สรุปสภาวะตลาดทองคำแท่ง วันที่ 22 กรกฎาคม 2559
สภาวะตลาดวันที่ 22 กรกฎาคม 2559 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,322.35-1,333.85 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 21,950 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 50 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 21,900 บาทต่อบาททองคำ
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 15.46 น.ของวันที่ 22/07/16)
แนวโน้มวันที่ 25 กรกฎาคม 2559
ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ประกาศตรึงอัตราดอกเบี้ยเงินฝากไว้ที่ -0.4% และตรึงอัตราดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์ไว้ที่ 0.00% ซึ่งจะตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับปัจจุบันหรือต่ำกว่านั้นเป็นเวลานาน และจะทำเช่นนี้ต่อไปหลังจากโครงการเข้าซื้อสินทรัพย์สิ้นสุดลงแล้ว
และนายมาริโอ ดรากี ประธานอีซีบีย้ำว่า อีซีบีพร้อมที่จะดำเนินมาตรการ หากการ Brexit ส่งผลลบต่อแนวโน้มเศรษฐกิจยูโรโซน การแสดงความเห็นแบบสมดุลในครั้งนี้จะช่วยให้เวลาแก่อีซีบีจนถึงการประชุมในเดือนกันยายน ประเด็นดังกล่าวสอดคล้องกับคาดการณ์ของนักลงทุนซึ่งไม่ส่งผลต่อราคาทองคำมากนัก ขณะที่ราคาทองคำได้รับแรงหนุน จากถ้อยแถลงของนายฮารุฮิโกะ คุโรดะ ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ)ในการให้สัมภาษณ์ต่อสถานีวิทยุของบีบีซี
โดยถ้อยแถลงดังกล่าวทำให้นักลงทุนคาดการณ์ว่า บีโอเจจะไม่ใช้นโยบายโปรยเงินจากเฮลิคอปเตอร์ หรือการอัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่เศรษฐกิจโดยตรงผ่านทางการพิมพ์เงินใหม่ ทำให้สกุลเงินเยนแข็งค่าขึ้นและดัชนีดอลลาร์เมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินลงจากช่วงก่อนหน้า อย่างไรก็ตาม นักลงทุนจับตาการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ว่าจะมีการส่งสัญญาณต่อทิศทางการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 26-27 กรกฎาคมนี้หรือไม่
โดยรอยเตอร์เปิดเผยผลสำรวจระบุว่า นักเศรษฐศาสตร์คาดว่าเฟดจะรอหลังจากสหรัฐจัดการเลือกตั้งประธานาธิบดีในวันที่ 8 พฤศจิกายนไปแล้ว โดยเฟดมีแนวโน้มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 13-14 ธันวาคม ได้กระตุ้นแรงซื้อทองคำในระยะสั้น ทั้งนี้สำหรับนักลงทุนในประเทศ แนะนำติดตาตามการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทแข็งค่าสุดในรอบกว่า 11 สัปดาห์ ซึ่งการแข็งค่าของเงินบาทนั้นยังคงกดดันราคาทองคำในประเทศไว้ให้ปรับตัวขึ้นได้น้อยกว่าราคาทองคำต่างประเทศ โดยค่าเงินบาทยังคงได้รับแรงหนุนจากกระแสะเงินทุนไหลเข้าอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการฟื้นตัวของสกุลเงินเงินเยน
กลยุทธ์การลงทุน ทางวายแอลจีมีมุมมองว่า หากราคาทองคำทดสอบแนวต้านต่อไปที่ 1,343 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งนักลงทุนยังคงต้องระมัดระวังแรงขายทำกำไร เนื่องจากช่วงที่ผ่านมาราคาทองคำเมื่อมีการปรับตัวขึ้นแรงก็จะมีแรงขายทำกำไรออกมาแรงเช่นกัน โดยนักลงทุนที่สะสมทองคำไว้อาจมีการขายทำกำไรบางส่วนออกมาบ้าง โดยให้ดูว่าราคาจะผ่านแนวต้านได้หรือไม่ ถ้าสามารถผ่านไปได้ให้นักลงทุนที่รับความเสี่ยงสูงได้แนะนำให้ถือต่อไป เพื่อไปขายทำกำไรที่แนวต้านถัดไป และหากราคาทองคำมีการปรับตัวลดลงมา ไม่หลุดแนวรับ แนะนำนักลงทุนสามารถเก็งกำไร โดยให้เน้นไปที่การเข้าซื้อ ทั้งนี้ประเมินแนวรับไว้ที่ 1,318 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยมีแนวรับถัดไปอยู่ที่ 1,310 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,318 (21,760บาท) 1,310 (21,620บาท) 1,300 (21,460บาท)
แนวต้าน 1,343 (22,170บาท) 1,353 (22,340บาท) 1,363 (22,500บาท)
ข่าวเด่น