กรมการขนส่งทางบก เผยผลการตรวจจับความของรถด้วยกล้องเลเซอร์ ในช่วงวันหยุดต่อเนื่องเฉพาะ 3 วัน (15-17 ก.ค. 59) สถิติความเร็วสูงสุดลดลง เมื่อเทียบกับช่วง 3 วันของเทศกาลสงกรานต์ (11-13 เม.ย. 59) โดยยังคงเป็นรถตู้โดยสารประจำทางที่ขับเร็วสูงสุด เร่งติดตามตัวผู้กระทำความผิดเพื่อลงโทษตามกฎหมาย กำชับสำนักงานขนส่งทุกจังหวัดให้เข้มงวดตรวจตรวจสอบความเร็วรถอย่างต่อเนื่อง
นายสนิท พรหมวงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยถึงผลดำเนินการตรวจสอบความเร็วของสาธารณะตาม พ.ร.บ.การขนส่งทางบก ด้วยกล้องเลเซอร์บนท้องสายหลักและสายรองทั่วประเทศ ช่วงวันหยุดยาวติดต่อกัน 5 วัน วันอาสาฬหบูชาต่อเนื่องวันเข้าพรรษา ตั้งแต่วันที่ 15-17 กรกฎาคม 2559 รวม 3 วัน พบรถโดยสารสาธารณะและรถบรรทุกใช้ความเร็วเกินที่กฎหมายกำหนดรวม 312 คัน รถบรรทุกส่วนบุคคลมีจำนวนสูงสุด 102 คัน รองลงมา รถบรรทุกไม่ประจำทาง 67 คัน รถตู้โดยสารประจำทาง 52 คัน รถตู้โดยสารไม่ประจำทาง 48 คัน รถโดยสารประจำทาง 31 คัน และรถโดยสารไม่ประจำทาง 12 คัน ซึ่งในจำนวนนี้รถตู้โดยสารประจำทางมีสถิติใช้ความเร็วสูงสุดที่ 128 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งลดลงเมื่อเปรียบการกับผลการปฏิบัติงานรณรงค์ป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2559 ช่วงสามวันแรก (11-13 เมษายน 2559) ที่มีการเข้มงวดตรวจจับการใช้ความเร็วของรถ สถิติความเร็วสูงสุดเป็นของรถตู้โดยสารประจำทางอยู่ที่ 139 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เป็นผลมาจากการรณรงค์ให้ผู้ขับรถใช้ความเร็วที่เหมาะสมตามที่กฎหมายกำหนด และเป็นผลมาจากการเข้มงวดมาตรการตรวจจับความเร็วบนท้องถนนอย่างต่อเนื่อง
อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวเพิ่มเติมว่า แม้ว่าผลจากการสุ่มตรวจความเร็วบนท้องถนนจะพบว่าความเร็วสูงสุดจะลดลง แต่ก็ยังสูงกว่าที่กฎหมายกำหนดไว้ อาจเป็นสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนได้ จึงกำชับสำนักงานขนส่งจังหวัดทุกแห่งทั่วประเทศดำเนินการเข้มงวดตรวจสอบการใช้ความเร็วอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มรถโดยสารสาธารณะขนาดใหญ่ และรถตู้โดยสารสาธารณะที่ให้บริการประชาชน เพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้ความเร็ว และให้เร่งติดตามตัวผู้กระทำความผิดให้เข้ามารายงานตัวเพื่อชำระค่าปรับตามกฎหมาย ซึ่งมีโทษปรับสูงสุดไม่เกิน 5,000 บาท กรมการขนส่งทางบกจะบันทึกประวัติไว้ที่ศูนย์ข้อมูลประวัติผู้ขับรถสาธารณะเพื่อตรวจสอบและป้องกันไม่ให้เกิดการกระทำความผิดซ้ำอีก ด้านผู้ประกอบการต้องมีมาตรการควบคุมพนักงานขับรถให้ปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด หากไม่สามารถควบคุมดูแลพนักงานขับรถให้ปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างปลอดภัย จนเป็นเหตุให้เกิดอุบัติเหตุร้ายแรงทำให้มีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต ผู้ประกอบการต้องรับผิดชอบชดใช้ค่าเสียหายที่เกิดขึ้น และอาจถูกพิจารณาพักใช้หรือเพิกถอนใบอนุญาตประกอบการขนส่ง
ทั้งนี้ หากพบเห็นรถโดยสารสาธารณะขับรถประมาทหวาดเสียว ใช้ความเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดหรือเอาเปรียบผู้โดยสารสามารถแจ้งศูนย์คุ้มครองผู้โดยสารรถสาธารณะ 1584 เฉพาะกิจในช่วงเทศกาล ณ สถานีขนส่ง ผู้โดยสารทุกแห่งทั่วประเทศ หรือ กรมการขนส่งทางบก จตุจักร หรือสายด่วน 1584 ตลอด 24 ชั่วโมง โดยระบุ รายละเอียดของรถให้ชัดเจน ได้แก่ หมายเลขทะเบียนรถ วัน เวลา เพื่อให้สามารถติดตามผู้กระทำความผิดมาลงโทษได้โดยเร็ว
ข่าวเด่น