แนวโน้มราคาทอง (12ก.ค.59) โดย YLG Bullion International
สภาวะตลาดวันที่ 11 กรกฎาคม 2559 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,357.38-1,374.71 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 22,650 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาไม่มีการเปลี่ยนแปลงจากวันก่อนหน้าที่ระดับ 22,650 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFQ16 อยู่ที่ 22,710 บาท โดยราคาปรับตัวลดลง 30 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 22,740 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 16.08 น.ของวันที่ 11/07/16)
แนวโน้มวันที่ 12 กรกฎาคม 2559
กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนมิถุนายนพุ่งขึ้น 287,000 ตำแหน่ง ซึ่งถือว่าสูงที่สุดนับตั้งแต่เดือนตุลาคม 2015 และสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ 175,000 ตำแหน่ง แต่ข้อมูลดังกล่าวไม่สามารถทำให้เกิดการคาดการณ์ว่าจะมีการขึ้นอัตราดอกเบี้ยในสหรัฐในเร็วๆนี้ เพราะตัวเลขการจ้างงานในเดือนพฤษภาคมถูกทบทวนปรับลดลงสู่ 11,000 ตำแหน่ง จาก 38,000 ตำแหน่ง และอัตราการว่างงานกลับเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 4.9% หลังจากอยู่ที่ 4.7% ในเดือนพฤษภาคม ตัวเลขภาคแรงงานที่ไม่มีความสอดคล้องกันเหล่านี้ ทำให้เกิดความยากลำบากที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะสามารถปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้ในระยะเวลาอันใกล้ โดยหลังจากการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานของสหรัฐในวันศุกร์ราคาทองคำมีการแกว่งตัวผันผวน แต่ก็สามารถกลับมาทรงตัวในระดับสูง
ขณะที่ราคาทองคำได้รับแรงหนุนอีกครั้งเมื่อบริษัทดีลเลอร์ชั้นนำของสหรัฐที่ทำธุรกิจโดยตรงกับเฟด 8 จาก 15 แห่งคาดว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยก่อนสิ้นปี 2016 มีเป้าหมายเพียง 0.25% หรือ เพียงแค่ครั้งเดียวในปีนี้ โดยบริษัทดีลเลอร์ชั้นนำทุกรายในโพลล์รอยเตอร์คาดว่า เฟดจะตรึงกรอบเป้าหมายอัตราดอกเบี้ยที่ 0.25-0.50% ต่อไปในการประชุมเฟดในวันที่ 26-27 กรกฎาคม และในการประชุมวันที่ 20-21 กันยายน
ทั้งนี้ ราคาทองคำมีการดีดตัวขึ้นทดสอบระดับสูงสุดของปีอีกครั้งในช่วงเปิดตลาดต้นสัปดาห์นี้ ตอบรับการเปิดเผยข้อมูลอัตราเงินเฟ้อของจีนกระตุ้นการคาดการณ์ที่ว่าทางการจีนจำเป็นต้องมีการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในจีนเพิ่มเติม เมื่อดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ในเดือนมิถุนายน เพิ่มขึ้นเพียง 1.9% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมกราคม ขณะที่ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ลดลงต่อเนื่อง สำหรับกลยุทธ์การลงทุนในช่วงเวลานี้ต้องเน้นไปที่การเก็งกำไรระยะสั้น ในขณะที่หากต้องการเข้าซื้อทองคำให้รอจังหวะการอ่อนตัวลงมาใกล้โซนแนวรับเช่นเดิม
กลยุทธ์การลงทุน แนะนำรอจังหวะเข้าซื้อโดยสำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้มากอาจเข้าซื้อเมื่อราคาย่อตัวลงมาบริเวณ 1,353 ดอลลาร์ต่อออนซ์ สำหรับผู้ที่รับความเสี่ยงได้น้อยแนะนำให้รอดูบริเวณโซนแนวรับถัดไป 1,347 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และรอขายทำกำไรบางส่วนบริเวณแนวต้านแรกที่ 1,375 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ส่วนที่เหลือให้รอไปปิดสถานะทำกำไรบริเวณแนวต้านถัดไปที่ 1,383 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และควรตั้งจุดตัดขาดทุนหากราคาไม่เป็นไปตามที่คาดการณ์ เพื่อลดความเสี่ยงพอร์ตการลงทุน ซึ่งหากนักลงทุนไม่มีวินัยในการลงทุนที่จะตัดขาดทุน จะทำให้เกิดความเสียหายที่ไม่อาจควบคุมได้อีกต่อไป
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,353 (22,490บาท) 1,347 (22,390บาท) 1,336 (22,210บาท)
แนวต้าน 1,375 (22,860บาท) 1,383 (22,990บาท) 1,390 (23,110บาท)
GOLD FUTURES (GFQ16)
แนวรับ 1,353 (22,620บาท) 1,347 (22,520บาท) 1,336 (22,340บาท)
แนวต้าน 1,375 (22,990บาท) 1,383 (23,130บาท) 1,390 (23,240บาท)
ข่าวเด่น