พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลให้ความร่วมมือและสนับสนุนคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ในการจัดให้มีการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย สุจริต และเที่ยงธรรม โดยการจัดตั้งศูนย์รักษาความสงบเรียบร้อย เพื่อสนับสนุนการดำเนินการตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2559 ขึ้นในทุกจังหวัดและอำเภอ ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.59 โดยในระดับจังหวัดมีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็น ผอ.ศูนย์ฯ ส่วนระดับอำเภอ มีนายอำเภอเป็น ผอ.ศูนย์ฯ และมีหัวหน้าส่วนราชการเป็นกรรมการ ทำหน้าที่ 3 ภารกิจหลัก คือ ด้านการบริหารจัดการ เช่น จัดทำแผนเผชิญเหตุ ติดตามสถานการณ์ ตั้งจุดตรวจจุดสกัด ด้านการข่าว เสาะหาข่าวที่บิดเบือนเนื้อหาของรัฐธรรมนูญ การกระทำผิดตาม พ.ร.บ.ประชามติ หรือเหตุการณ์ความไม่สงบเรียบร้อย และด้านการแก้ไขปัญหาการชุมนุมสาธารณะ ดำเนินการตาม พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ พ.ศ.2558
พล.ต.สรรเสริญ กล่าวต่อว่า เป้าหมายของการจัดตั้งศูนย์ดังกล่าว เพื่อป้องกัน ระงับ ยับยั้งเหตุที่จะนำไปสู่ความไม่สงบ สนับสนุนให้การออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญเป็นไปด้วยความเรียบร้อย บริสุทธิ์ ยุติธรรม อิสระ และเป็นกลาง ซึ่งเป็นการดำเนินการที่มีกฎหมายรองรับ และเป็นหน้าที่ความรับผิดชอบของส่วนราชการโดยตรง มีขั้นตอนการปฏิบัติที่ชัดเจน ทั้งนี้จะแบ่งการรายงานเหตุการณ์ไปยังผู้บริหาร 3 ระยะ คือ ก่อนวันออกเสียงประชามติ 1 ก.ค.- 6 ส.ค.59 วันออกเสียงประชามติ 7 ส.ค.59 และหลังวันออกเสียงประชามติ 8 – 10 ส.ค.59 หรือจนกว่าจะเรียบร้อย
“นายกฯ ย้ำชัดเจนว่า จะไม่ปล่อยให้มีการโกง หรือขัดขวางการลงประชามติเกิดขึ้น เพื่อให้ประชาชนได้ใช้ดุลยพินิจของตนเองตัดสินใจอย่างเต็มที่ โดยได้กำชับให้แต่ละจังหวัดและอำเภอปฏิบัติหน้าที่อย่างเข้มงวด ให้เป็นตัวอย่างที่ดีของผู้ที่ยึดถือกฎหมาย และทำเพื่อประโยชน์ของสาธารณะอย่างแท้จริง รวมทั้งขอความร่วมมือประชาชนทุกภาคส่วนร่วมเป็นหูเป็นตา หากพบเบาะแสการกระทำผิดกฎหมายประชามติ หรือกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องโปรดแจ้งเจ้าหน้าที่ดำเนินการโดยด่วน เพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดีของการลงประชามติให้เป็นที่ยอมรับของทุกคนทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ”พล.ต.สรรเสริญ กล่าว
ข่าวเด่น