นายสุรพล จารุพงศ์ โฆษกกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า กระบือไทยนับว่าเป็นสัตว์เลี้ยงที่มีความสําคัญต่อเกษตรกรตลอดมา โดยเป็นส่วนหนึ่งในระบบการผลิตการเกษตรที่มีการเพาะปลูกเป็นรายได้หลัก ปัจจุบันสถานการณ์กระบือและผู้เลี้ยงกระบือในประเทศไทยมีปริมาณลดลงอย่างต่อเนื่อง
สาเหตุส่วนใหญ่เนื่องมาจาก การเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของเกษตรกรที่ประกอบอาชีพทํานา มีการใช้รถไถนาแทนการใช้แรงงานกระบือ จึงขายกระบือทิ้งเข้าโรงฆ่า เกษตรกรที่ยังเลี้ยงกระบืออยู่ส่วนใหญ่ไม่ได้เลี้ยงกระบือเป็นอาชีพ จึงไม่ให้ความสนใจในด้านการจัดการการเลี้ยงดู การปรับปรุงพันธุ์ การป้องกันโรค อาจส่งผลให้เกิดการสูญพันธุ์ของกระบือในประเทศไทยได้
ด้านนายสัตวแพทย์อยุทธ์ หรินทรานนท์ อธิบดีกรมปุสัตว์ กล่าวเพิ่มเติมว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมปศุสัตว์ มีนโยบายเร่งด่วนในการแก้ไขปัญหาข้างต้น จึงได้จัดทำโครงการพัฒนาการผลิตกระบือ เพื่อเป็นแนวทางในการอนุรักษ์และดำเนินการตามโครงการดังกล่าว โดยจะดำเนินการติดไมโครชิพให้กับกระบือเพศเมียทั่วประเทศที่ร่วมโครงการในครั้งนี้ ซึ่งการติดไมโครชิพจะติดตั้งที่โคนหางด้านขวาของกระบือเพศเมียทุกตัว จะเป็นเครื่องยืนยันว่า กระบือตัวนั้นมีแหล่งที่มาที่ใด ใครเป็นเจ้าของ มีการตรวจรักษา ฉีดวัคซีนป้องกันโรคตามระยะเวลาที่กำหนดไว้หรือไม่ และเป็นการช่วยตรวจสอบได้ผลอย่างชัดเจนหากว่ามีการลักขโมยกระบือหรือมีการขนส่งกระบือผ่านจุดตรวจ จุดสกัดกักกันสัตว์ตามที่ต่างๆ ทั่วประเทศ ซึ่งตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2558 ที่ผ่านมา กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมปศุสัตว์ได้ดำเนินการติดไมโครชิพในกระบือเพศเมียของธนาคารโคกระบือ และของเกษตรกรทั่วประเทศไปแล้วเป็นจำนวน 136,000 ตัว โดยมีแผนการดำเนินงานติดไมโครชิพให้แล้วเสร็จภายในเดือนกรกฎาคม 2559 และขยายการดำเนินการจนถึง 15 สิงหาคม 2559 เป็นจำนวน 583,146 ตัว
ข่าวเด่น