นายธีรพล ขุนเมือง ผู้ตรวจราชการกระทรวงแรงงานในฐานะโฆษกกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า พลเอก ศิริชัย ดิษฐกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน มุ่งเน้นให้ทุกหน่วยงานในสังกัดสร้างงาน สร้างอาชีพให้แก่คนไทยทุกคนทุกกลุ่มมีงานทำที่มั่นคง ภายใต้นโยบาย 3 โอกาส คือ โอกาสแรกคือ การตั้งต้น ทั้งด้านเงินทุน การจัดหาตำแหน่งงานรองรับ โอกาสที่สอง คือ การพัฒนาทักษะฝีมือ ทั้งในส่วนของกระทรวงดำเนินการเอง หรือร่วมกับภาคเอกชนในการฝึกทักษะตลอดจนร่วมมือกับนานาประเทศ
โอกาสที่สาม คือ การคุ้มครองเพื่อให้มีคุณภาพชีวิตทีดีเป็นไปตามมาตรฐานสากล ซึ่งจากการประสานความร่วมมือในทุกฝ่าย ทำให้สถานการณ์การจ้างงงานเป็นไปในทิศทางที่ดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งแรงงานที่เข้าสู่ระบบประกันสังคม โดยเข้าทำงานในสถานประกอบการ (มาตรา 33) ในเดือนมิ.ย. 59 มีจำนวน 10,377,038 คน เพิ่มขึ้นจากเดือน พ.ค. 59 ที่มีจำนวน 10,347,954 คน จำนวนถึง 29,084 คน และหากเทียบกับเดือนมิ.ย. 58 ที่มีแรงงานทำงานในสถานประกอบการ จำนวน 10,118,561 คน จะเพิ่มขึ้นถึง 258,477 คน และเมื่อเปรียบเทียบกับเดือนอื่น ๆ ในปี 2559 ตั้งแต่ มกราคม – พฤษภาคม ยอดจ้างงานเดือนมิ.ย. จะมีจำนวนแรงงานที่เข้าสู่การทำงานในสถานประกอบการสูงสุด โดย ม.ค. มี 10,314,551 คน ก.พ. มี 10,348,753 คน มี.ค. (ซึ่งทุกปีจะมียอดจ้างงานสูงขึ้นเนื่องจากมีนักศึกษาจบใหม่เข้าสู่การทำงาน) มีจำนวน 10,365,424 คน เม.ย. 10,338,067 คน และเมื่อเปรียบเทียบในช่วงเดียวกันในรอบ 6 เดือนในปี 2559 (มค.-มิย.59)กับปี 2558(มค.-มิย.58)พบว่าผู้ประกันตนเข้าทำงานในสถานประกอบการปี 2559 สูงกว่าปี 58 เฉลี่ยเดือนละกว่า 280,000 คน แสดงให้เห็นถึงสถานการณ์การจ้างงานในภาคอุตสาหกรรมและภาคส่วนอื่นๆทีมีความต้องการแรงงานอยู่จำนวนมาก
นายธีรพลฯ กล่าวต่อไปว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ยังเน้นย้ำให้แรงงานที่จบใหม่หรือแรงงานที่ทำงานอยู่เดิมต้องพัฒนาทักษะฝีมืออย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดแรงงานที่แท้จริงโดยเฉพาะปัจจุบันภาคบริการยังขาดอยู่มาก อาทิ ภาคการท่องเที่ยว ซึ่งอัตราการขยายตัวของนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง พร้อม ๆ กับการพัฒนาทักษะอาชีพที่มีความเชี่ยวชาญมากยิ่งขึ้น ซึ่งกระทรวงแรงงานได้กำหนดไว้ในแผนยุทธศาสตร์ 20 ปีไว้แล้วด้วย เพื่อให้สอดคล้องกับการเข้าสู่อุตสาหกรรม 4.0 ต่อไป
ข่าวเด่น