ที่ประชุมรัฐมนตรีการคลังของสหภาพยุโรป มีมติเริ่มต้นกระบวนการคว่ำบาตรอย่างเป็นทางการต่อสเปนและโปรตุเกส โดยอ้างว่าทั้งสองชาติไม่ใช้วินัยทางการคลังใหม่มากพอเพื่อลดตัวเลขการขาดดุลเหลือแค่ 3 % ตามข้อกำหนด ทั้งไม่มีความพยายามมากพอที่จะกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจให้อยู่ในระดับที่เป็นข้อบังคับของอียู โดยทั้ง 2 ประเทศมีเวลา 10 วันเพื่อยื่นแผนลดการขาดดุลงบประมาณ
ทั้งนี้ EU เตรียมกำหนดบทลงโทษกับสองประเทศสมาชิกดังกล่าว เพื่อป้องกันเหตุวิกฤติทางการเงิน โดยรมว.คลัง อียู จะต้องตัดสินใจว่าจะเห็นด้วยกับผลการตรวจสอบของEU Commission หรือไม่ หากเห็นด้วย รมว.คลัง อียูจะมีเวลา 20 วันในการกำหนดบทลงโทษ ซึ่งจะมีมูลค่าสูงสุดไม่เกิน 0.2% ของ GDP และงดการให้เงินช่วยเหลือบางอย่าง ทั้งนี้บทลงโทษจะได้รับการยกเว้น หรือลดลง หากสมาชิกรับเงื่อนไขบางอย่าง
เอเอฟพีรายงานว่าทั้งโปรตุเกสและสเปนได้รับผลกระทบอย่างหนักจากวิกฤตหนี้ยูโรโซน และทำให้ทั้งสองชาติตกอยู่ในสถานการณ์ทำงบประมาณแบบขาดดุลจำนวนมหาศาลนับตั้งแต่ปี 2009 เป็นต้นมา โปรตุเกสที่ได้รับการช่วยเหลือด้านการเงินสามารถลดตัวเลขการขาดดุลงบประมาณจากที่เคยเข้าใกล้ 10% ของตัวเลขจีดีพี ในปี 2010 มาอยู่ที่ 4.4% ในปีที่ผ่านมา แต่ก็ยังคงสูงกว่าอัตราข้อกำหนดของยูโรโซนที่อนุญาตให้มีการขาดดุลอยู่ที่ 3.0% ส่วนสเปนที่ปัดความช่วยเหลือด้านการเงินจากอียู ต้องประสบปัญหามาตลอดช่วง 6 ปีของเศรษฐกิจที่ถดถอยอย่างหนัก โดยพบว่าในปี 2015 สเปนรายงานตัวเลขการขาดดุลทางการคลังอยู่ที่ 5.1% ของจีดีพี ซึ่งยังคงห่างจากเป้าหมายที่ 4.2% ตั้งโดยคณะกรรมาธิการยุโรป และอัตราที่กำหนดไว้ของสหภาพยุโรป
ข่าวเด่น