ทิศทางราคาทองคำ
ราคาทองคำปรับตัวลดลงจากความกังวลในการที่จะมีการประชุมเฟดในสิ้นเดือนนี้ ซึ่งตลาดคาดว่าเฟดมีโอกาสอาจขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้มากขึ้นจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯที่ออกมาในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาดีขึ้นค่อนข้างมาก นอกจากนี้ทองคำยังได้รับแรงกดดันจากการที่นักลงทุนกลับเข้าไปถือครองสินทรัพย์เสี่ยงมากขึ้น โดยดัชนี S&P500 และดัชนีดาวโจนส์ ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการแข็งค่าขึ้นของค่าเงินดอลลาร์ ซึ่ง Dollar Index แข็งค่าขึ้นทำจุดสูงสุดในรอบ 4 เดือน วันนี้เคลื่อนตัวอยู่ที่ระดับ 97.11 จุด รวมทั้งค่าเงินยูโรเองก็ปรับตัวลดลงสู่ระดับ 1.1024 ดอลลาร์/ยูโร ขณะที่ค่าเงินบาทเองอ่อนค่าลงเล็กน้อยมาอยู่ที่ระดับ 35.07 บาท/ดอลลาร์ โดยภาพรวมค่าเงินดอลลาร์ยังแข็งค่าอย่างต่อเนื่อง ขณะที่กองทุน SPDR ยังคงถือครองทองคำเท่าเดิมที่ระดับ 965.22 ตัน ด้านราคาทองคำไทยเองเมื่อวานนี้ปรับตัวลดลง 100 บาท จากระดับที่เปิดในช่วงเช้า ปิดที่ระดับ 21,900 – 22,000 บาท/บาททองคำ
วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค
ราคาทองคำ Breakout แนวรับสำคัญบริเวณ 1,325 เหรียญ หลังจากที่ทำ Consolidate ในช่วง 1,325 – 1,335 เหรียญ มากว่า 1 สัปดาห์ ทำให้ทิศทางแนวโน้มในระยะสั้นกลับเป็นขาลงอีกครั้งหนึ่ง โดยที่ราคาทองคำหลุดลงมาทดสอบแนวรับเส้นค่าเฉลี่ย 30 วัน ที่ระดับ 1,313 เหรียญ โดยมีแนวรับถัดไปที่ 1,300 เหรียญถ้วน หากหลุดลงไปจะทำให้ภาพรวมราคาทองคำในระยะกลางกลับมาเป็นขาลงอีกครั้งหนึ่ง ด้านราคาทองคำไทยหลุดแนวรับสำคัญที่ระดับ 22,000 บาท/บาททองคำ ลงมา โดยจะมีแนวรับถัดไปที่ระดับ 21,600 บาท/บาททองคำ และแนวต้านที่ 22,000 บาท/บาททองคำ ค่าเงินบาทเองน่าจะเคลื่อนตัวในกรอบ 34.95 – 35.10 บาท/ดอลลาร์
กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้
ควรทำ Stop Loss ลด Long Position ลงไป ปรับกลยุทธ์ตามแนวโน้มขาลง ไม่ควรทำการซื้อเฉลี่ย
- นักลงทุนที่ถือ Long Position
หาจังหวะทำ Stop Loss หรือลดสถานะลง
- นักลงทุนที่ถือ Short Position
หาจังหวะเปิดสถานะและปิดทำกำไรเป็นช่วงๆ
กลยุทธ์สำหรับนักลงทุน Weekly Trading
แนะจับตาบริเวณ 1,300 เหรียญ หากหลุดลงมาจะทำให้ภาพระยะกลางเป็นขาลง
Gold Futures Q16 จะมีแนวรับที่ระดับ 21,900 บาท และแนวต้านที่ระดับ 22,100 บาท
Gold Futures V16 จะมีแนวรับที่ระดับ 21,970 บาท และแนวต้านที่ระดับ 22,170 บาท
ข่าวเด่น