MTS Gold Research | บทวิเคราะห์ราคาทองคำ (ภาคเช้า)(5ก.ค.)
ทิศทางราคาทองคำ
ราคาทองคำมีการดีดตัวสูงขึ้นหลังจากช่วงวันหยุด Independence Day ของสหรัฐฯ โดยปรับขึ้นไปทำจุดสูงสุดที่ระดับประมาณ 1,357 เหรียญ ซึ่งยังไม่สามารถผ่านไปได้ แต่ยังยืนเหนือแนวรับสำคัญบริเวณ 1,335 เหรียญได้ โดยเช้าวันนี้ตลาดเอเชียมีแรงเทขายต่อเนื่องกดดันราคาทองคำลงมาบริเวณ 1,340 เหรียญอีกครั้ง คาดราคาทองคำจะเคลื่อนไหว Sideways ในกรอบ 1,335-1,360 เหรียญ ไปจนกว่าตัวเลข ADP Non-Farm Employment Change และ Non-Farm Employment Change จะออกมา ซึ่งคงยังจำกันได้ว่าในเดือนที่ผ่านมาตัวเลข Non-Farm Employment Change ออกมาแย่กว่าคาดที่ระดับ 38,000 ราย ช่วยหนุนราคาทองคำเป็นอย่างมาก ดังนั้นจึงยังต้องติดตามตัวเลขดังกล่าวว่าในเดือนนี้จะเป็นอย่างไร ขณะที่วันนี้จะมีถ้อยแถลงของประธานธนาคารกลางอังกฤษ, ข้อมูล Factory Orders ของสหรัฐฯ และถ้อยแถลงของประธานเฟดสาขานิวยอร์ก
วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค
ราคาทองคำยังคงแกว่งตัวอยู่ในกรอบ Sideways โดยมีแนวรับที่ 1,335 เหรียญ และแนวต้านแรกที่ 1,356 เหรียญ คาดเคลื่อนตัวในกรอบ รอคอยปัจจัยใหม่ๆเข้ามากระทบต่อราคาทองคำในอาทิตย์ที่จะถึงนี้ต่อไป หลังเกิด Brexit โดยตัวเลขเศรษฐกิจทั้งหลาย จะเป็นปัจจัยสำคัญที่บ่งบอกว่าเฟดจะดำเนินนโยบายอย่างไรต่อไป แนะนำให้นักลงทุนลงทุนในกรอบ Sideways โดยหากดัชนียังไม่ผ่าน 1,355 – 1,360 สามารถ Open Short ระยะสั้น เพื่อทำกำไรที่ระดับ 1,340 – 1,335 เหรียญได้ ขณะที่นักลงทุนระยะยาว แนะรอราคาย่อลง หากยังไม่หลุด 1,335 เหรียญ สามารถเปิด Open Long เพื่อเก็งกำไรจังหวะปรับขึ้นเพื่อขายทำกำไรได้
กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้
เก็งกำไรระยะสั้นในกรอบ ระยะสั้นมีความผันผวน ขณะที่ภาพระยะยาวยังเป็นขาขึ้น
- นักลงทุนที่ถือ Long Position
เก็งกำไรทิศทางขาขึ้น หาจังหวะเปิดสถานะเมื่อราคาย่อตัว
- นักลงทุนที่ถือ Short Position
เก็งกำไรระยะสั้น เปิดสถานะตามแนวต้าน ระมัดระวังการซื้อขาย เนื่องจากภาพหลักเป็นขาขึ้น
กลยุทธ์สำหรับนักลงทุน Weekly Trading
เก็งกำไรทิศทางขาขึ้น ตามแนวโน้มหลักที่เป็นขาขึ้น
Gold Futures Q16 จะมีแนวรับที่ระดับ 22,320 บาท และแนวต้านที่ระดับ 22,530 บาท
Gold Futures V16 จะมีแนวรับที่ระดับ 22,400 บาท และแนวต้านที่ระดับ 22,610 บาท
.jpg)
ข่าวเด่น