังจากตัวเลขส่งออกของไทยในเดือนเม.ย. ล่าสุดออกมาต่ำกว่าคาด และผลกระทบจากวิกฤติ Brexit ที่ส่งผลต่อประเทศคู่ค้า

ทั้งนี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทยยังคงเป้าหมายจีดีพีปีนี้ สามารถขยายตัวได้ตามที่ประมาณการไว้โต 3% เนื่องจากการลงทุนในโครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐจะยังเป็นแรงหนุนที่สำคัญทำให้เศรษฐกิจไทยจะสามารถขยายตัวต่อไปได้ แม้ว่าจะมีปัจจัยกดดันจากภายนอกเข้ามาเกี่ยวข้องมาก โดยประเมินจีดีพีไทยในครึ่งปีหลังจะขยายตัวได้ 2.9%
 

นางพิมลวรรณ มหัจฉริยวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัทศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด กล่าวว่า   การส่งออกของไทยในครึ่งปีหลังคาดว่าจะติดลบในอัตราที่ใกล้เคียงกับครึ่งปีแรกที่ 2.1% ซึ่งประเมินตัวเลขการส่งออกในไตรมาส 3/59 และไตรมาส 4/59 จะอยู่ที่เฉลี่ยติดลบ 2% ต่อไตรมาส โดยเป็นผลมาจากภาพรวมของเศรษฐกิจโลกยังไม่เห็นสัญญาณการฟื้นตัว อีกทั้งยังมีประเด็น Brexit เข้ามากดดันเพิ่ม ส่งผลให้การส่งออกไทยเผชิญกับปัจจัยกดดันด้านเศรษฐกิจโลกอยู่สูง อย่างไรก็ตามตัวเลขการส่งออกของไทยไนไตรมาส 3/59 คาดว่าจะมีทิศทางที่ดีขึ้นจากไตรมาส 2/59 ที่ประเมินว่าจะติดลบถึง 7% เนื่องราคาสินค้าโภคภัณฑ์บางประเภท อย่างเช่น ราคาน้ำมันเริ่มปรับตัวเพิ่มขึ้นช่วยหนุน

ผลกระทบจากกรณีของ BREXIT  ทำให้ศูนย์วิจัยกสิกรไทยมีมุมมองที่น่าเป็นห่วงต่อเศรษฐกิจไทยในครึ่งปีหลังปีนี้มากขึ้น  เนื่องจากจะมีผลกระทบการส่งออกจะติดลบมากขึ้น รวมถึงการท่องเที่ยวจากเงินปอนด์ที่อ่อนค่าลง ทำให้เศรษฐกิจครึ่งปีหลังคงจะเติบโตได้ไม่มากเท่าครึ่งปีแรก โดยประเมินครึ่งปีแรกที่ 3.2%  ครึ่งปีหลังที่ 2.9% แต่ยังคงประมาณการจีดีพีเติบโตทั้งปีที่ 3% เนื่องจากคาดการณ์ว่าเงินลงทุนของภาครัฐที่เริ่มทยอยออกมา แต่หากเกิดความล่าช้า หรือผลของ BREIXT ลุกลามจนกระทบเสถียรภาพของกลุ่มอียูก็อาจจะมีการทบทวนอีกครั้ง
 

นางสาวธัญญลักษณ์ วัชระชัยสุรพล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด เปิดเผยถึง การเคลื่อนไหวของเงินบาทผันผวนขึ้นผลจากความชัดเจนเกี่ยวกับ Brexit  อัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ และเศรษฐกิจจีน
  
ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด กล่าวถึง ผลประกอบการไตรมาส 2/59 ของกลุ่มธนาคารพาณิชย์ทั้งระบบว่าจะลดลงจากไตรมาส 1/59 เนื่องจากหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้( NPL )ที่เพิ่มมากขึ้นส่งผลให้เกิดการตั้งสำรองที่เพิ่มมากขึ้น แม้ว่าที่ผ่านมาธนาคารพาณิชย์จะมีการตั้งสำรองที่สูงในช่วงที่ธนาคารมีผลประกอบการที่ดี โดยปัจจุบันธนาคารพาณิชย์มีเงินกองทุนที่แข็งแกร่งเมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้าน โดยสภาพคล่องของระบบธนาคารพาณิชย์ไทยยังอยู่สูงกว่าเกณฑ์ของทางการ  ทำให้มั่นใจว่าจะสามารถรับมือกับความผันผวนของเงินทุนในรอบนี้ได้ แต่ในอีกด้านหนึ่ง การประคองดอกเบี้ยนโยบายในระดับต่ำ ทำให้ต้องเฝ้าระวังประเด็นเชิงเสถียรภาพ เช่น ความผันผวนของเงินทุนเคลื่อนย้าย พฤติกรรม Search for Yield และหนี้ครัวเรือนที่คงค้างในระดับสูง
 
 

นางสาวเกวลิน หวังพิชญสุข ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด กล่าวถึงแนวโน้มธุรกิจครึ่งปีหลังว่า ด้านการท่องเที่ยวยังคาดว่า BREXIT ไม่ส่งผลกระทบมากนัก แต่ค่าเงินที่อ่อนตัว อาจจะทำให้นักท่องเที่ยวระมัดระวังการใช้จ่ายมากขึ้น ในทางตรงกันข้ามคนไทยอาจไปเที่ยว UK และ EU มากยิ่งขึ้น ด้านการส่งออกรถยนต์ Brexit กระทบการส่งออกรถยนต์ไป UK ให้มีแนวโน้มลดลงในช่วงครึ่งปีที่เหลือ ส่วน EU อาจประคองการขยายตัวได้ และด้านการส่งออกสินค้าเกษตร ความเสี่ยงของเศรษฐกิจโลกทำให้ราคาน้ำมันและสินค้าโภคภัณฑ์ส่งผลไปยังมูลค่าการส่งออกสินค้าเกษตรของไทยในช่วงที่เหลือของปี อาจได้รับแรงหนุนด้านราคาน้อยกว่าที่คาดไว้
 
 

แนวโน้มเศรษฐกิจในครึ่งปีหลัง และทั้งปี 2559 ธุรกิจก่อสร้าง สุขภาพ ค้าปลีก คาดว่าจะขยายตัวได้ดี ภาวะอุปสงค์ของคู่ค้าหลัก โดยเฉาะจีน จะยังคงกดดันการส่งออกยางพาราและมันสำปะหลังของไทยอย่างต่อเนื่อง
 
 
 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 29 มิ.ย. 2559 เวลา : 18:50:42

22-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 22, 2024, 2:17 am