ข่าว เบรกกิ้งนิวส์
หยิบเงินหยิบทอง - บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง


 


ตลาดหุ้นไทยวานนี้
         
SET INDEX วันศุกร์ก่อนปิดทำการยาวของตลาดหุ้นไทย แนวต้าน 1,500 จุดยังทำงานได้อย่างแข็งแกร่ง เกิดแรงขายทำกำไรมากขึ้นในช่วงบ่าย แต่แนวรับ 1,490 จุดยังทำงานได้อย่างแข็งแกร่ง ปิด ณ สิ้นวันที่ 1,492.00 จุด บวก 3.31 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 59,275 ล้านบาท
 
เงินทุนต่างชาติยังคงหนาแน่น ซื้อสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 7 อีก 3,884 ล้านบาท แต่ Short สุทธิใน SET50 Index Futures เพียง 553 สัญญา และพักเงินในตลาดตราสารหนี้ 1,354 ล้านบาท 

ปัจจัยสำคัญวันนี้
          เกิดเหตุการณ์โศกนาฎกรรมที่เมืองนีซ ประเทศฝรั่งเศสวันศุกร์ที่ 15 ก.ค. 
          เงินทุนต่างชาติยังคงหนาแน่นในตลาดเอเชียเกิดใหม่
          ติดตามการทยอยประกาศงบ 2Q59 ของกลุ่มธนาคาร เริ่มตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

มุมมองต่อตลาดวันนี้: กลางถึงลบ 
          SET INDEX ขยับขึ้นเข้าใกล้ด่านสำคัญทางจิตวิทยา 1,500 จุด ผลักดันด้วยแรงซื้อจากต่างชาติหนาแน่นนับตั้งแต่เกิด Brexit วันที่ 24 มิ.ย.ที่ผ่านมา อีกทั้งเศรษฐกิจไทยได้ผ่านจุดต่ำสุดไปใน 3Q58 มุมมองต่อเศรษฐกิจไทยดีขึ้นเป็นลำดับ แต่การขยับขึ้นอย่างร้อนแรง และต่อเนื่องทำให้เรายังให้มุมมอง “ระมัดระวัง” ต่อการลงทุนมากขึ้นเป็นลำดับ แม้ว่า โมเมนตัมของการลงทุนจะทำให้เชื่อว่า SET INDEX ทะลุ 1,500 จุดได้ในรอบนี้ก็ตาม เรามองว่าความผันผวนจะสูงขึ้นไปในทิศทางเดียวกัน ทำให้ Risk vs Reward เริ่มไม่สมดุล 
          ทั้งนี้ SET INDEX จะยืนเหนือ 1,500 จุดได้อย่างแข็งแกร่ง ขึ้นอยู่กับผลการดำเนินงาน 2Q59 ของกลุ่มธนาคารขนาดใหญ่ที่จะเริ่มทยอยประกาศในวันที่ 20-22 ก.ค.นี้ หากออกมาดีกว่าคาด และนำไปสู่งการปรับประมาณการกำไรสุทธิในปีนี้ขึ้น ย่อมทำให้ PER16 ของตลาดหุ้นไทยโดยรวมปรับตัวลงจากปัจจุบัน 15.84x เทียบกับค่าเฉลี่ย 5 ปีย้อนหลังของ 1Yr Forward PER ของตลาดหุ้นไทยที่ 15.3x 
          อีกทั้งนักลงทุนต่างคาดหวังว่า ECB จะส่งสัญญาณผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่มเติม หลังเกิดปัญหา Brexit และภาพรวมเศรษฐกิจในกลุ่มอียูไม่ฟื้นตัว ทำให้สภาพคล่องทางการเงินในระบบการเงินโลกยิ่งล้นมากขึ้น และนำไปสู่เงินทุนต่างชาติที่ไหลเข้าตลาดหุ้นเอเชีย
          กลยุทธ์การลงทุน “เก็งกำไรแบบจำกัดวงเงิน” ประเมินกรอบแกว่ง 1,485-1,505 จุด

Strategy of the Day          
          1. เก็งกำไร CK : ราคาปิด 31.00 บาท ราคาเหมาะสม 34.00 บาท
          a) MBKET คาดว่ากำไรสุทธิ 2Q59 จะเติบโตสูง qoq เป็น 500-600 ล้านบาท เนื่องจากจะมีการบันทึกเงินปันผลจากบริษัทลูก และมี Upside Risk หากสามารถบันทึกรายได้งานส่วนเพิ่มโครงการไซยะบุรีได้ .ใน 2Q59 หรือ 3Q59
          b) คงมุมมองเชิงบวกต่อหุ้นกลุ่มรับเหมาก่อสร้างใน 2H59 เนื่องจากมีงานประมูลขนาดใหญ่รออยู่ได้แก่ รถไฟรางคู่ และรถไฟฟ้าสามเส้นทาง ได้แก่ สีส้ม, เหลือง และชมพู 
          c) NAV จากการถือหุ้นใน CKP, BEM, TTW คิดเป็นมูลค่าต่อหุ้น CK หุ้นละ 27.40 บาท จึงมี Downside Risk จำกัด เป็นจุดเด่นของ CK เนื่องจากมีโอกาสที่จะรับงานก่อสร้างขนาดใหญ่จากบริษัทลูกอีกเป็นจำนวนมากในอนาคต 
          2. เก็งกำไร TPIPL : ราคาปิด 2.32 บาท ราคาเหมาะสม 2.85 บาท
          a) MBKET คาดว่าผลประกอบการ 2Q59 จะดีขึ้น qoq จากธุรกิจไฟฟ้าที่จะรับรู้รายได้โรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนทิ้ง 30MW เต็มไตรมาสเป็นไตรมาสแรก และคาดว่าจะมีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนราว 130-150 ล้านบาท จากค่าเงินยูโรที่อ่อนค่าลงราว 1.00 บาทต่อยูโร
          b) มีปัจจัยบวกรออยู่ใน 2H59 คือ การนำธุรกิจโรงไฟฟ้าเข้าจดทะเบียน IPO ซึ่งจะเป็นบวกโดยตรงต่อ Market Cap ของบริษัทแม่ และเชื่อว่าจะส่งผลให้นักวิเคราะห์ในตลาดปรับมาใช้วิธีประเมินมูลค่าจาก DCF เป็น Sum of the parts  
          c) ซื้อขายต่ำกว่ามูลค่าทางบัญชีที่ระดับ PBV2559 เพียง 0.8 เท่า และเชื่อว่าประเด็นค่าเสื่อมราคาที่เพิ่มขึ้นตั้งแต่ 1Q59 นั้น ไม่น่าเป็นปัจจัยลบกดดันราคาหุ้นอีกต่อไป เพราะเป็นสิ่งที่ตลาดรับรู้แล้ว

Fund Flow Analysis

Fund Flow in Emerging Markets
กระแสเงินทุนต่างชาติ ซื้อสุทธิมากถึง US$891 ล้าน จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ US$742 ล้าน 
และเป็นการซื้อสุทธิทุกตลาดที่ต่อเนื่อง

Foreign Investors Action วานนี้
ต่างชาติสะสมหุ้นไทยเป็นวันที่ 5
         
นักลงทุนต่างชาติ คงการซื้อสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 7 หนาแน่นถึง 3,884 ล้านบาท แม้ว่าตลาดหุ้นไทยจะติดวันหยุดยาวในต้นสัปดาห์ก็ตาม รวม 7 วันทำการซื้อสุทธิ 18,602 ล้านบาท และทำให้ YTD ต่างชาติซื้อสุทธิทะลุ 50,000 ล้านบาท เป็น 58,521 ล้านบาท
         
ด้าน SET50 Index Futures นักลงทุนกลุ่มนี้ Short สุทธิเป็นวันที่ 2 อีก 553 สัญญา รวม 2 วันทำการ Short สุทธิ 2,413 สัญญา เทียบกับ 3 วันทำการก่อนหน้า Long สุทธิ 17,153 สัญญา น่าจะเป็นการทยอยปิดสถานะ Long  แต่ QTD ยังคงเป็น Long สุทธิแต่ลดลงเหลือ 9,238 สัญญา   
         
และตลาดตราสารหนี้ นักลงทุนกลุ่มนี้ยังคงซื้อสุทธิเป็นวันที่ 2 อีก 1,354 ล้านบาท รวม 2 วันทำการซื้อสุทธิ 4,293 ล้านบาท แม้ว่าราคาพันธบัตรไทยเริ่มปรับตัวลง ผ่านพันธบัตรไทย อายุ 10 ปี ผลตอบแทนเพิ่มขึ้น 1.63bps ปิดที่ 2.007%

Short-Selling วานนี้ 
เท่ากับ 714 ล้านบาท          

NVDR Movement
NVDR ซื้อสุทธิเป็นวันที่ 9 เน้นกลุ่มธนาคารอย่างโดดเด่น 
          การซื้อขายผ่าน NVDR ซื้อสุทธิมากถึง 3,390 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 3,700 ล้านบาท รวม 9 วันทำการ ซื้อสุทธิทะลุ 25,000 ล้านบาท เป็น 27,228 ล้านบาท ทั้งนี้เป็นการเลือกสะสมหุ้นกลุ่มธนาคารอย่างหนาแน่น ต่อเนื่องจากวันก่อนหน้า 

ประเด็นสำคัญด้านเศรษฐกิจ – การเงินรายภูมิภาค

สหรัฐอเมริกา

ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ออกมาเป็นกลางถึงบวกเล็กน้อย 
          - อัตราเงินเฟ้อเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 0.2% mom ต่ำกว่า Bloomberg consensus คาดการณ์ที่ 0.3% mom แต่เพิ่มขึ้นเท่ากับเดือนก่อนหน้า โดยราคาภาคบริการที่เพิ่มขึ้น 0.3% mom เป็นอัตราการเพิ่มขึ้นแข็งแกร่งเป็นเดือนที่ 3 ไปชดเชยกับราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่เพิ่มขึ้นเพียง 0.1% mom 
          - ยอดค้าปลีกเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 0.6% mom มากกว่า Bloomberg consensus คาดเพียง 0.1% mom และเดือนก่อนหน้าที่ 0.2% mom ส่วนยอดค้าปลีกที่ไม่รวมยานยนต์เพิ่มขึ้น 0.7% mom สูงกว่า Bloomberg consensus คาดอีกครั้ง 0.5% mom 
          - ผลผลิตภาคอุตฯ เดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 0.6% mom มากกว่า Bloomberg consensus คาด 0.4% mom และฟื้นตัวจากเดือนก่อนหน้าที่ -0.3% mom ผลผลิตเครื่องยนต์และชิ้นส่วน ที่เพิ่มขึ้นถึง 5.9% mom ฟื้นตัวจากเดือนพ.ค.ที่ -4.3% mom นอกจากนี้กำลังการผลิตสาธารณูปโภค เพิ่มขึ้น 2.4% mom ขณะที่ผลผลิตเหมืองแร่เพิ่มเพียง 0.2% mom 
          - ดัชนีตลาดบ้านเดือนก.ค. เท่ากับ 59 จุดต่ำกว่า Bloomberg consensus คาด 61 จุด ดัชนีของผู้ก่อสร้างบ้านยังคงแข็งแกร่ง 63 จุด เทียบกับเดือนมิ.ย.ที่ 64 จุด แต่แนวโน้มยอดขายในอนาคตชะลอตัวเล็กน้อย

ยุโรป
          นายกฯ อังกฤษยืนยันคณะรัฐบาลจะต้องรับผิดชอบต่อ Brexit: โดยการออกจากการเป็นสมาชิกภาพในกลุ่มอียูให้มีความสำเร็จ แทนที่จะเดินหน้าเจรจาต่อรองกับทางอียู ภาระกิจของนายกฯ May คือเดินหน้าตามผลประชามติ และประชาชนของอังกฤษจะต้องได้รับประโยชน์ โดยเราจะเน้นสร้างระบบการศึกษา, ทักษะ และการเคลื่อนไหวทางสังคม เพื่อให้ทุกคนได้รับประโยชน์จากโอกาสที่จะออกจากอียู เป็นสำคัญ 

จีน          
          จีนยกเลิกเพดานการครองโดยต่างชาติในบางธุรกิจ: รัฐบาลกลางของจีน เตรียมยกเลิกเพดานการถือครองโดยต่างชาติในธุรกิจรถมอเตอร์ไซค์ต่างชาติ และแบตเตอรี่ ที่มีการจัดตั้งบริษัท/ โรงงานใน Free trade zones ในเซี่ยงไฮ้, เทียนจิน, กวางดอง และ ฟูเจี้ยน ซึ่งก่อนหน้าจะมีเพดานการถือครองได้ไม่เกิน 50% ของ JV

เอเชียแปซิฟิก
          อินเดียเตรียมอัดฉีดเงินเพื่อเพิ่มฐานทุนในระบบธนาคารรัฐ: ธนาคาร State Bank of India และ Indian Overseas bank เป็น 2 ใน 13 ธนาคารรัฐ จะได้รับเงินเพิ่มทุนจากรัฐบาลรวม 2.292 แสนล้านรูปี หรือ US$3.4 พันล้าน ซึ่ง State Bank เป็นธนาคารรัฐที่ใหญ่ที่สุดจะได้รับเงินเพิ่มทุน 7.58 หมื่นล้านรูปี ส่วน Indian Overseas bank จะได้รับเงิน 3.1 หมื่นล้านรูปี
          ยอดส่งออกสิงคโปร์หดตัว: ลดลง 2.3% yoy ในเดือน มิ.ย. จากเดือนก่อนหน้าที่ขยายตัว 11.6% yoy แต่หดตัวน้อยกว่าที่ Bloomberg Consensus คาดที่ -3.0% yoy ทั้งนี้การส่งออกเวชภัณฑ์ลดลง 1.2% yoy รวมถึงปิโตรเคมีที่หดตัว 15.6% yoy นอกจากนี้การส่งออกรวมยังเป็นการหดตัว 12.9% mom

ไทย
          ไม่มี
 

โดย บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด ประจำวันที่ 20 ก.ค. 2559

 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 20 ก.ค. 2559 เวลา : 10:16:04

22-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 22, 2024, 1:21 am