ข่าว เบรกกิ้งนิวส์
แนวโน้มราคาทอง (4ก.ค.59) โดย YLG Bullion International


 


สรุปสภาวะตลาดทองคำแท่งและโกลด์ฟิวเจอร์ส วันที่ 30 มิถุนายน 2559 โดย YLG
 
สภาวะตลาดวันที่ 30 มิถุนายน 2559 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,313.53-1,318.00 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 21,950 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาปรับตัวลดลง 50 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 22,000 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFQ16 อยู่ที่ 22,110 บาท โดยราคาปรับตัวลดลง 20 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 22,130 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 15.43 น.ของวันที่ 30/06/16)

แนวโน้มวันที่ 4 กรกฎาคม 2559
         
นักลงทุนคาดหวังว่าผู้กำหนดนโยบายจะดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมเพื่อรับมือกับผลกระทบในทางลบที่เศรษฐกิจได้รับจาก Brexit หรือการที่อังกฤษโหวตถอนตัวออกจากสหภาพยุโรป (อียู) แนวโน้มที่จะมีการผ่อนคลายนโยบายการเงินลงในอนาคตจะกระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อสินทรัพย์ที่ให้อัตราผลตอบแทนสูง แม้กระแสคาดการณ์ดังกล่าวจะเพิ่มมุมมองเชิงบวกต่อการลงทุนในตลาดหุ้น แต่ก็ส่งผลเชิงบวกต่อทิศทางราคาทองคำเช่นกัน เพราะราคาทองคำเพิ่งพุ่งขึ้นในไตรมาส 1 ของปี 2016 ในอัตราที่แข็งแกร่งที่สุดในรอบเกือบ 30 ปี เมื่อเทียบกับไตรมาสแรกของปีก่อนๆ และราคาทองคำได้ปรับขึ้นอีกราว 6.5% ในไตรมาส 2 โดยพุ่งขึ้นมาแล้ว 24% จากช่วงต้นปี 2016
 
ทั้งนี้ประเด็นของ Brexit เริ่มมีทิศทางคลี่คลายมากขึ้นทำให้ทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยถูกลดความน่าสนใจลง เมื่อบริษัทฟิทช์ เรทติ้ง เปิดเผยว่า Brexit ไม่มีผลกระทบโดยตรงในทันทีต่ออันดับความน่าเชื่อถือของประเทศหรือธนาคารในแถบเอเชียแปซิฟิก ฟิทช์ มีมุมมองว่า ตลาดเกิดใหม่ในเอเชียจะยังคงเป็นภูมิภาคที่มีการขยายตัวเร็วที่สุดในโลก
 
อย่างไรก็ตาม นักลงทุนจับตาสถานการณ์จากประเด็น Brexit เพราะยังคงเห็นความผันผวนตามมาเป็นระยะ เมื่อธนาคารพาณิชย์ของยุโรปมีแนวโน้มที่จะมีผลกำไรเติบโตต่ำ และ มีต้นทุนส่วนของเจ้าของเพิ่มสูงขึ้น ในขณะที่ความเสี่ยงทางการเมืองเพิ่มขึ้น ส่งผลให้หุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ของยุโรปดิ่งลงอย่างรุนแรง โดยหุ้นธนาคารรอยัล แบงก์ ออฟ สก็อตแลนด์ (RBS) ดิ่งลง โดยเป็นผลจากการที่มอร์แกนสแตนเลย์ปรับลดอันดับความน่าลงทุนลง ขณะที่หุ้นธนาคารดอยช์ แบงก์ของเยอรมนีและหุ้นธนาคารซานตานเดร์ของสเปนดิ่งลง หลังจากกิจการในสหรัฐของธนาคารสองแห่งนี้ไม่ผ่านการทดสอบภาวะวิกฤติในสหรัฐอีกครั้งในปีนี้ ซึ่งกระแสข่าวเหล่านี้มีผลต่อการเคลื่อนไหวของราคาค่อนข้างมากจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด 

          
กลยุทธ์การลงทุน ทางวายแอลจีมีมุมมองว่า สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้แนะนำให้รอจังหวะซื้อหากราคาไม่หลุดแนวรับ 1,303 หรือ 1,291 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และขายทำกำไรบริเวณแนวต้าน เมื่อราคาทองคำดีดตัวขึ้นและไม่ผ่านแนวต้าน 1,335 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากสามารถผ่านได้ให้รอขายทำกำไรบริเวณแนวต้านถัดไปที่ 1,345 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เนื่องจากราคาผันผวนลดลงจากช่วงก่อนหน้า เพราะในวันจันทร์นี้ตลาดเงินตลาดทุนสหรัฐจะหยุดทำการเนื่องจากในวันชาติสหรัฐอเมริกา (Independence Day) อย่างไรก็ตามนักลงทุนที่ลงทุนมากเกินไปหรือไม่มีแผนในการลงทุนที่ชัดเจนถือว่าเป็นการเพิ่มความเสี่ยงในการลงทุน

         
ทองคำแท่ง (96.50%) 
แนวรับ 1,303 (21,690บาท) 1,291 (21,490บาท) 1,280 (21,300บาท)
แนวต้าน 1,335 (22,220บาท) 1,345 (22,390บาท) 1,358 (22,610บาท)

         
GOLD FUTURES (GFQ16)
แนวรับ 1,303 (21,880บาท) 1,291 (21,670บาท) 1,280 (21,490บาท)
แนวต้าน 1,335 (22,410บาท) 1,345 (22,580บาท) 1,358 (22,800บาท)
 
 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 30 มิ.ย. 2559 เวลา : 18:00:03

22-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 22, 2024, 3:11 am