โฆษกรัฐบาลเผย นายกฯ ชื่นชมความสำเร็จการจัดสรรที่ทำกินแก่ผู้ยากไร้ อ.ลานสัก จ.อุทัยธานี หลังลงพื้นที่ 4 เดือนเห็นผล เกษตรกรปรับพฤติกรรมฝ่าวิกฤตภัยแล้ง ปลูกหม่อนเลี้ยงไหม 300 ไร่ รายได้ดี พึ่งพาตนเองได้
พลตรี สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ฝากชื่นชมความสำเร็จของการแก้ไขปัญหาการบุกรุกที่ดินของรัฐและจัดสรรที่ดินทำกินให้แก่ผู้ยากไร้ อ.ลานสัก จ.อุทัยธานี หลังจากเมื่อวันที่ 26 ก.พ.59 ได้ลงพื้นที่มอบหนังสืออนุญาตให้ประชาชนเข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดิน และต่อมามีการส่งเสริมการปลูกหม่อนเลี้ยงไหมได้ผลดีเป็นอย่างมาก
“ท่านนายกฯ ชมเชยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ทั้งในส่วนของท่านรัฐมนตรี และข้าราชการที่เกี่ยวข้อง เช่น สปก. กรมหม่อนไหม กรมชลประทาน ฯลฯ ที่ได้ทำงานอย่างทุ่มเท ร่วมกับสถาบันเกษตรกรและพี่น้องเกษตรกร ในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานภายในที่ดินและส่งเสริมการพัฒนาอาชีพ ทำให้พี่น้องเกษตรกรยอมรับและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการปลูกพืช โดยรวมกลุ่มกันปลูกหม่อนเลี้ยงไหมแปลงใหญ่ 300 ไร่ ฝ่าวิกฤตภัยแล้ง มีเกษตรกรได้รับประโยชน์ 120 ราย”
พลตรี สรรเสริญ กล่าวต่อว่า กษ.เน้นส่งเสริมให้เกษตรกรเลี้ยงไหมเพื่อขายรัง ปลูกหม่อนผลสด ปลูกหม่อนเพื่อขายใบ ทอผ้าไหม และแปรรูปผลิตภัณฑ์จากหม่อนไหม โดยช่วยลดค่าปัจจัยการผลิต เช่น ลดการใช้ปุ๋ยเคมี ลดราคาพันธุ์หม่อน ส่งเสริมให้ใช้พันธุ์หม่อนที่ให้ผลผลิตสูง รวมทั้งยังได้จัดสร้างแหล่งน้ำและระบบน้ำให้เพียงพอต่อการเลี้ยงแปลงหม่อน ส่งเสริมการใช้เครื่องสูบน้ำระบบพลังงานแสงอาทิตย์ จัดหาแหล่งเงินทุนดอกเบี้ยต่ำหรือปลอดดอกเบี้ย จัดหาตลาด ฯลฯ ทำให้เกษตรกรแต่ละรายมีรายได้เดือนละ 9,000 – 18,000 บาท “ท่านนายกฯ เน้นว่า เพียง 4 เดือน ที่ได้ลงพื้นที่ ทำให้เห็นความเปลี่ยนแปลงในทิศทางที่ดีขึ้น ซึ่งทั้งหมดเกิดจากความร่วมมือแบบประชารัฐ โดยเฉพาะตัวเกษตรกรเองที่ต้องเป็นผู้คิดและลงมือทำ รู้จักปรับตัวปรับอาชีพ ให้สอดคล้องกับสภาพพื้นที่ และหน่วยงานของรัฐเป็นผู้สนับสนุน ช่วยให้ประชาชนสามารถพึ่งพาตนเองได้ จึงอยากให้เกษตรกรในพื้นที่อื่น ๆ ได้เรียนรู้ และนำแนวทางของ อ.ลานสัก ไปประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์อย่างทั่วถึง”
ข่าวเด่น