หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์พลังงาน บมจ.ไทยออยล์ รายงานสถานการณ์ราคาน้ำมัน ประจำวันที่ 15 ก.ค. 2559ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่มขึ้น หลังนักลงทุนทำการซื้อกลับในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าและค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ที่อ่อนค่าลง
(+) ราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้น เนื่องจากนักลงทุนบางส่วนเริ่มคลายกังวลภาวะอุปทานน้ำมันสำเร็จรูปล้นตลาดและทำการซื้อกลับในสัญญาซื้อขายน้ำมันดิบล่วงหน้า (Short-covering) หลังราคาปรับลดลงกว่า 4 เปอร์เซ็นต์ในวันก่อนหน้า หลังสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA)รายงานปริมาณน้ำมันเบนซินและดีเซลคงคลังสหรัฐฯ ปรับเพิ่มขึ้น 1.2และ 4.1บาร์เรลตามลำดับ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าน้ำมันเบนซินคงคลังจะปรับลดลง 0.3และน้ำมันดีเซลคงคลังปรับเพิ่มขึ้น 0.2 ล้านบาร์เรล ตามลำดับ
(+) ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ปรับตัวอ่อนค่าลงและส่งผลสนับสนุนต่อราคาน้ำมันดิบ หลังธนาคารกลางอังกฤษ (BE) มีมติเอกฉันท์ในการคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับเดิม สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงร้อยละ 0.25 ส่งผลให้ค่าเงินปอนด์ปรับตัวแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ โดย BoE ต้องการจับตามองผลกระทบของ Bexitให้ชัดเจนก่อนที่จะออกนโยบายเพิ่มเติม อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์บางส่วนยังเชื่อว่าในการประชุมครั้งหน้าในเดือนสิงหาคม BoEจะมีการออกนโยบายการเงินเพิ่มเติม
(-) อย่างไรก็ตาม ในรายงานประจำเดือน มิ.ย. ของสำนักงานพลังงานสากล (IEA)ระบุว่าปริมาณน้ำมันดิบคงคลังทั่วโลกที่ยังคงอยู่ในระดับสูงและยังคงเป็นอุปสรรคต่อการฟื้นตัวของราคาน้ำมันดิบ โดยปริมาณน้ำมันเชิงพาณิชย์ในกลุ่มประเทศพัฒนาแล้วปรับเพิ่มขึ้น 13.5 ล้านบาร์เรลสู่ระดับสูงสุดในรอบประวัติการณ์ที่ระดับ 3,074 บาร์เรล และปริมาณน้ำมันดิบที่กักเก็บในเรือ (Floating storage)ยังคงปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่องสู่ระดับสูงสุดในรอบ 7ปี
(-) นอกจากนี้ Genscape รายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ณ จุดส่งมอบน้ำมันดิบ คุชชิ่ง โอกลาโฮมา สำหรับสัปดาห์สิ้นสุด ณ วันที่ 12ก.ค. มีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้น 171,511บาร์เรล จากสัปดาห์ก่อนหน้า
ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับลดลงน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ โดยได้รับแรงหนุนจากปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังที่สิงคโปร์ที่ปรับลดลงกว่า 994,000บาร์เรลจากสัปดาห์ก่อนหน้ามาสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 2 สัปดาห์ที่ระดับ 13.53 ล้านบาร์เรล หลังสามารถส่งออกน้ำมันเบนซินส่วนเกินไปจำหน่ายยังเม็กซิโกและเปรูได้ราคาน้ำมันดีเซล ปรับลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังได้รับแรงกดดันจากจีน อินเดีย และประเทศในกลุ่มตะวันออกกลาง ที่เตรียมเพิ่มปริมาณการส่งออกน้ำมันดีเซลสูงมากขึ้น ประกอบกับ ปริมาณน้ำมันดีเซลคงคลังที่สิงคโปร์ที่ปรับเพิ่มขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์ที่ระดับ 11.827ล้านบาร์เรล
ไทยออยล์คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์หน้า
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสเคลื่อนไหวในกรอบ44-49 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 45-50เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ปัจจัยที่น่าจับตามอง
ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ มีแนวโน้มปรับตัวลดลงต่อเนื่อง หลังโรงกลั่นน้ำมันในสหรัฐฯ คงปริมาณการกลั่นอยู่ในระดับสูงเพื่อรองรับความต้องใช้น้ำมันในช่วงฤดูกาลขับขี่ของสหรัฐฯ โดยสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานของสหรัฐฯ (EIA)รายงานตัวเลขปริมาณน้ำมันดิบคงคลังปรับลดลงกว่าเก้าสัปดาห์ติดต่อกัน สู่ระดับ 521.8 ล้านบาร์เรล
จับตาสถานการณ์การผลิตน้ำมันดิบของไนจีเรีย หลังในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา กลุ่ม Niger Delta Avengers ยังคงเดินหน้าโจมตีแหล่งผลิตและท่อขนส่งน้ำมันดิบต่อเนื่อง
ระดับราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นใกล้ระดับต้นทุนการผลิตที่ 50 เหรียญสหรัฐฯ ส่งผลให้ผู้ผลิตบางรายในสหรัฐฯ เริ่มกลับมาดำเนินการผลิต โดย Baker Hughes รายงานปริมาณแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ณ วันที่ 1ก.ค. ปรับเพิ่มขึ้นกว่า 10แท่น มาอยู่ที่ระดับ 351แท่น
โดย หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์พลังงาน บมจ.ไทยออยล์ ประจำวันที่ 15 ก.ค. 2559
.jpg)
ข่าวเด่น