กรมการขนส่งทางบกร่วมกับกองพลที่ 1 รักษาพระองค์ กองบัญชาการตำรวจนครบาล และสำนักเทศกิจ กรุงเทพมหานคร เปิดรับลงทะเบียนรถจักรยานยนต์สาธารณะรอบสอง เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้างในวินเดิมที่ยังไม่มีป้ายเหลือง ทั้งกรณีขอจัดตั้งวินใหม่ เข้าสู่ระบบขนส่งสาธารณะอย่างถูกต้อง ยื่นใบสมัคร ณ สำนักงานเขตกรุงเทพมหานคร ที่วินตั้งอยู่ ระหว่างวันที่ 1-15 กรกฎาคม 2559
วันนี้ (30 มิถุนายน 2559) เวลา 14.00 น. ณ ห้องประชุม 1 กรมการขนส่งทางบก กองพลที่ 1 รักษาพระองค์ (พล. 1 รอ.) ร่วมกับ กรมการขนส่งทางบก กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บชน.) และสำนักเทศกิจกรุงเทพมหานครเปิดเผยถึงแนวทางการเปิดรับจดทะเบียนรถจักรยานยนต์สาธารณะ ครั้งที่ 2 หลังจากได้ดำเนินการจัดระเบียบรถจักรยานยนต์สาธารณะในเขตกรุงเทพมหานครตามนโยบายคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) รอบแรกไปแล้วเมื่อเดือนกรกฎาคม 2557 โดยได้กำหนดให้ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้างจะต้องนำรถจักรยานยนต์มาจดทะเบียนเป็นรถจักรยานยนต์สาธารณะ (ป้ายเหลือง) ให้ถูกต้องตามกฎหมาย ห้ามนำรถจักรยานยนต์ส่วนบุคคล (ป้ายดำ) มารับจ้างขนส่งผู้โดยสาร และกำหนดสถานที่จอดรอผู้โดยสาร (การจัดตั้งวิน) ให้มีความเป็นระเบียบ
ทั้งยังได้กำหนดให้ใช้รูปแบบเสื้อวินตามที่คณะกรรมการกำหนด ซึ่งแสดงชื่อวิน บัตรประจำตัว และหมายเลขประจำตัวที่ถูกต้องตรงกัน ทำให้ปัจจุบันมีวินรถจักรยานยนต์สาธารณะที่ได้รับอนุญาตแล้ว จำนวน 5,477 วิน มีรถจักรยานยนต์สาธารณะจดทะเบียนถูกต้อง จำนวน 91,330 คัน แต่จากการขยายตัวของเมืองและรองรับการเดินทางของประชาชนให้มีความครอบคลุมทั่วทุกพื้นที่ ประกอบกับยังมีผู้ประสงค์ประกอบอาชีพขับรถจักรยานยนต์รับจ้างอย่างถูกต้องตามกฎหมายแต่ไม่สามารถดำเนินการจดทะเบียนอย่างถูกต้องได้ทันในรอบแรก รวมถึงช่วงที่ผ่านมาพบการฝ่าฝืนนำรถจักรยานยนต์ป้ายดำให้บริการประชาชนอย่างผิดกฎหมาย ส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยในการเดินทาง กรมการขนส่งทางบกจึงเปิดให้มีการรับลงทะเบียนจดทะเบียนรถจักรยานยนต์รับจ้างเพิ่มเติมเพื่อดำเนินการให้อยู่ในระบบถูกต้องตามกฎหมาย
นายสนิท พรหมวงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า สำหรับการดำเนินการจดทะเบียนเพิ่มเติมรอบสองนี้ กำหนดให้ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้างในวินเดิม ที่ยังไม่ได้จดทะเบียนให้ถูกต้องตามกฎหมาย (ที่ยังไม่มีป้ายเหลือง) ยื่นความประสงค์เพื่อขอจดทะเบียนเป็นรถจักรยานยนต์สาธารณะ และเปิดให้สามารถยื่นความประสงค์เพื่อขอจัดตั้งวินใหม่ โดยทั้งสองประเภทจะรับลงทะเบียนระหว่างวันที่ 1-15 กรกฎาคม 2559 ณ สำนักงานเขตกรุงเทพมหานคร ที่วินตั้งอยู่ สำหรับในส่วนของผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้างบางรายที่มีรายชื่อในบัญชีเดิมจากการลงทะเบียนรอบแรก แต่ยังไม่ได้ดำเนินการจดทะเบียนเป็นรถจักรยานยนต์สาธารณะ ต้องยื่นความประสงค์ใหม่ทั้งหมด ภายในกำหนดระยะเวลาเดียวกัน โดยจะประกาศผู้มีสิทธิ์ภายในวันที่ 30 กันยายน 2559 และต้องดำเนินการจดทะเบียนเป็นรถสาธารณะให้เสร็จสิ้นภายใน 120 วัน นับจากวันที่ได้รับหนังสือรับรอง โดยต้องไม่เกินวันที่ 31 มกราคม 2560 คาดว่าจะมีผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้างเข้าสู่ระบบอย่างถูกต้องตามกฎหมายประมาณกว่า 40,000 ราย เพื่อให้บริการประชาชนได้อย่างครอบคลุมภายใต้การกำกับดูแลจากภาครัฐอย่างเข้มงวด โดยจะมีการกวดขันอย่างต่อเนื่องเพื่อให้รักษาคุณภาพการให้บริการอย่างปลอดภัย
อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับหลักฐานที่ใช้ในกรณีผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ขอจัดตั้ง วินใหม่ ได้แก่ แผนผังแสดงที่ตั้งวินและแผนผังการจอดรถพร้อมรูปถ่าย หนังสือให้ความยินยอมให้ใช้พื้นที่ในกรณีเป็นพื้นที่ส่วนบุคคล รายชื่อผู้ขับรถในวิน สำเนาใบอนุญาตขับรถจักรยานยนต์สาธารณะหรือใบอนุญาตขับรถจักรยานยนต์ส่วนบุคคลที่ยังไม่สิ้นอายุ สำเนาใบคู่มือจดทะเบียนรถ ในกรณีที่รถนั้นจดทะเบียนแล้ว หรือหลักฐานการได้มาของรถ เช่น ใบเสร็จรับเงิน ใบกำกับภาษี สัญญาซื้อขาย สัญญาเช่าซื้อ หนังสือรับรอง การเช่าซื้อ เป็นต้น โดยผู้ขอจะต้องมีอายุ 20 ปีบริบูรณ์ ส่วนกรณีการเพิ่มผู้ขับขี่ในวินเดิมใช้สำเนาใบอนุญาตขับรถจักรยานยนต์สาธารณะหรือใบอนุญาตขับรถจักรยานยนต์ส่วนบุคคลที่ยังไม่สิ้นอายุ สำเนาใบคู่มือจดทะเบียนรถ หรือหลักฐานการได้มาของรถ และหลักฐานที่แสดงว่าขับรถอยู่ในวินนั้นจริง เช่น ภาพถ่ายขณะรับจ้าง
ทั้งนี้ กรมการขนส่งทางบกเชิญชวนประชาชนเลือกใช้บริการรถจักรยานยนต์สาธารณะที่ถูกต้องตามกฎหมายเพื่อความปลอดภัยในการใช้บริการและได้รับการคุ้มครองสิทธิประโยชน์ตามกฎหมาย มีความเป็นธรรมด้านค่าโดยสาร โดยต้องมีการเรียกเก็บอัตราค่าโดยสารตามที่ทางราชการกำหนด โดยรถจักรยานยนต์สาธารณะที่ถูกต้องตามกฎหมายจะสังเกตได้จากแผ่นป้ายทะเบียนรถซึ่งต้องเป็นสีเหลือง และผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ต้องสวมเสื้อวินรูปแบบตามที่คณะกรรมการกำหนด มีบัตรติดเสื้อ โดยข้อมูลตัวคน บัตร และรถ ต้องถูกต้องตรงกัน หากพบเห็นการนำรถจักรยานยนต์ส่วนบุคคลมารับจ้าง การเรียกเก็บค่าโดยสารเกิน หรือพบเห็นการกระทำความผิดอื่นๆ สามารถแจ้งเบาะแสได้ที่ศูนย์คุ้มครองผู้โดยสารและรับเรื่องเรียน สายด่วน 1584 ตลอด 24 ชั่วโมง อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวในที่สุด
ข่าวเด่น