ตลาดหุ้นไทยวานนี้
SET INDEX วานนี้ ยังคงได้บรรยากาศการลงทุนรอบเอเชียเป็นตัวช่วย อีกทั้งตัวเลขการส่งออกของจีนออกมาดีกว่าคาด ทำให้ SET INDEX มีแรงส่งขึ้นทดสอบ 1,480 จุด ระหว่างชั่วโมงการซื้อขาย ก่อนที่จะย่อตัวลงมาปิดที่ 1,477.61 จุด บวก 2.69 จุด มูลค่าการซื้อขายหนาแน่น 76,144 ล้านบาท
เงินทุนต่างชาติยังคงหนาแน่นเป็นวันที่ 3 ซื้อสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 5 อีก 4,543 ล้านบาท Long สุทธิใน SET50 Index Futures เป็นวันที่ 3 อีก 751 สัญญา แม้จะกลับมาขายสุทธิตลาดตราสารหนี้ แต่ก็เพียง 90 ล้านบาท
ปัจจัยสำคัญวันนี้
- รายงาน Beige Book ของสหรัฐฯ ส่งสัญญาณเศรษฐกิจเติบโตปานกลางถึงดีเล็กน้อย แต่การจ้างงาน การใช้จ่ายยังมีแรงกดดัน
- ติดตามการประชุม BoE ซึ่ง Bloomberg consensus คาดจะลดอัตราดอกเบี้ยลงเป็น 0.25% จากปัจจุบัน 0.50%
- เงินทุนต่างชาติซื้อสุทธิตลาดหุ้นเอเชียเกิดใหม่ 6 ตลาดพร้อมกันเป็นวันที่ 3 วานนี้
มุมมองต่อตลาดวันนี้: กลางถึงลบ (วันแรกในรอบ 9)
เรากลับมาให้มุมมอง “ระมัดระวัง” ต่อการลงทุนอีกครั้ง ด่าน 1,480-1,500 จุดในช่วง 2 วันทำการจะผ่านได้ยาก เพราะต้นสัปดาห์หน้าเป็นช่วงวันหยุดยาวของตลาดหุ้นไทย อีกทั้งตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวขึ้นมาด้วยความคาดหวังว่า BoE จะลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายในค่ำวันนี้ จาก 0.50% ณ ปัจจุบัน เป็น 0.25%
- หาก BoE ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายตามคาด เชื่อว่าจะเกิด Sell on Fact
- แต่หาก BoE คงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย หลังผ่อนคลายหลักเกณฑ์การปล่อยสินเชื่อไปในสัปดาห์ที่ผ่านมา กลายเป็น Negative Surprise ที่กดดันตลาดหุ้นทั่วโลกแรงกว่ากรณีแรก
ขณะที่ Valuation ของ SET INDEX ณ ระดับปิดวานนี้ 15.96x สูงกว่าค่าเฉลี่ย 1Yr Forward PER ด้วยระดับ +1SD ที่ 15.36x รวมถึงปัจจัยทางเทคนิคที่ตึงตัวด้วยเช่นกัน ภายใต้วอลุ่มการซื้อขายที่หนาแน่นแตะระดับ 7.5-8.0 หมื่นล้านบาท/วัน
เชิงกลยุทธ์การลงทุน เราประเมิน SET INDEX แกว่งระหว่าง 1,460-1,485 จุด น่าจะเป็นบริเวณกลับมาสะสมหุ้นที่คาดว่าผลการดำเนินงานใน 2Q59 เด่น ดังนั้นในช่วงนี้เราจึงแนะนำให้นักลงทุน “เน้นด้านขายและกลับมาถือเงินสด มากกว่าการไล่ราคาหุ้นขึ้นไป” หรือพักเงินในหุ้น Laggard หรือหุ้นปันผลระหว่างกาลเด่น
Strategy of the Day
1. เก็งกำไร ITD : ราคาปิด 6.80 บาท ราคาเหมาะสม 12.00 บาท
a) MBKET คงมุมมองเชิงบวกต่อหุ้นกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง และมีปัจจัยบวกรออยู่ คือการประมูลงานขนาดใหญ่ ได้แก่ รถไฟฟ้ารางคู่ และรถไฟฟ้าสายสีส้ม-เหลือง-ชมพู ใน 2H59
b) ยัง Laggard โดย YTD ราคาหุ้น ITD -9% เทียบกับ CK +6% และ STEC ทรงตัว ขณะที่ SET INDEX +14%
a) ราคาหุ้นมี Downside Risk ที่จำกัด โดยซื้อขายต่ำกว่ามูลค่าของธุรกิจรับเหมาก่อสร้างที่ 7.00 บาท และมูลค่าเงินลงทุนในธุรกิจอื่นๆที่เหลือ ได้แก่ เหมืองแร่โปรแตซ, ทวายและทางด่วนที่ Dhaka อีก 5.00 บาทต่อหุ้น
2. เก็งกำไร IVL : ราคาปิด 30.25 บาท ราคาเหมาะสม 38.50 บาท
a) นับตั้งแต่รู้ผลประชามติ Brexit วันที่ 24 มิ.ย.จนถึงวานนี้ ราคาหุ้น IVL -4.7% เทียบกับ TU -0.5% และ KCE ทรงตัว ขณะที่สถานการณ์ Brexit ในอังกฤษและยูโรโซนเริ่มคลายตัวลงแล้ว
b) ราคาหุ้นมี Sentiment บวก จากราคาฝ้ายที่ปรับตัวขึ้นทำระดับสูงสุดใหม่ของปี 2559 เพิ่มขึ้น +4.4% เมื่อคืนนี้เป็น 70.78 เซนต์ และเชื่อว่าจะเป็นบวกต่อ Spread ของราคาโพลีเอสเตอร์
c) คาดกำไรจากการดำเนินงานปกติใน 2Q59 จะเพิ่มขึ้นถึงเท่าตัว qoq เป็น 2.2 พันล้านบาท และเป็นปัจจัยบวกต่อราคาหุ้น
Fund Flow Analysis
Fund Flow in Emerging Markets
กระแสเงินทุนต่างชาติ ซื้อสุทธิเป็นวันที่ 5 มากถึง 1,116 ล้าน จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ US$781 ล้าน
ซื้อสุทธิทุกตลาดเป็นวันที่ 3
Foreign Investors Action วานนี้
ต่างชาติสะสมหุ้นไทยเป็นวันที่ 3
นักลงทุนต่างชาติ คงการซื้อสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 5 เร่งขึ้นเป็น 4,543 ล้านบาท รวม 5 วันทำการซื้อสุทธิ 10,720 ล้านบาท และทำให้ YTD ต่างชาติซื้อสุทธิทะลุ 50,000 ล้านบาท เป็น 50,638 ล้านบาท
ด้าน SET50 Index Futures นักลงทุนกลุ่มนี้คงการ Long สุทธิเป็นวันที่ 3 ลดลงเหลือเพียง 751 สัญญา รวม 3 วันทำการ Long สุทธิ 17,153 สัญญา น่าจะเป็นการทยอยเปิดสถานะ Long ต่อเนื่อง ทำให้ QTD คงการ Long สุทธิ 11,651 สัญญา ส่งผลให้ S50U16 ปิดต่ำกว่า SET50 Index กว้างขึ้นเป็น 8.68 จุด จากวันก่อนหน้า Discount เพียง 6.43 จุด
ส่วนนักลงทุนกลุ่มนี้กลับมาขายสุทธิตลาดตราสารหนี้ แต่ก็เพียง 90 ล้านบาทเท่านั้น แม้ว่าราคาพันธบัตรไทยฟื้นตัวอีกครั้ง ผ่านพันธบัตรไทย อายุ 10 ปี ผลตอบแทนลดลง 1.34bps จากวันก่อนหน้าเพิ่มขึ้นถึง 5.53bps ปิดที่ 1.988%
Short-Selling วานนี้
ลดลงเป็นวันที่ 2 เหลือ 761 ล้านบาท จากวันก่อนหน้า 936 ล้านบาท
NVDR Movement
NVDR ซื้อสุทธิเป็นวันที่ 7 ยังคงเป็น Basket Orders
การซื้อขายผ่าน NVDR ซื้อสุทธิเร่งขึ้นเป็น 4,107 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 3,827 ล้านบาท รวม 7 วันทำการซื้อสุทธิทะลุ 20,000 ล้านบาท เป็น 20,118 ล้านบาท โดยยังคงเป็นลักษณะกระจายการลงทุนไปยังกลุ่มหลักของตลาดหุ้นไทย
ประเด็นสำคัญด้านเศรษฐกิจ – การเงินรายภูมิภาค
สหรัฐอเมริกา
รายงาน Beige Book เศรษฐกิจสหรัฐฯ เติบโตปานกลางถึงดีเล็กน้อย: นับตั้งแต่กลางเดือนพ.ค. แม้ว่าอัตราเงินเฟ้อจะมีแรงกดดันเล็กน้อย และการใช้จ่ายส่วนบุคคลจะชะลอตัวบางส่วนก็ตาม
แนวโน้มเศรษฐกิจเป็นไปในทางบวกทุกภาคส่วน รวมถึงการค้าปลีก, ภาคการผลิต และอสังหาฯ แนวโน้มการเติบโตในทุกเขตต่างรายงานยังคงเป็นกลางถึงบวกเล็กน้อย
ตลาดแรงงานยังคงทรงตัว เงื่อนไขการจ้างงาน เติบโตปานกลาง นับตั้งแต่รายงานฉบัยก่อนหน้า ขณะที่ค่าจ้างแรงงานยังคงมีแรงกดดันปานกลางถึงสูงเล็กน้อย ทั้งนี้ในหลายๆ เขต ต่างรายงานถึงความต้องการแรงงานที่มีทักษะ
ยุโรป
กองทุน Aberdeen เปิดให้มีการซื้อขายกองทุนอสังหาฯ อังกฤษอีกครั้ง: ขนาดกองทุน 3.2 พันล้านปอร์ด รวมถึง Feeder Trust หลังจากหยุดการไถ่ถอนเป็นการชั่วคราวนับตั้งแต่วันที่ 6 ก.ค.ที่ผ่านมา ทั้งนี้กองทุนได้ลดมูลค่าของสินทรัพย์ในกองทุนลงอีก 17% ในสัปดาห์ก่อน ดังนั้นการหยุดการไถ่ถอนชั่วคราว เพื่อให้นักลงทุนมีเวลาในการพิจารณา
ดัชนีราคาบ้านในลอนดอน ทำระดับต่ำสุดในรอบ 7 ปี: ดัชนีราคาบ้านลดลงเป็น -46.0 จุดในเดือนมิ.ย. จาก -35.0 จุด ในเดือนพ.ค. เป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ต้นปี 2552 เป็นผลกระทบจากผลประชามติ Brexit ปลายเดือนมิ.ย.
นายกฯ อังกฤษ คนใหม่ เข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการแล้ว: นาง Theresa May เข้ารับตำแหน่งนายกฯ อังกฤษ อย่างเป็นทางการแล้ว โดยเป็นนายกฯ หญิงคนที่ 2 ของอังกฤษ ทั้งนี้ตำแหน่งทางเศรษฐกิจที่สำคัญ ได้แก่
นาย David David จะเป็นเลขาของอังกฤษเพื่อดำเนินการเจรจากับอียูในด้าน Brexit โดยนาย David จะเป็นผู้ช่วยนายกฯ ในการตัดสินใจเริ่มขบวนการถดถอนอังกฤษออกจากการเป็นสมาชิกในช่วงเวลา 2 ปี และการเจรจาเงื่อนไขต่างๆ
นาย Philip Hammond ได้รับการเสนอชื่อเข้ารับตำแหน่ง รมว.คลัง วัตถุประสงค์เพื่อป้องกันเศรษฐกิจอังกฤษจากการ Brexit หลังนาย Osborne ได้ขอถอนตัวออกจากคณะรัฐบาล
จีน
ตัวเลขส่งออกเดือนมิ.ย.ออกมาใกล้เคียงคาด:
การส่งออกในรูปเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ลดลง 4.8% yoy ใกล้เคียงกับที่ Bloomberg consensus คาดการณ์ที่ -5.0% yoy แต่เร่งตัวขึ้นจากเดือนก่อนหน้าหดตัว 4.1% yoy
การนำเข้าในรูปเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ลดลง 8.4% yoy หดตัวมากกว่า Bloomberg consensus คาด -6.3% yoy และหดตัวเร่งขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่ 0.4% yoy เท่านั้น
เอเชียแปซิฟิก
ธนาคารกลางมาเลเซียลดอัตราดอกเบี้ยสวนทางกับที่ตลาดคาด: อัตราดอกเบี้ยนโยบายลดลง 25bps เป็น 3.0% เป็นการลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในรอบ 7 ปี ขณะที่ Bloomberg consensus คาดคงอัตราดอกเบี้ย เนื่องจากความเสี่ยงในต่างประเทศที่สูงขึ้น นอกจากนี้ธนาคารกลางยังได้ปรับลดอัตราเงินเฟ้อปีนี้ลงเป็น 2-3% จากเดิม 2.5-3.5%
IEA รายงานกำลังการผลิตน้ำมันในตะวันออกกลางทำระดับสูงสุดใหม่: IEC รายงานการผลิตน้ำมันดิบในตะวันออกกลาง ทำระดับสูงกว่า 31 ล้านบาร์เรล/วัน เป็นเดือนที่ 3 ในเดือนพ.ค. โดยซาอุฯ ผลิตน้ำมันใกล้ระดับสูงสุดของประเทศ ขณะที่สหรัฐฯ กำลังการผลิตลดลง 1.4 แสนบาร์เรล/วัน เป็น 12.45 ล้านบาร์เรล/วัน หากพิจารณาในภาพรวมกลุ่มโอเปก กำลังการผลิตเพิ่มขึ้น 4.0 แสนบาร์เรล เป็น 33.21 ล้านบาร์เรล/วัน เป็นระดับสูงสุดในรอบ 8 ปี
เศรษฐกิจสิงคโปร์เติบโตในอัตราเร่ง: ขยายตัว 2.2% yoy สำหรับใน 2Q59 เท่ากับที่ Bloomberg Consensus คาด เทียบกับไตรมาสก่อนหน้าที่เติบโต 2.1% yoy นอกจากนี้ยังเป็นการขยายตัว 0.8% qoq จากำไตรมาสก่อนที่ +0.2% qoq อย่างไรก็ตามเศรษฐกิจสิงคโปร์ในไตรมาสที่ 3 มีแนวโน้มชะลอตัวจากปัจจัยเสี่ยงต่างประเทศ หลังกรณี Brexit ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก ทั้งนี้ทางการคาดการณ์ GDP ในปีนี้เติบโตอยู่ที่ 1-3%
ไทย
ไม่มี
โดย บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด ประจำวันที่ 14 ก.ค. 2559
ข่าวเด่น