กรมการขนส่งทางบก พร้อมรองรับการเดินทางกลับเข้ากรุงเทพฯ หลังวันหยุดยาวเข้าพรรษา เผยผลจับความเร็ว 15-19 ก.ค.
กรมการขนส่งทางบก เดินหน้ามาตรการตรวจจับความเร็วอย่างต่อเนื่องเพื่อความปลอดภัยและป้องกันอุบัติเหตุ พร้อมรองรับการเดินทางกลับเข้ากรุงเทพฯ สั่งเตรียมรถโดยสารสาธารณะให้บริการอย่างเพียงพอ เข้มงวดตรวจสอบการให้บริการ ห้ามฉวยโอกาสเอาเปรียบประชาชนเด็ดขาด รถแท็กซี่ รถจักรยานยนต์รับจ้างปฏิเสธผู้โดยสาร โกงค่าโดยสารลงโทษหนักทุกราย
นายสนิท พรหมวงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า กรมการขนส่งทางบกได้สั่งการให้สำนักงานขนส่งจังหวัดทุกแห่งทั่วประเทศเตรียมพร้อมอำนวยความสะดวก ความปลอดภัย ให้กับประชาชนในการเดินทางเที่ยวกลับหลังจากสิ้นสุดช่วงวันหยุดยาว โดยให้จัดเตรียมรถโดยสารสาธารณะให้เพียงพอ และเข้มงวดตรวจสอบการให้บริการอย่างจริงจัง ป้องกันการฉวยโอกาสเอาเปรียบประชาชน นอกจากนี้ให้สำนักงานขนส่งจังหวัดทุกแห่งดำเนินการตรวจสอบความเร็วของรถสาธารณะตาม พ.ร.บ.การขนส่งทางบก ด้วยกล้องเลเซอร์บนท้องอย่างต่อเนื่องเพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้ความเร็ว
สำหรับผลการสุ่มตรวจจับความเร็วตั้งแต่วันที่ 15 กรกฎาคม 2559 จนถึงปัจจุบัน (19 กรกฎาคม 229) พบรถโดยสารสาธารณะและรถบรรทุกใช้ความเร็วเกินที่กฎหมายกำหนดรวม 523 คัน รถบรรทุกส่วนบุคคลมีจำนวนสูงสุด 163 คัน รองลงมา รถบรรทุกไม่ประจำทาง 114 คัน รถตู้โดยสารประจำทาง 88 คัน รถตู้โดยสารไม่ประจำทาง 78 คัน รถโดยสารประจำทาง 44 คัน และรถโดยสารไม่ประจำทาง 36 คัน โดยจะเร่งติดตามตัวผู้กระทำความผิดให้เข้ามารายงานตัวเพื่อชำระค่าปรับตามกฎหมาย ซึ่งมีโทษปรับสูงสุดไม่เกิน 5,000 บาท กรมการขนส่งทางบกจะบันทึกประวัติไว้ที่ศูนย์ข้อมูลประวัติผู้ขับรถสาธารณะเพื่อตรวจสอบและป้องกันไม่ให้เกิดการกระทำความผิดซ้ำอีก
อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากนี้ เพื่อป้องกันรถโดยสารสาธารณะ ฉวยโอกาสเอาเปรียบผู้โดยสาร กรมการขนส่งทางบกจัดชุดปฏิบัติการกองตรวจการขนส่งทางบก ชุดตรวจการพิเศษ บริเวณสถานีขนส่งหมอชิต 2 เอกมัย สายใต้ และสถานที่ที่มีประชาชนเรียกใช้บริการรถสาธารณะเป็นจำนวนมาก เช่น ห้างสรรพสินค้าฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต จุดจอดรถอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เป็นต้น เพื่อดูแลการให้บริการของรถโดยสารสาธารณะอย่างใกล้ชิด โดยมีมาตรการเปรียบเทียบปรับลงโทษ ที่เข้มข้น จริงจัง ทันที กับผู้ให้บริการผิดกฎหมาย หรือกลุ่มมิจฉาชีพ ที่เอาเปรียบและฉวยโอกาสประชาชน ทั้งรถจักรยานยนต์สาธารณะ และรถแท็กซี่ที่เรียกเก็บอัตราค่าโดยสารเกินราคา การปฏิเสธผู้โดยสาร ไม่ใช้มาตรค่าโดยสาร และการทิ้งผู้โดยสาร ทำลายภาพลักษณ์ของประเทศ จะดำเนินการลงโทษขั้นสูงสุด ถึงขั้นพักใช้และเพิกถอนใบอนุญาตขับรถทันที พบรถโดยสารสาธารณะเอาเปรียบสามารถร้องเรียนได้ที่ศูนย์คุ้มครองผู้โดยสารรถสาธารณะและรับเรื่องร้องเรียน สายด่วน 1584 ตลอด 24 ชั่วโมง, ผ่านทางเว็บไซต์ที่ http://ins.dlt.go.th/cmpweb/, ผ่านทาง E-mail ที่ dlt_1584complain@hotmail.com, หรือ ผ่านทาง facebook ชื่อ “ศูนย์คุ้มครองผู้โดยสารและรับเรื่องร้องเรียน 1584” หรือเดินทางมาร้องเรียนด้วยตนเอง ณ กรมการขนส่งทางบก โดยระบุ รายละเอียดของรถให้ชัดเจน ได้แก่ หมายเลขทะเบียนรถ วัน เวลา เพื่อให้สามารถติดตามผู้กระทำความผิดมาลงโทษได้โดยเร็ว
ข่าวเด่น