ทิศทางราคาทองคำ
ราคาทองคำทรงตัวอยู่ในกรอบ 1,350 – 1,370 เหรียญ โดยที่มีแรงเทขายทำกำไรเข้ามา ทั้งนี้ราคาทองคำปรับตัวลดลงเล็กน้อยจากข่าวโดยทั่วไปที่ นางเอสเธอร์ จอร์จ ประธานเฟดสาขา Kansas City และเป็นหนึ่งในสมาชิกที่ประชุม FOMC ออกมากล่าวว่า เฟดน่าจะขึ้นดอกเบี้ยได้บ้างในปีนี้ ขณะที่เมื่อวานนี้ไม่ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญและกองทุน SPDR เองก็ไม่ได้ทำการซื้อขายทองคำใดๆ โดยในวันนี้จะมีข้อมูลภาคแรงงานสหรัฐฯคือ JOLTS Job Openings ประจำเดือน พ.ค. ที่คาดว่าจะออกมาแย่ลงเล็กน้อย ในขณะนี้ตลาดวิเคราะห์ได้ว่าผลกระทบจาก BREXIT นั้นเป็นผลกระทบในระยะยาว โดยคณะกรรมาธิการอียูคาดว่าจะกระทบต่อเศรษฐกิจอียู ประมาณ 0.2%-0.5% ในปี 2017 นอกจากนี้ยังมีกระแสคาดการณ์ว่าธนาคารกลางแห่งสำคัญของโลก อาทิ ธนาคารกลางอังกฤษและธนาคารกลางจีนเอง ก็พร้อมจะอัดฉีดเม็ดเงินเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ส่วนดัชนีดอลลาร์ทรงตัวที่บริเวณ 96.41 จุด แข็งค่าขึ้นมาเล็กน้อย ตอบรับกับข้อมูลการจ้างงานที่ดีขึ้นในคืนวันศุกร์
วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค
ในระยะสั้นราคาทองคำยังคงทรงตัวอยู่ในกรอบ 1,350 เหรียญ เป็นแนวรับ และกรอบ 1,370 เหรียญ เป็นแนวต้าน โดยในวันนี้คาดว่าจะเคลื่อนตัวในกรอบดังกล่าว รอตอบรับกับปัจจัยใหม่ๆ ทั้งนี้สำหรับในภาพรวมราคาทองคำยังคงเป็นทิศทางขาขึ้น ขณะที่ค่าเงินบาทยังคงทรงตัวในกรอบ 35.10 บาท/ดอลลาร์ เป็นแนวรับ และ 35.20 บาท/ดอลลาร์ เป็นแนวต้าน โดยในเช้าวันนี้อ่อนค่าขึ้นมาเล็กน้อยอยู่ที่ 35.18 บาท/ดอลลาร์ ส่วนราคาทองคำไทยเองปรับตัวลดลง 50 บาท/บาททองคำ ในช่วงบ่ายเมื่อวานนี้ โดยในวันนี้คาดว่าราคาทองคำไทยจะเคลื่อนตัวในกรอบ 22,500 บาท/บาททองคำ เป็นแนวรับ และมีแนวต้านที่ 22,750 บาท/บาททองคำ
กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้
เป็นการปรับพอร์ตในช่วงที่ตลาดทรงตัว นักลงทุนที่ถือ Short ควรใช้จังหวะนี้ในการลดสถานะลง ทั้งนี้ยังคงเน้นย้ำกลยุทธ์ทิศทางขาขึ้นเป็นหลัก
- นักลงทุนที่ถือ Long Position
เก็งกำไรทิศทางขาขึ้น หาจังหวะเปิดสถานะเมื่อราคาย่อตัว
- นักลงทุนที่ถือ Short Position
ใช้จังหวะที่ตลาดในขณะนี้ทรงตัวในการปิดสถานะ
กลยุทธ์สำหรับนักลงทุน Weekly Trading
ยังคงแนะนำเก็งกำไรทิศทางขาขึ้น ตามแนวโน้มหลักที่เป็นขาขึ้น
Gold Futures Q16 จะมีแนวรับที่ระดับ 22,640 บาท และแนวต้านที่ระดับ 22,840 บาท
Gold Futures V16 จะมีแนวรับที่ระดับ 22,710 บาท และแนวต้านที่ระดับ 22,910 บาท
ข่าวเด่น