หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์พลังงาน บมจ.ไทยออยล์ รายงานสถานการณ์น้ำมัน ประจำวันที่ 25 ก.ค. 2559ราคาน้ำมันดิบปรับลด หลังจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบในสหรัฐฯ ปรับเพิ่มขึ้น
(-) ราคาน้ำมันปรับตัวลดลง หลัง Baker Hughes รายงานตัวเลขจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบในสหรัฐฯ สิ้นสุด ณ วันที่ 22 ก.ค. ปรับเพิ่มขึ้น 14 แท่น และมีจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบรวมที่ 371 แท่น โดยที่ผ่านมาราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่มขึ้นแตะ 50 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ส่งผลให้ผู้ผลิตน้ำมันดิบเริ่มที่จะกลับมาดำเนินแท่นขุดเจาะน้ำมันอีกครั้งและทำให้จำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบปรับเพิ่ม 55 แท่นในเดือน มิ.ย.
(-) ปริมาณการส่งออกน้ำมันดิบของอิรักปรับตัวเพิ่มขึ้นในเดือน ก.ค. ส่งผลให้อิรักกลับมามีการส่งออกอยู่ในอันดับสองของกลุ่มโอเปก หลังจากที่มีปริมาณการส่งออกน้ำมันดิบลดลงในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา โดยเมื่อปีที่ผ่านมาอิรักมีอัตราการส่งออกน้ำมันดิบเพิ่มสูงสุดในกลุ่มโอเปก อัตราการเติบโตของการส่งออกน้ำมันดิบในปีนี้ลดลงเนื่องจากมีการปิดซ่อมบำรุงและมีปัญหาทางเทคนิค ประกอบกับมีอุปสงค์ในประเทศค่อนข้างสูง
(-) ตลาดยังคงมีความกังวลต่อภาวะอุปทานน้ำมันดิบล้นตลาดในสหรัฐฯ หลังประกาศของสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานของสหรัฐฯ (EIA) ที่รายงานตัวเลขปริมาณน้ำมันดิบปรับเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 519.5 ล้านบาร์เรลเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับที่สูงเมื่อเทียบกับช่วงระยะเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า ถึงแม้ว่าปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ปรับตัวลดลงเป็นเวลา 9 เดือนติดต่อกันก็ตาม นอกจากนี้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ แข็งค่าขึ้นต่อเนื่องเป็นเวลา 4 เดือนติดต่อกัน ส่งผลให้นักลงทุนหันไปลงทุนในตลาดเงินดอลลาร์สหรัฐฯ แทนที่ตลาดน้ำมันและตลาดเงินสกุลอื่นๆ
ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับลดลงน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากมีปริมาณความต้องการน้ำมันเบนซินจากประเทศเปรูและเม็กซิโก แต่อย่างไรก็ตามปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังในประเทศสิงคโปร์ปรับเพิ่มขึ้น 327,000 บาร์เรล
ราคาน้ำมันดีเซล ปรับลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากมีปริมาณน้ำมันดีเซลคงคลังในประเทศสิงคโปร์ปรับตัวเพิ่มขึ้น0.91ล้านบาร์เรล สู่ระดับสูงสุดในรอบ 5 สัปดาห์
ไทยออยล์คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์นี้
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสเคลื่อนไหวในกรอบ44-49 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 45-50เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ปัจจัยที่น่าจับตามอง
จับตาการผลการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fe) ในวันที่ 26-27 ก.ค. นี้ ว่า Fed จะพิจารณาปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหรือไม่ โดยตลาดคาดการณ์ว่า Fed จะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมประจำเดือน ก.ค. ที่จะถึงนี้ เนื่องจากยังคงเฝ้าระวังผลกระทบจากการที่สหราชอาณาจักรลงประชามติออกจากสหภาพยุโรป
กองทุนการเงินระหว่างประเทศได้ปรับลดการคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกประจาปี 2559 และ 2560 โดย IMF คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจโลกจะขยายตัว 3.1% ในปี 2559และ 3.4% ในปี 2560ซึ่งปรับลดลง 0.1% จากการคาดการณ์ในเดือนเม.ย. ที่ระดับ 3.2% และ 3.5% ตามลำดับ
ระดับราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นใกล้ระดับต้นทุนการผลิตที่ 50 เหรียญสหรัฐฯ ส่งผลให้ผู้ผลิตบางรายในสหรัฐฯ เริ่มกลับมาดำเนินการผลิต โดย Baker Hughes รายงานปริมาณแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
โดย หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์พลังงาน บมจ.ไทยออยล์ ประจำวันที่ 25 ก.ค. 2559
ข่าวเด่น