กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานสถานการณ์น้ำท่วมรอการระบาย จำนวน 3 จังหวัดได้แก่ อุบลราชธานี อุทัยธานี และพิษณุโลก ทั้งนี้ ปภ. ได้ร่วมกับหน่วยทหารและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องออกปฏิบัติการแก้ไขปัญหา สำรวจความเสียหาย พร้อมให้การช่วยเหลือประชาชนในเบื้องต้น ซึ่งสถานการณ์โดยรวม ทั้ง 3 จังหวัด ได้คลี่คลายเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว อย่างไรก็ตาม จากการติดตามสภาพอากาศกับกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่า ยังคงมีฝนตกต่อเนื่องและมีฝนตกหนักบางแห่งในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือภาคตะวันออก และภาคใต้ จึงได้ประสานจังหวัดจัดเจ้าหน้าที่และมิสเตอร์เตือนภัยติดตามสภาพอากาศ เฝ้าระวังสถานการณ์ภัย และแจ้งเตือนภัยแก่ประชาชนที่อาศัยในพื้นที่เสี่ยงภัย รวมถึงขอให้ประชาชนติดตามพยากรณ์อากาศและประกาศเตือนภัยอย่างใกล้ชิด พร้อมปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด
นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า ในระยะนี้หลายพื้นที่มีฝนตกกระจาย และฝนตกหนักอย่างต่อเนื่องในหลายพื้นที่ ทำให้เกิดสถานการณ์น้ำท่วมรอการระบาย จำนวน 3 จังหวัด ได้แก่ อุบลราชธานี อุทัยธานี และพิษณุโลก
โดยจังหวัดอุบลราชธานี เกิดฝนตกหนักในพื้นที่อำเภอสำโรง ส่งผลให้มีน้ำท่วมขังในพื้นที่การเกษตร จำนวน 8 ตำบล ได้แก่ โคกก่อง หนองไฮ โนนกาเร็น โนนกลาง ค้อน้อย โคกสว่าง สำโรง และขามป้อมประชาชนได้รับผลกระทบ 1,033 ครัวเรือน พื้นที่นาข้าวเสียหาย 6,424 ไร่ จังหวัดอุทัยธานี เกิดฝนตกหนักในพื้นที่ตำบลอุทัยใหม่ อำเภอเมืองอุทัยธานี ส่งผลให้มีน้ำท่วมขังบริเวณตลาดสดเทศบาลเมืองอุทัยธานี และถนนสายศรีอุทัย ระดับน้ำสูงประมาณ 20 เซนติเมตร
จังหวัดพิษณุโลก เกิดฝนตกหนักในพื้นที่อำเภอเมืองพิษณุโลก ส่งผลให้มีน้ำท่วมขังบนถนนหลายสาย โดยเฉพาะบริเวณถนนวิสุทธิ์กษัตริย์ ระดับน้ำสูง 50 เซนติเมตร ทั้งนี้ ปภ. ได้ร่วมกับหน่วยทหารและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องระดมสรรพกำลังเจ้าหน้าที่ พร้อมวัสดุอุปกรณ์ และเครื่องจักรกลด้านสาธารณภัยออกปฏิบัติการแก้ไขปัญหา สำรวจความเสียหายในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม พร้อมให้การช่วยเหลือประชาชนในเบื้องต้น ซึ่งสถานการณ์โดยรวมทั้ง 3 จังหวัด คลี่คลายเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว
อย่างไรก็ตาม จากการติดตามสภาพอากาศกับกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่า มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามันประเทศไทย และอ่าวไทย ทำให้คลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีกำลังอ่อนลง แต่ยังคงมีฝนตกต่อเนื่องและมีฝนตกหนักบางแห่งในพื้นที่ภาคเหนือ ได้แก่ เชียงใหม่ เชียงราย ตาก และลำพูน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้แก่ เลย หนองคาย บึงกาฬ หนองบัวลำภู อุดรธานี ชัยภูมิ และนครราชสีมา ภาคตะวันออก ได้แก่ ตราด และภาคใต้ ได้แก่ ระนอง และพังงา
ทั้งนี้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้ประสานจังหวัดจัดเจ้าหน้าที่และมิสเตอร์เตือนภัยติดตามสภาพอากาศ เฝ้าระวังสถานการณ์ภัย และแจ้งเตือนภัยแก่ประชาชน ที่อาศัยอยู่บริเวณที่ลาดเชิงเขา ที่ราบต่ำ ริมน้ำไหลผ่าน บริเวณชายฝั่งทะเล และพื้นที่เสี่ยงภัย ให้ระมัดระวังอันตรายจากน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินถล่มจากปริมาณฝนที่ตกสะสม รวมถึงจัดชุดเคลื่อนที่เร็ว และวัสดุอุปกรณ์ให้พร้อมปฏิบัติการเผชิญเหตุ เพื่อให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้อย่างทันท่วงที นอกจากนี้ขอให้ประชาชนติดตามพยากรณ์อากาศและประกาศเตือนภัยจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด พร้อมปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด ชาวประมงและผู้ประกอบการท่องเที่ยวทางทะเลบริเวณฝั่งอันดามันและอ่าวไทย ควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือและประกอบกิจกรรมทางทะเล ท้ายนี้ ผู้ประสบภัยสามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป
ข่าวเด่น