เมื่อวันที่ 22 ก.ค. 59ที่ผ่านมา ประธานสภาธุรกิจสหรัฐอเมริกา-อาเซียน (United States – ASEAN Business Council – USABC) นำคณะนักธุรกิจสหรัฐอเมริกา เข้าเยี่ยมคารวะ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ณ ตึกสันติไมตรีหลังใน ทำเนียบรัฐบาล ภายหลังเสร็จสิ้นการหารือ พลตรีวีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวสรุปสาระสำคัญหารือดังนี้
นายกรัฐมนตรีแสดงความยินดีที่ได้พบกับคณะนักธุรกิจ USABC โดยปีนี้นับเป็นปีที่ 11 ในการก่อตั้งสำนักงาน USABC ที่กรุงเทพฯ พร้อมแสดงความขอบคุณที่ USABC นำคณะนักธุรกิจสหรัฐฯ เดินทางเยือนไทยอย่างสม่ำเสมอ แสดงให้เห็นถึงเชื่อมั่นและความสำคัญที่ USABC มีให้กับประเทศไทย
นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงสถานการณ์ในประเทศ ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมารัฐบาลมุ่งปฏิรูปประเทศ เดินหน้าตามโรดแมป การปฏิรูปประเทศในด้านต่างๆ ไปพร้อมกัน โดยเสริมสร้างรากฐานทางเศรษฐกิจควบคู่ไปกับเสถียรภาพความมั่นคงของประเทศ รวมถึงการสร้างบรรยากาศที่เอื้อต่อการลงทุน ที่ผ่านมารัฐบาลได้ดำเนินนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ การค้า และการลงทุนภายในประเทศ โดยเน้นโครงการลงทุนพัฒนาโครงสร้างขั้นพื้นฐานในหลากหลายด้านร่วมกับภาคเอกชน อาทิ โครงการขนส่งมวลชนในกรุงเทพฯ โครงการบริหารจัดการน้ำ และโครงการพัฒนาแหล่งพลังงานต่างๆ ทั้งนี้รัฐบาลยังได้พยายามเชื่อมโยงการเติบโตทางเศรษฐกิจและการค้าจากชุมชนไปยังระดับเมือง ประเทศ ภูมิภาค และสนับสนุน SMEs ในไทยซึ่งเป็นกลไกสำคัญในการผลักดันเศรษฐกิจของประเทศ
นายกรัฐมนตรีย้ำนโยบายการสร้างเสริมความเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจ การค้าและการลงทุนในอาเซียน และการขยายความร่วมมือทางเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้าน รัฐบาลได้ดำเนินนโยบายลดอุปสรรคการส่งออกเพื่อให้การค้าเกิดความคล่องตัว ตลอดจนลดขั้นตอนของกระบวนการด้านธุรกรรมการเงินและงานด้านเอกสารที่เกี่ยวข้อง พร้อมทั้งแสวงหาตลาดที่มีศักยภาพเพื่อขยายฐานการส่งออกให้ครอบคลุมถึงการค้าชายแดน ซึ่งรัฐบาลได้ผลักดันการตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษ เพื่อกระตุ้นการค้า การลงทุน และการเชื่อมโยงให้มีความครอบคลุมมากที่สุด
สำหรับปัญหาการปราบปรามการทุจริต รัฐบาลเห็นว่าเป็นวาระสำคัญของชาติ ที่ผ่านมารัฐบาลได้พยายามแก้ปัญหาดังกล่าวอย่างจริงจัง เพื่อป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ รวมถึงการปรับปรุงการจัดซื้อจัดจ้างของภาครัฐให้มีความโปร่งใสและตรวจสอบได้ สำหรับการแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ รัฐบาลได้ดำเนินการอย่างเต็มที่ รวมถึงการปรับปรุงและบังคับใช้กฎหมาย อย่างไรก็ตามรัฐบาลไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้โดยลำพัง ทุกภาคส่วนต้องร่วมมือกันอย่างแข็งขันและทำงานอย่างเป็นระบบ
นายกรัฐมนตรีกล่าวว่ารัฐบาลได้สนับสนุนการลงทุนของภาคเอกชนในทุกด้าน ทั้งการปรับปรุงระเบียบการค้าเพื่อลดอุปสรรคทางกฎหมายและมาตรการทางการค้าการลงทุนของไทยให้เป็นสากล การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อสร้างความเชื่อมโยงทั้งในประเทศและกับภูมิภาคอาเซียน การปฏิรูปด้านการศึกษาเพื่อเร่งพัฒนาบุคลากรที่มีคุณภาพ เพื่อรองรับการเติบโตของประเทศในอนาคต
ทั้งนี้นายกรัฐมนตรีแสดงความขอบคุณ USABC อีกครั้ง และหวังว่า USABC จะได้รับทราบและเข้าใจถึงความมุ่งมั่นของรัฐบาลในการปฏิรูปประเทศในทุกทาง และยืนยันว่าไทยยังคงมีศักยภาพที่จะร่วมมือกับสหรัฐฯ ได้อีกมาก
โอกาสนี้ USABC แสดงความขอบคุณที่นายกรัฐมนตรีได้แสดงวิสัยทัศน์และแนวนโยบายเศรษฐกิจไทย และกล่าวว่า USABC เข้าใจสถานการณ์ของไทยเป็นอย่างดี และยินดีที่จะลงทุนในไทยอย่างต่อเนื่อง USABC ยังเห็นว่าไทยเป็นศูนย์กลางการค้าการลงทุนในภูมิภาคอาเซียนที่สำคัญ และมีศักยภาพทางเศรษฐกิจอีกมาก และหวังจะขยายความร่วมมือกับภาครัฐในรูปแบบการเป็นหุ้นส่วน PPP ในสาขาต่างๆ อาทิ การบริหารจัดการน้ำเป็นต้น
นอกจากนี้ USABC ยังได้เสนอแนะแนวทางและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับการเพิ่มพูนความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างกัน อาทิ การปรับปรุงกฎระเบียบบางเรื่องเพื่ออำนวยความสะดวกในการดำเนินธุรกิจ แนวทางในการก้าวข้ามกับดักรายได้ปานกลาง การเร่งก่อสร้างซ่อมแซมโครงสร้างพื้นฐานเพื่อรองรับการขยายตัวทางเศรษฐกิจ และการปรับแก้หลักเกณฑ์การเสียภาษีที่เป็นธรรมเป็นต้น
อนึ่ง USABC เป็นองค์กรธุรกิจที่มีสมาชิกเป็นบริษัทชั้นนำที่เข้ามาลงทุนหรือทำธุรกิจกับประเทศไทยและในอาเซียน มีบทบาทในการสนับสนุนและส่งเสริมความสัมพันธ์ด้านการค้าการลงทุนระหว่างไทยกับสหรัฐฯ ในการเยือนครั้งนี้ประกอบด้วยนักธุรกิจสหรัฐฯ และผู้บริหารของ USABC จำนวน 57 รายจาก 24 บริษัท ในอุตสาหกรรมด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร พลังงาน ยานยนต์ ก่อสร้าง เครื่องมือแพทย์ โลจิสติกส์ เป็นต้น อาทิ บริษัท AIG, Apple, Cigna, Chevron, Mead Johnson เป็นต้น
ข่าวเด่น